บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 - เฉยเมย

ครืด~ ครืด~ ร่างบางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน สมาร์ตโฟนที่กำลังแผดเสียงร้องดังลั่นสามารถเรียกความสนใจของเธอได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกปวดร้าวเป็นสิ่งแรกที่สัมผัสได้ทันทีที่ขยับตัว ดวงตาคู่กลมวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหาชายหนุ่มแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา

“ฮึก…ปาลิน” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความกังวลใจ หลังจากหน้าจอปรากฏชื่อของน้องสาวที่โทรเข้ามา

ติ๊ด!

(ลินโทรหาทำไมไม่ยอมรับสาย ไม่รู้หรือไงว่าเป็นห่วง) เสียงเล็กแหลมของปาลินดังแทรกขึ้นมาจนแสบแก้วหูทันทีที่กดรับสาย

“พี่ขอโทษนะ พอดีแบตมันหมดเพิ่งได้ชาร์จโทรศัพท์น่ะ”

(แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ปริมบอกจะกลับห้าทุ่มแล้วทำไมเมื่อคืนไม่กลับมานอนที่บ้าน)

“เอ่อ…เมื่อคืนพี่อยู่ค้างที่บ้านสายธารน่ะ” ปาลิดาเลือกที่จะโกหกเพราะไม่พร้อมที่จะเล่าให้ใครฟัง

(เฮ้ออ~ ให้มันได้แบบนี้! ไม่รู้หรือไงว่าทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงนะ คราวหลังจะไปไหนมาไหนก็บอกกันด้วยสิ)

ร่างบางเลือกที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี เพราะรู้ตัวว่าทำผิดไปจริงๆ

“พี่ขอโทษนะ สัญญาว่าครั้งหน้าจะไม่หายไปแบบนี้อีก”

(เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้ปริมต้องรีบกลับบ้านนะ เพราะพ่อเพิ่งโทรมาบอกว่าไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจะถึงบ้านแล้ว)

“ไหนพ่อบอกว่าอีกสามวันจะกลับมาไง”

(ติดปัญหากับลูกค้านิดหน่อยเลยกลับมาก่อน)

“…..” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่นเมื่อได้ยินสิ่งที่น้องบอก

ถ้าพ่อรู้ว่าเธอแอบมานอนค้างคืนกับชายหนุ่มแบบสองต่อสองคงเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่ๆ

(ถ้าปริมไม่อยากตอบคำถามของพ่อก็รีบกลับมาตอนนี้เลย)

“ดะ…เดี๋ยวพี่จะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย”

แกร๊ก~ บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกด้วยความรีบร้อน ก่อนจะเห็นเธียรธรรมนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้าที่ห้องนั่งเล่น

แต่แล้วใบหน้าก็เริ่มเห่อร้อนขึ้นมาด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เพิ่งผ่านพ้นมา

“คุณเธียรเห็นเสื้อผ้าของปริมไหม?”

“เสื้อผ้าของเธอฉันเพิ่งส่งไปซัก เอาของฉันไปใส่ก่อน”

“ปริมต้องกลับบ้านแล้ว คุณเธียรช่วยไปส่ง…”

“ฉันไม่ว่างไปส่ง คงหาวิธีกลับเองได้ใช่ไหม”

เธอกดข่มอารมณ์ผิดหวังเมื่อได้ยินคำตอบที่ไร้เยื่อใย แต่ก็เลือกจะเงียบแล้วเดินออกมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

“ปริมกะ…กลับเองได้ค่ะ”

“เงินวางอยู่หน้าทีวี อยากได้เท่าไหร่ก็หยิบไป” เขาพูดประโยคนั้นออกมาโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอด้วยซ้ำ

“…..” ท่าทางเย็นชาที่เขาแสดงออกมามันยิ่งทำให้เธอรู้สึกจุกอกจนอยากจะร้องไห้ เธอไม่ได้ต้องการเงิน แต่เธอแค่ต้องการความรักจากเขา…

-บ้านสิริรัฐภาค-

ปาลิดาหอบร่างกายที่แสนบอบช้ำเดินเข้ามาในบ้านอย่างอ่อนล้า สองแขนเรียวยกมือขึ้นกุมท้องตลอดเวลาเพราะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ขยับขาก้าวเดิน

“ทำไมใส่ชุดนี้อ่ะ ไปเอาเสื้อผ้าใครมาใส่เนี่ย?”

ปาลินรีบเดินเข้าไปถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นปริมสวมใส่เพียงเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงนอนขายาวของผู้ชาย

“อย่าเพิ่งถามอะไรพี่เลยนะ ตอนนี้พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน”

“…..” เธอได้แต่นั่งมองตามแผ่นหลังของพี่สาวที่เดินหนีเข้าห้องน้ำไป ท่าทางของปริมดูอ่อนแรงจนอดสงสัยไม่ได้

ร่างบางใช้เวลาราวๆ เกือบสามสิบนาทีจัดการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาหาปาลินที่นั่งคอยอยู่

“คราวนี้จะบอกได้หรือยังว่าเมื่อคืนตัวหายไปนอนบ้านใครมา แถมยังเอาเสื้อผ้าของผู้ชายมาใส่อีก”

“ของเพื่อนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

“ของเพื่อนหรือของผู้ชายกันแน่?”

“ของเพื่อนจริงๆ”

“จะแกล้งเชื่อก็ได้ แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี ที่คอปริมมีรอยดูดด้วยอ่ะ”

“จะ…จริงเหรอลิน รอยดูดตรงไหน?” คนตัวเล็กออกอาการเลิ่กลั่ก ก่อนจะรีบวิ่งไปส่องกระจกบานใหญ่ภายในห้อง แต่กลับไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ

เธอถอนหายใจลากยาวเมื่อรู้ว่ากำลังเสียท่าโดนปาลินหลอกเข้าเสียแล้ว

“ลินแค่ล้อเล่น ว่าแต่ทำไมถึงได้ตกใจขนาดนั้น หรือเมื่อคืนปริมแอบไปทำอะไรมา”

“…..”

“แอบไปนอนกับผู้ชายมาใช่ไหม ลินจะฟ้องพ่อ”

“มะ…ไม่ใช่สักหน่อย อย่าพูดแบบนี้สิ” หญิงสาวบอกปฏิเสธถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจ เธอแค่ยังไม่พร้อมที่จะอธิบายอะไรตอนนี้

“แล้วยาคุมฉุกเฉินที่อยู่ในกระเป๋าหมายความว่ายังไง?” คนตัวเล็กจ้องมองใบหน้าของพี่สาวอย่างต้องการคำตอบ

แต่ครั้งนี้เธอพูดจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น ในกระเป๋าสะพายของปริมมีแผงยาคุมฉุกเฉินที่มีร่องรอยถูกแกะกินไปก่อนหน้านั้น

“…..”

ก๊อก~ ก๊อก~ ปาลิดาถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ

“น้องลิน น้องปริม คุณพ่อให้มาตามค่ะ มีของมาฝากมาให้พวกหนูเพียบเลย รีบมาเอานะคะ”

“ค่ะแม่” เมื่อสบจังหวะจึงรีบเดินหนีออกมา โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของน้องสาวแต่อย่างใด

“หึ่ย! ฝากไว้ก่อนเถอะ ยังไงลินก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเมื่อคืนปริมหายไปนอนกับใครมา”

“…..”

สองวันต่อมา

-บริษัทธราธร-

“มอนิ่งค่ะเพื่อนเลิฟ ทำหน้าซีดเหมือนกับไก่ต้ม เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอคะ?” สายธารเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทเมื่อกลับมาทำงานที่บริษัท แต่ครั้งนี้ดูจะผิดปกติเพราะปาลิดาดูไม่ค่อยสดใสร่างเริงสักเท่าไร

“…..”

“นี่ยัยปริม! ฉันพูดกับแกอยู่นะ มัวแต่ใจลอยอะไรมิทราบ”

“มะ…เมื่อกี้สายธารพูดว่าอะไรนะ?” หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อเรียกสติ เธอเอาแต่คิดเรื่องของเธียรธรรมจนไม่เป็นอันทำอะไร

ตั้งแต่เจอกันวันนั้น เขาก็ไม่ได้ติดต่อเธอมาอีกเลย ไม่สิ! เขาไม่เคยติดต่อเธอมาเลยสักครั้ง มีแค่เธอที่วิ่งขอความรักจากเขาเอง

“ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่หล่อนเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” สายธารเลื่อนมือไปแตะที่หน้าผากของเพื่อนสนิทเบาๆ ก่อนจะรู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่กระจายออกมา ปริมคงกำลังป่วยอยู่แน่ๆ

“เรารู้สึกปวดหัวนิดหน่อยน่ะ”

“แล้วกินยาหรือยัง?”

“กินแล้ว ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้วล่ะ”

“ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลตัวเองด้วยล่ะ เดี๋ยวจะป่วยเอา”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ” ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มกว้าง ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบริษัท

“คุณเธียร…”

หัวใจดวงน้อยคล้ายกับถูกฟ้าฟาดเมื่อชายหนุ่มเดินผ่านหน้าไปโดยไม่แยแส เธียรธรรมไม่คิดแม้แต่จะทักทายหรือชายตาแลมองเธอเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับเธอนัก!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel