บท
ตั้งค่า

บทที่3

“รินไม่เข้าใจโลกเลยลูก”

“….”

“ที่ครอบครัวหนูเขาไม่ว่าอะไร..ก็เพราะเขาไม่รู้ไงลูก..ว่าทั้งหมดเกิดจากการวางแผน..แล้วหนูไม่ใช่เหยื่อ”

“….”

“แต่กลับกัน…ถ้าพวกเขารู้ว่าหนูไม่ใช่เหยื่อ…เป็นเพียงไอ้อีที่มาแย่งทุกอย่างจากลูกแท้ๆ ยัยคุณหญิงอะไรนั่นจะยังรักลูกอยู่ไหม?”

คำว่า ‘ทุกอย่าง’ ถูกเน้นคำ พาให้คนฟังและคนที่แอบฟังสะเทือนอารมณ์ได้ไม่ยาก

“แล้วหนูอย่าลืมนะว่า คนที่ช่วยคุยให้ยัยน้องบริจาคตับก็คือพ่อกับแม่!!”

ขนิษฐาถึงกลับตัวแข็งทื่อ ดวงตาคู่สวยร้าวราน..ทุกอย่างที่ได้รับฟังเหมือนกับตอกย้ำว่าหล่อนโง่มากแค่ไหน

‘ลูก..แม่ขอร้องนะลูก ฮึก..ช่วยน้องรินด้วย..จริงอยู่ลูกทั้งสองไม่ใช่พี่น้องตามกันมา แต่น้องก็คือน้องของลูกนะ’ ความสัมพันธ์ที่ถูกยัดเยียดโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอถูกหยิบยกขึ้นมา

‘แล้วทำไม..แม่ไม่ให้ยัยนุช หรือพี่เชษฐช่วยละคะ?’

‘เฮ้ย ได้ที่ไหนกัน ลูกก็รู้ยัยนุชกำลังเรียนพยาบาล ส่วนพี่ชายลูกปีหน้ามีสอบเข้าเป็นตำรวจ..มีแต่ลูกเท่านั้นที่ช่วยทุกคนได้..นะลูกนะ แม่ขอร้อง’

‘….’

‘แม่สัญญา..ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะขอลูก’

คำกล่าวอ้างว่า ‘ครั้งสุดท้าย’ ทำให้หล่อนใจอ่อน ทว่าการเสียสละครั้งสุดท้ายนั้นไม่มีอยู่จริง..ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์นั้น หล่อนยังคงต้อง ‘เสียสละ’ อยู่ดี

‘ลูกเป็นพี่นะ ทำไมไม่เสียสละให้น้อง’ แม่สาลี่เคยบอกหล่อนตอนที่หล่อนตั้งใจเก็บเงินก้อนเพื่อเป็นค่าเทอมปีต่อไป ทว่าน้องสาวเองก็ขาดทุนทรัพย์ในการเข้ามหาวิทยาลัยเอกชน..ดังนั้นหล่อนต้องเสียสละให้น้อง

‘นิดเขาบอกพี่ว่า..ถ้าปีนี้ไม่ดาวน์บ้าน..เขาจะไม่ยอมแต่งงานกับพี่..น้องช่วยพี่ก่อนได้ไหม’ พี่ชายจอมเสเพลผู้สอบกี่ครั้งก็ยังไม่ติดราชการอ้อนวอนร้องขอ พอหล่อนปฏิเสธวลีเด็ดที่มารดาหยิบยกมาใช้ก็ไม่ได้ต่างจากเดิม

‘ยัยน้อง ต้องรักและเคารพพี่สิ มีอะไรก็ให้พี่ก่อน พอพี่เขาสำเร็จจะได้กลับมาช่วยพวกเราไง’

ขนิษฐาคิดอย่างเจ็บปวดใจ ทำไมตอนนั้นหล่อนไม่เห็นความเสแสร้งที่แม่จอมปลอมแสดงนะ หยาดน้ำใสซึมตรงหัวตา..หญิงสาวพยายามกะพริบไล่

หมดเวลาแล้วสำหรับผู้หญิงโง่งมและอ่อนแอ

คอยดูหล่อนจะทำให้ไอ้อีพวกนี้ รวมถึงลูกจอมปลอมไม่มีโอกาสยืนในสังคม

“เหอะ..พวกคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ที่ฉันเจ็บป่วยก็เพราะได้เชื้อชั้นต่ำจากพวกแกนั่นแหละ” ไฮโซสาวผู้ไม่ยอมรับเชื้อสายที่แท้จริงโวยวายเสียงดัง เพราะถ้าหล่อนไม่ป่วย ความจริงที่ว่าหล่อนไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตระกูลวรรณศิลป์ก็คงไม่แตก

และการที่ธารินเลือกมาคุยที่บ้านหลังนี้ แทนที่จะไปคุยข้างนอกก็เพราะไม่อยากให้คนทั่วไปรู้ถึงชาติกำเนิดที่แท้จริง ด้วยตระกูลวรรณศิลป์นั้นประกาศกับสังคมเพียงว่าขนิษฐาเป็นแค่ลูกบุญธรรม เหตุเพราะไม่อยากให้ลูกตัวปลอมเสียใจ

ทว่าแม่กับพ่อแท้ๆ ที่ลงทุนทั้งผลักทั้งดันลูกสาวเข้าสู่ตระกูลใหญ่ไหนเลยจะพอใจ แน่ละ ‘ลูกแท้ๆ’ ที่เป็นแหล่งรายได้ในอนาคตย่อมดีกว่า ‘ลูกนอกไส้’ ที่เป็นเพียงช้างม้าวัวควายที่พวกหล่อนหลอกใช้งาน

“ริน..แม่บอกหนูหลายครั้งแล้วนะ ให้เรียกพ่อกับแม่..มาคนมาคุณอะไร..ไม่รื่นหูเลยลูก” แม่สาลี่พยายามใช้น้ำเย็นปะเหลาะ พร้อมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้

“พอเถอะค่ะ ครอบครัวของหนูคือตระกูลวรรณศิลป์ หนูมีพ่อเป็นรัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาล แม่หนูเองก็เป็นคุณหญิงตราตั้ง..หนูไม่มีวันนับพวกคุณเป็นครอบครัวเด็ดขาด!!”

นายมานพผู้พ่อได้ยินถึงกับชี้นิ้วเต้นผ่าง

“อกตัญญู นังสาลี่เอ็งดูมัน..ดูนังลูกเลวคนนี้”

“เอาน่าๆ คุณก็ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากับลูก”

“นังสาลี่ มึงเข้าข้างใครกันแน่วะ มึงต้องเข้าข้างผัวมึงนี่” คำสรรพนามหยาบคายถูกพ่นออกมา นังสาลี่รีบป้องปากกระซิบขู่ข้างหู

“พี่จะเอาไหมเงินเนี่ย” คำว่าเงินทรงอิทธิพลกับผีพนันเป็นอย่างมาก เพราะลูกคนกลางที่สามารถไถเงินได้ตลอดเวลา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel