บท
ตั้งค่า

ตอนที่2

ทั้งคู่ยื้อแย่งกันอยู่พักใหญ่ ร่างเล็กที่เริ่มหมดแรงถูกกดให้ขนาบไปกับเตียงโดยมีร่างหนาที่พยายามปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอไปด้วย อัญริสาอาศัยจังหวะที่อีกคนกำลังจดจ่ออยู่กับกระดุมนักศึกษาของเธอที่ถอดค่อนข้างยาก เธอยกขาเตะเข้าที่กล่องดวงใจของเขาเข้าอย่างจัง

“โอ๊ย! อีริสา” ชายหนุ่มร้องโหยหวน เขาปล่อยมือจากตัวของเธอแล้วกุมเบื้องล่างของตัวเองด้วยความเจ็บปวด

“ไอ้สารเลว” สองขาคู่ยกถีบยอดอกจนอีกคนเซล้มไปกับเตียง ด้วยความโมโหเธอจึงกระโจนเข้าไปตบหน้าเขาอย่างแรง

เพียะ! เพียะ! ฝ่ามือเล็กตบแก้มซ้ายแก้มขวาอย่างเหลืออดจนอีกฝ่ายรู้สึกชาไปทั้งหน้าแถมยังมีเลือดซิบที่มุมปาก

“ทำอะไรกันน่ะ!” เสียงของบุคคลมาใหม่ตะคอกเสียงดัง เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่กำลังเดือดพล่านกับภาพที่เห็น

ภาพตรงหน้าคือลูกสาวกำลังขึ้นคร่อมสามีของตนด้วยสภาพที่กระดุมเสื้อนักศึกษาถูกถอดออกหมดจนเห็นชุดชั้นในทำให้คนที่เพิ่งมากำหมัดแน่นด้วยความโมโห

“อีลูกชั่ว คิดจะแย่งผัวแม่ตัวเองงั้นเหรอ” ผู้เป็นแม่เข้ามาคว้าผมแล้วกระชากลูกสาวจนตัวปลิว

“แม่ฟังหนูก่อนสิ ผัวใหม่แม่มันเข้ามาห้องหนูนะ” อัญริสาพยายามอธิบายให้แม่ที่ไม่ฟังเหตุผลฟัง ทั้งที่เธอไม่ใช่คนผิดด้วยซ้ำ

“หุบปาก! มึงมันร่านอีริสา กูไม่น่ามีลูกแรดๆ แบบมึงเลย”

“แม่ ทำไมต้องว่าหนูขนาดนั้นด้วย หนูเป็นฝ่ายโดนกระทำนะ”

“พี่ราตรีช่วยผมด้วยครับ อยู่ๆ ริสาก็บังคับให้ผมมาที่ห้องของเธอแล้วก็ขึ้นคร่อมผมทั้งที่ผมปฏิเสธไปแล้ว” สามีรุ่นน้องรีบเข้ามากอดเอวฟ้องภรรยาด้วยสีหน้าที่น่าสงสารพร้อมกับโยนความผิดทั้งหมดให้อัญริสา

“โกหก! แกต่างหากที่ทำฉัน”

“ผมรักและมีพี่ราตรีคนเดียว ผมเอ็นดูริสาเหมือนลูกผมจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ” ชายหนุ่มตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ตัวเองถูกกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำ

“ไอ้ชั่ว!”

“หยุดนะอีริสา!” ผู้เป็นแม่ชี้นิ้วสั่งให้ลูกสาวที่กำลังจะง้างมือตบพ่อเลี้ยงให้หยุดการกระทำ

“แม่ ไอ้สารเลวนี่มันโกหก”

“มึงนั่นแหละโกหก ตอแหลเก่งเหมือนพ่อมันไม่มีผิด”

“แม่!” อัญริสาโกรธสามีใหม่ของแม่และน้อยใจที่แม่ไม่คิดจะฟังเธอบ้าง ทั้งโกรธทั้งเสียใจจนอยากร้องไห้

“ไม่ต้องมาเรียกแม่ ต่อจากนี้กูไม่มีลูกร่านๆ คิดจะแย่งผัวแม่แบบมึง ไสหัวออกจากบ้านกูไปแล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก” ผู้เป็นแม่ก่นด่าลูกสาวและไล่เธอราวกับไล่หมูไล่หมา

“ยืนนิ่งอยู่อีก กูบอกให้ไสหัวออกไป!”

อัญริสายืนนิ่งตัวแข็งทื่อในหัวขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นพยายามข่มอารมณ์ทั้งหมดที่มี ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยคราบน้ำตาของความโกรธและเสียใจ แต่ในเมื่อถูกเอ่ยปากไล่ถึงสองครั้งเธอจึงยอมไป

หญิงสาวออกจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็กพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเดียวที่ติดตัวออกมาด้วย เธอไม่มีเวลาได้เก็บของหรือร่ำลาผู้เป็นแม่ดีๆ เสียด้วยซ้ำ คนที่ไร้จุดหมายปลายทางไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้วจึงต้องเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางอย่างอ้างว้าง คนที่เหมือนที่พึ่งสุดท้ายอย่างพ่อแท้ๆ ก็ขาดการติดต่อไปหลายปีเธอไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อไปอยู่ที่ไหนตั้งแต่มีครอบครัวใหม่ท่านก็คงลืมลูกอย่างเธอไปแล้ว

หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ฟัง คนตัวเล็กก็ปิดหน้าร้องไห้สะอื้นไหล่สั่นจนคนอื่นที่อยู่ในร้านหันมามองเพราะคิดว่าเขารังแกเธอ

“นี่ๆ หยุดร้องไห้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นคิดว่าฉันทำเธอร้องไห้” ชานนท์ไม่ชอบการเป็นจุดสนใจในเรื่องแบบนี้เขารีบสั่งให้เธอหยุดร้องไห้

“ฮึก...ขอโทษค่ะ”

“แล้วเธอจะเอายังไงต่อ”

“ฉันคงต้องดร็อปเรียนก่อนแล้วไปทำงานหาเงินค่ะ” อัญริสาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เพราะเทอมหน้าเธอต้องหาเงินจ่ายค่าเทอมเอง ไหนจะค่ากินค่าอยู่ ที่พักไว้ซุกหัวนอนคืนนี้ก็ยังไม่มี

“เฮ้อ! ถ้ากินอิ่มแล้วก็ตามฉันมา” ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปที่รถของตนเองอีกครั้ง

อัญริสาถูกพามาที่บ้านหลังหนึ่งขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป รถคันหรูจอดสนิทที่หน้าบ้านทำให้เธอตกใจด้วยความระแวง

“คุณพาฉันมาที่บ้านคุณทำไมคะ”

“บ้านหลังนี้ฉันไม่ได้อยู่หรอก เธออยู่ที่นี่ไปก่อนก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วยื่นกุญแจบ้านส่งให้เธอ คนที่เพิ่งเจอและช่วยชีวิตเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

“ทำไมคุณต้องช่วยฉันขนาดนี้คะ เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย”

“ฉันไม่ชอบเห็นคนลำบากน่ะ เธอก็อยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าจะตั้งหลักได้แล้วกัน ส่วนเรื่องเรียนก็ไม่ต้องดร็อปหรอก เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเทอมให้”

“คะ? ไม่เป็นไรค่ะ คุณช่วยฉันมากพอแล้วค่ะ” อัญริสารีบโบกมือปฏิเสธพัลวัน เธอรับน้ำใจจากเขามากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

“เอาเถอะน่า เอาไว้เธอมีเงินก็ค่อยจ่ายคืนฉันก็ได้”

“แต่ว่า...”

“คืนนี้ดึกมากแล้ว เธอไปพักเถอะ ในบ้านน่าจะมีเสื้อผ้าอยู่เธอก็เปลี่ยนซะ”

“ขอบคุณนะคะคุณชานนท์”

“เรียกฉันว่านนท์ก็พอ”

“ค่ะคุณนนท์” ริมฝีปากเผยรอยยิ้มสวยส่งให้เขาอย่างจริงใจ เขาเปรียบเสมือนเทวดามาโปรด เป็นผู้มีพระคุณในชีวิตของเธอ

เมื่อรถของเขาขับออกไปไกลจนลับสายตาอัญริสาก็เริ่มสำรวจภายในบ้านที่เหมือนเพิ่งมีคนย้ายออกไปได้ไม่นาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อยู่ครบครันอีกทั้งในตู้เสื้อผ้ายังมีชุดเดรสและชุดนอนของผู้หญิงหลงเหลืออยู่

“คงเป็นของคนในครอบครัวเขาแหละมั้ง” อัญริสาไม่ได้นึกเอะใจแต่อย่างใด เธอค่อนข้างไว้ใจเขาและคิดว่าเขาเชื่อใจได้

อัญริสาได้กินอิ่มนอนหลับได้โดยไม่ต้องระแวง เธอไม่ต้องพักการเรียน ไม่ต้องลำบากหาเงินประทังชีวิตเพราะชานนท์เป็นคนจัดการให้ทั้งหมด แม้ว่าเธอจะปฏิเสธ ทว่าไม่นานหลังจากที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เลขาของเขาก็นำบัตรเครดิตมาให้ อัญริสามึนงงจนทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยอมรับไว้เพราะปฏิเสธไม่ได้

คนที่เป็นฝ่ายรับมาตลอดอยากที่จะให้อะไรตอบแทนเขาบ้างด้วยการทำตามคำสั่งและเชื่อฟังสิ่งทุกอย่างที่เขาบอกจนในที่สุดความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากผู้มีพระคุณก็กลายเป็นเจ้าของชีวิตโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวก้าวเท้าเข้าสู่สถานะคนในความลับของเขาหลังจากตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนเขา เธอมอบครั้งแรกให้เขาด้วยความเต็มใจและให้สัญญาว่าจะมีแค่เขาคนเดียวจนกว่าเขาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากไล่เธอให้ออกไปจากชีวิตของเขา

ชานนท์ก็ไม่ปฏิเสธเพราะเขาก็ได้ประโยชน์จากเธอเช่นกัน เธอได้ทุกอย่างที่อยากได้ส่วนเขาก็ได้ปลดปล่อย ซึ่งผู้หญิงคนก่อนหน้านี้เพิ่งสร้างความรำคาญให้จนถูกเขาไล่ไปก่อนหน้าที่จะเจออัญริสา การที่เธอเสนอตัวแบบนี้ย่อมเป็นผลดีกับเขาที่จะได้ไม่ต้องหาตัวแทนคนใหม่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel