บทที่ - 13 อาการหึง?
“พี่เธียรเขาว่ายังไงบ้าง?”
สายธารเอ่ยถามพลางทำสีหน้าอยากรู้เมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มในเวลาต่อมา
“ไม่ได้ว่าอะไร”
“อะไรกัน แกหายเข้าไปในห้องตั้งนานสองนาน ไม่มีอะไรมาอัปเดตให้ฉันฟังบ้างเลยเหรอ” เธอถอนหายใจด้วยความผิดหวังเมื่อไม่มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาบ้างเลย
“ก็มันไม่มีอะไร”
“หมดสนุกเลยอ่ะ พี่เธียรนะพี่เธียร! จะใจแข็งกับแกไปถึงไหนกัน” สายธารย่นหน้าอย่างหงุดหงิดเพราะดูเหมือนพี่ชายจะใจแข็งกว่าที่คิดไว้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจะได้ล้มเลิกความตั้งใจแล้วให้ปาลิดาไปหาคนใหม่แทน
“มัวแต่มองหน้าฉันอยู่ได้ มีอะไรก็พูดมาสิ”
คนตัวเล็กหยุดนิ่งแล้วใช้ความคิดอย่างหนัก เป็นเพราะไม่อยากมีความลับกับเพื่อนสนิทจึงตัดสินใจที่จะบอกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเธียรธรรม
“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกแก”
“เรื่องอะไร?”
“คะ…คือฉันกับพี่เธียร ระ…เรามี…”
พูดไม่ทันจบ เสียงหวานของคนใครบางคนก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะน้องธาร”
สายธารถึงกลับเบะปากใส่คนตรงหน้าด้วยความรำคาญ เมื่อเห็นว่าเธอคนนั้นคือต้องตาที่เป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของพี่ชาย
“มาหาผู้ชายแต่เช้าเลยนะคะ ไม่คิดจะไปทำการทำงานเหรอ?”
“พี่ผ่านมาทางนี้พอดี เลยแวะมาหาเธียรน่ะ” ต้องตาถึงกลับหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินคำพูดกระแหนะกระแหน
“พี่เธียรไม่ว่างค่ะ ตอนนี้ติดประชุม เอาไว้วันหลังค่อยมาใหม่แล้วกันนะคะ”
“แต่เธียรเป็นคนบอกกับพี่เองว่าวันนี้ว่างไม่มีงานที่ไหน น้องธารเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ”
“…..” สายธารนั่งกอดอกเงียบอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เธอแค่รู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นต้องตาเข้ามาวุ่นวายกับพี่ชายมากไป
“ถ้างั้นพี่ขอตัวเข้าไปหาเธียรก่อนนะ เดี๋ยวเขาจะรอนาน”
“…..”
“หึ่ยย! พี่เธียรนะพี่เธียร เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับยัยนี่สักที เห็นแล้วหมั่นไส้!”
“คุณต้องตาเธอสวยดีนะ ธารจะไปหมั่นไส้เขาทำไม” ปริมถามด้วยความสงสัยที่เห็นว่าสายธารดูไม่ค่อยชอบต้องตาเอาเสียเลย
“ก็ยัยนั่นชอบทำตัวเหมือนเป็นเมียพี่เธียรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“เขาสองคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?”
“ยัยต้องตาอยากเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะสิ ทำไมฉันจะดูไม่ออก อยากได้พี่เธียรเป็นผัวจนตัวสั่น”
“พูดอะไรแบบนั้น” ปาลิดาหันซ้ายมองขวาด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก เธอแค่กลัวว่าพนักงานคนอื่นได้ยินแล้วมันจะดูไม่ดี
“ฉันพูดความจริงย่ะ”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าคนอื่นได้ยินเขาจะมองธารไม่ดีนะ”
“…..”
-หลังเลิกงาน-
“เลิกงานแล้วไปเดินห้างกันไหม ฉันอยากได้ลิปสติกใหม่” สายธารออกปากชวนในขณะที่กำลังเก็บของเตรียมตัวจะกลับบ้าน
“วันนี้เรามีนัดแล้ว เอาไว้วันหลังนะ”
“แกมีนัดกับใคร ไม่เห็นบอกฉันเลย”
“เอ่อ…เรามีนัดกับคนที่บ้านน่ะ” อาจเป็นเพราะยังไม่พร้อมจะอธิบายอะไรในตอนนี้ เธอเลยเลือกที่จะบอกปฏิเสธไปแบบนั้น
“โอเค งั้นเอาไว้วันหลังค่อยไปด้วยกันก็ได้”
“เราขอตัวกลับก่อนนะ แล้วค่อยเจอกันพรุ่งนี้”
ตึกตัก~ เสียงฝีเท้าดังขึ้นด้วยความรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินเฉพาะผู้บริหาร ตามที่เธียรธรรมได้นัดเอาไว้
ดวงตากลมโตสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้ามานั่งในรถที่มีชายหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนหน้านั้น
“พอดีปริมแวะเข้าห้องน้ำ เลยมาช้านิดหน่อย คุณเธียรมารอนานหรือยังคะ”
“ฉันรอเธอมาสิบห้านาที”
“ขอโทษที่ทำให้รอนะ ครั้งหน้าปริมจะรีบให้เร็วกว่านี้” คนตัวเล็กยกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด เธอรู้ดีว่าเธียรธรรมเป็นคนตรงต่อเวลาและไม่ชอบที่จะต้องมานั่งรอใคร
“ฉันโทรนัดหมอให้แล้ว เธอพร้อมหรือยัง?”
“พร้อมค่ะ”
“กลัวหรือเปล่า?”
“กลัวนิดหน่อยค่ะ” ถึงแม้จะทำใจเอาไว้บ้างแล้วแต่พอเอาจริงกลับรู้สึกกังวลกว่าที่เคยคิดไว้
“อยากทำหรือเปล่า ถ้าเธอไม่อยากทำฉันจะได้โทรไปยกเลิก”
“ถ้าคุณเธียรคิดว่าดี ปริมก็ว่าดีค่ะ ตามใจคุณเลยเธียรเลย”
“…..”
“แล้วคุณเธียรคิดว่าจะมีอะไรกับปริมไปอีกนานแค่ไหนคะ”
“ถามทำไม?” เขาถามกลับโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอแต่อย่างใด สายตายังคงจับจ้องไปยังถนนที่อยู่เบื้องหน้า
“ปริมแค่กลัวว่าคุณจะเบื่อน่ะค่ะ ก็เลยถามดู”
“…..”
“วันนี้ปริมเห็นคุณต้องตาเข้ามาหาคุณเธียรที่บริษัทด้วยค่ะ”
“แล้ว?”
“คุณเธียรชอบคุณต้องตาหรือเปล่าคะ?”
“กลายเป็นเด็กขี้สงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่” ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กเพียงแค่เสี้ยวนาที
ไม่ว่าปาลิดาจะรู้สึกแบบไหนเธอมักจะแสดงออกทางสีหน้าเสมอ รวมถึงตอนนี้ที่กำลังออกอาการว่าหึงเขา
“สายธารบอกว่าคุณต้องตาชอบคุณเธียรมาก ปริมก็เลยอยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับเธอ” ถึงแม้จะรู้ว่าคนทั้งสองเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าหวงเขามากอยู่ดี
“ก็ไม่ได้คิดอะไร”
“แล้วกับปริมล่ะคะ คุณเธียรรู้สึกยังไง?” หัวใจดวงน้อยบีบรัดเพราะกลัวว่าคำตอบจากเขามันอาจจะทำให้ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ชะ…ชอบหนูบ้างไหมคะ?”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ชอบ ไม่เคยคิดจะชอบ เธอจะทำยังไง?”
“…..” ความเสียใจหลั่งไหลออกมาจากใบหน้าแสนหวาน สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเหมือนที่ผ่านมา
“ก็แค่เรื่องสมมุติ มันไม่ใช่เรื่องจริงแล้วจะร้องไห้ทำไม”
“แล้วทำไมถึงชอบแกล้งกันอยู่เรื่อยเลย” เธอระบายลมหายใจออกมาเบาๆ พยายามข่มกลั้นความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตา
“เวลาเห็นเธองอนแล้วมันดูตลกดี”
“ปริมไม่อยากให้คุณเธียรชอบคุณต้องตาเลยค่ะ”
“เลิกคิดมาก! ถ้าฉันจะชอบต้องตาคงชอบไปนานแล้ว” เธียรธรรมรั้งศีรษะของคนตัวเล็กให้แนบชิดกับแผงอกแกร่ง พร้อมลูบหัวเธอหนักๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน
“…..”
-บ้านธราธร-
“ไม่เข้าบ้านตั้งหลายวัน น้องนึกว่าพี่จะจำทางกลับบ้านไม่ได้แล้วซะอีก” สายธารปรายหางตามองไปยังพี่ชายที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในบ้านของช่วงเวลาเกือบสี่ทุ่ม
“ว่าแต่พี่หายไปไหนมา ทำไมถึงได้กลับเข้าบ้านดึกๆ ดื่นๆ”
เขาใช้เวลาส่วนตัวหลังเลิกงานอยู่กับปาลิดาจนถึงดึกดื่นก่อนจะพาเธอไปส่งที่บ้าน แล้วค่อยกลับเข้าบ้านตัวเอง
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของพี่หรอก ห่วงเรื่องของตัวเองดีกว่า ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่เข้านอน” เธียรธรรมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาข้างๆ น้องสาวที่ยังอยู่ในชุดทำงานมาตลอดทั้งวัน
“ดูซีรี่ย์อยู่ค่ะ แต่อีกเดี๋ยวก็จะขึ้นนอนแล้ว“ คนตัวเล็กตอบกลับก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดรูปเพื่อนชายคนสนิทให้เขาดู
“พี่เธียรว่าผู้ชายคนนี้ดูเป็นยังไงบ้าง”
“เขาเป็นอะไรกับน้อง?”
“คนนี้เป็นเพื่อนน้องชื่อการันต์ เขานิสัยดีมากเลยนะ หน้าตาก็หล่อแถมฐานะครอบครัวยังเข้าขั้นมหาเศรษฐี เพอร์เฟคสุดๆ”
“น้องชอบเขา?” เรียวคิ้วขมวดปมเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะที่ผ่านมาสายธารแทบจะไม่สนใจผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย
“เปล่าค่ะ แค่น้องกำลังคิดว่าจะติดต่อการันต์ให้ยัยปริมดีไหม”
“…..”
“ไหนๆ พี่เธียรก็ไม่ได้ชอบอะไรเพื่อนน้องอยู่แล้ว การันต์ก็โสด ส่วนยัยปริมก็ไม่มีใคร ถ้าสองคนนี้ได้เป็นแฟนกัน มันคงดีสุดๆ ไปเลยค่ะ”
“แต่พี่ว่าไม่ดี บางทีเพื่อนน้องเขาอาจจะมีเจ้าของอยู่แล้วก็ได้นะ” ใบหน้าคมคายค่อยๆ หลับตาลงเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาต้องทำให้ตัวเองใจเย็นทั้งๆ ที่ภายในใจกลับรู้สึกร้อนรุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“การันต์ไม่มีใครแน่นอน น้องมั่นใจ”
“พี่ไม่ได้หมายถึงการันต์ที่มีเจ้าของ แต่พี่หมายถึงปริม!”
“…..”
