Ep : 5. สกปรก
แทนตื่นแต่เช้ามาทำงานที่ไร่ ส่วนแผลนั้นก็ไม่ได้ล้าง เพราะล้างเองไม่สะดวก จึงจะให้ผู้จัดการไร่ วัยกลางคนอย่างปรีชาช่วยล้างแผลให้
“คุณแทนจะล้างแผลเหรอคะ” ยังไม่ทันได้ให้ปรีชาล้างแผลให้ เสียงเล็กของฉวีก็ดังขึ้น
“ครับ คุณฉวี”
“เดี๋ยวฉวีทำให้นะคะ” หล่อนเอ่ยอาสาแล้วมองไปทางผู้จัดการวัยกลางคนเพื่อส่งสายตาไล่
“ผมทำให้คุณแทนดีกว่าครับคุณฉวี” ปรีชาเอ่ยแทรกขึ้นจากที่เงียบอยู่
“ขอบคุณครับ ผมไม่รบกวนคุณฉวีดีกว่าครับ” เขาตอบปฏิเสธ เพราะมองออกมาตลอดว่านักวิชาการเกษตรสาวนั้นคิดเช่นไรกับตน
“ค่ะ งั้นฉวีขอตัวไปดูปุ๋ยหมักก่อนนะคะ”
“ครับ” แทนยิ้มแห้งๆ ให้หล่อนแล้วก็หันมาสนใจแผลตัวเอง
ฉวีหมุนตัวเม้มปากแน่นเดินจากไปด้วยความไม่พอใจเจ้านายหนุ่ม หล่อนพยายามเข้าหา แต่แทนก็มีกำแพงกีดขวางหล่อนตลอด
“ทำไมไม่ให้คุณษรทำให้ที่บ้านครับคุณแทน” ผู้จัดการวัยกลางคนแม้จะรู้ว่าตอนนี้เจ้านายกับนายหญิงมีปัญหากัน แต่ก็ยังอยากถาม
“ผมไม่อยากรบกวนเธอ”
“อ้อ...ครับ งั้นเข้าไปในห้องทำงานเถอะครับ ผมจะทำแผลให้ แล้วนี่ทานมื้อเช้ารึยังครับ” เขาถามเพราะว่าเจ้านายหนุ่มมาทำงานแต่เช้า จริงๆ หลายวันมานี้ก็มาแต่เช้า มาทานข้าวพร้อมคนงานที่โรงอาหารทุกวัน และตอนเย็นจะกลับก็ทานกับคนงานและดื่มทุกวันถึงจะกลับบ้านได้
แทนไม่พูด แต่เดินเข้าห้องทำงานตัวเองเพื่อให้ผู้จัดการวัยกลางคนทำแผลให้ตัวเอง
บรรยากาศในบ้านมืดบอดมาจนตอนนี้เธอท้องได้หกเดือน ส่วนสามีนั้นแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน เขาดื่มหนักกลับบ้านทุกวัน คนที่มาส่งก็เป็นคนงานในไร่ และวันนี้ก็เช่นกัน เธอเดินออกมาจากห้องมาส่องดูเขาที่ถูกหิ้วปีกกลับบ้านในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
“ทำไมวันนี้เป็นคุณฉวีล่ะคะ” นภษรเอ่ยถาม
“ทำไมจะเป็นฉันไม่ได้คะคุณษร”
หล่อนถามกลับพร้อมกับโอบกอดเอวหนาของเจ้านายแน่นพร้อมส่งยิ้มเย้ยหยันไปให้กับภรรยาของเจ้านาย
“อือ...แล้วเธอยุ่งไรด้วยษร อึก!” คนที่เมาก็ปรือตามองภรรยาตัวเองแล้วถาม
“ษรเป็นเมียคุณแล้วคุณให้ผู้หญิงมาส่งถึงห้อง ทำไมจะยุ่งไม่ได้คะ” คนท้องเอ่ยกลับแล้วก็เดินเข้าใกล้คนทั้งสองจะแย่งสามีมาโอบกอดประคองไว้เอง แต่ถูกมือของฉวีผลักดันอกไว้
“ฉันจะไปส่งคุณแทนในห้องให้ถึงเตียงเอง ส่วนคุณษรกลับห้องคุณไปเถอะค่ะ ท้องอยู่ไม่ควรนอนดึก กลับห้องคุณได้แล้ว อีกอย่างคุณแทนก็บอกว่าไม่ต้องการคุณแล้วนี่คะ เห็นว่ารอหย่าอยู่ไม่ใช่เหรอคะ” หล่อนตอบโต้กลับอย่างไร้ยางอาย
นภษรไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของนักวิชาการสาวที่ตนคิดว่าเป็นพี่สาวที่สนิท ตอนนี้รู้แล้วว่าฉวีนั้นคิดยังไงกับสามีของตน
“แต่ฉันกับคุณแทนก็ยังไม่ได้หย่ากันนี่คะ ถ้าคุณไม่ส่งเขาให้ฉัน ฉันจะโทรไปบอกที่บ้านคุณน้าว่าคุณ...”
“ได้! อย่าเผลอก็แล้วกัน ไม่วันนี้ก็วันหน้า คุณแทนก็ต้องเป็นของฉัน” แล้วฉวีก็ส่งแทนให้กับนภษรโอบประคองแล้วตนก็เดินทิ้งส้นเท้าหนักๆ จากไป
“ไม่ต้องมาแตะต้องฉัน อึก!” แม้จะเมาหนัก แต่ก็สะบัดตัวดิ้นจากวงแขนเล็กที่โอบกอดเอวหนาตัวเองไม่ให้แตะต้องตัวเอง
“แต่คุณเมามากนะคะ เดี๋ยวษรไปส่งคุณที่เตียง แล้วษรก็จะไปค่ะ” เธอบอกสามีแล้วกอดเอวหนาแน่นแล้วเปิดประตูประคองร่างสูงใหญ่ที่ต่อต้านตัวเองพาไปยังเตียงนอน พอถึงเตียงเธอก็ปล่อยเขาล้มลงบนเตียง แล้วยกขาทั้งสองเขาขึ้นเตียง จัดท่านอนให้นอนสบายตัวแล้วเดินกลับไปปิดประตูห้องแล้วเดินกลับมายังเตียงเพื่อจะถอดเสื้อผ้าเปื้อนเหงื่อจากการทำงานของเขาออกให้และเช็ดตัวให้เขาจะได้นอนหลับสบาย
“อือ! ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน! อึก!” แม้จะหลับตา แต่ก็ปัดมือน้อยที่กำลังปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วขยับตัวนอนคว่ำหน้า
“คุณแทนคะ นอนแบบนี้ไม่ได้นะคะ” นภษรเขย่าแขนของเขาและพยายามจับร่างใหญ่พลิกตัวนอนหงาย แต่ก็ลำบากเหลือเกิน เขาตัวหนักจนเธอต้องยอมแพ้
เฮ้อ!
นภษรถอนหายใจแล้วเดินไปเปิดไฟมุมห้องให้ห้องสว่าง แล้วก็เห็นสภาพห้อง เธอไม่ได้มาเก็บห้องให้เขา เพราะเขาไม่ให้เข้ามาในห้อง บ้านหลังนี้ไม่มีแม่บ้าน เพราะเธออยากทำทุกอย่างเอง มันคืองานที่เธอชอบทำ
“ทำไมรกแบบนี้นะ เสื้อผ้าก็เกลื่อนห้อง แถมโต๊ะทำงานก็รก” คนท้องโตก็เก็บกวาดทำความสะอาดห้องให้สามี และกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง เธอมองไปยังเตียงที่เขานอนหลับสนิท กรนเสียงดังแล้วก็ยิ้ม แล้วก็เดินไปยังเตียงเมื่อตอนนี้แทนพลิกตัวนอนหงายแล้ว
“เดี๋ยวษรเช็ดตัวให้นะคะ คุณแทนจะได้นอนหลับสบาย”
เธอไม่รอช้าจัดการเปลื้องผ้าของสามีทันที เพราะหากว่าเขาพลิกตัวนอนคว่ำอีกคงได้ใส่ชุดสกปรกพวกนี้นอนหลับถึงเช้าแน่นอน เมื่อจัดการกับเสื้อผ้าของสามีเสร็จจนเหลือแต่กายเปลือยล่อนจ้อนก็พาร่างอุ้ยอ้ายตัวเองไปยังห้องน้ำเพื่อจะเปิดน้ำใส่กะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาเช็ดตัวให้สามีที่เกลียดชังตน
