บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1-3

1 ปีผ่านไป....

“ไล่ออก!”

“อะไรนะคะ ถึงกับจะไล่ออกเชียวหรือคะ”

“เธอไปรับเงินเดือนล่วงหน้าที่แผนกการเงิน และออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”

หญิงสาวหน้าซีดเผือด จู่ๆ ก็ต้องตกงาน ไร่ส้มพนาไพรจ่ายโบนัสปีละสามเดือนนับว่าสูงแล้วสำหรับธุรกิจการเกษตร ปทุมมาลย์ลุกขึ้นยกมือไหว้พ่อเลี้ยงอย่างไม่ยินยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าแอบทุจริตในหน้าที่ รับสินบนของบริษัทบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่งทำให้สินค้ามีสเปกต่ำลง วันนี้พ่อเลี้ยงพนากางหลักฐานต่อหน้า ทำให้ปทุมมาลย์พูดไม่ออก เธอไม่อยากถูกไล่ออกจากที่นี่ นอกจากงานดี เงินดี พ่อเลี้ยงพนายังเป็นผู้ชายที่เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในชีวิต เธอก็พยามอ่อยเพราะได้ยินว่าสวยๆ พ่อเลี้ยงฟาดไม่เลือก แต่น่าแปลกไม่ยอมฟาดพนักงานสวยๆ ในไร่สักคน ทั้งที่มีคนรอให้ฟาดอยู่เพียบ อย่างน้อยก็เธอคนหนึ่งที่อ่อยมาตลอด แต่ช้างไม่ยอมกินอ้อยที่พยายามอ่อยสักที

ปทุมมาลย์ยืนขึ้นอย่างจำใจ แล้วยกมือไหว้ “ปทุมลาก่อนนะคะพ่อเลี้ยง”

อย่างน้อยพ่อเลี้ยงก็ยังใจดีไม่จับเธอส่งตำรวจ นี่คงเพราะเห็นแก่ความสวยของเธอละมั้ง ปทุมมาลย์คิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าความผิดที่ทุจริตในหน้าที่รับสินบนใต้โต๊ะ จะปรับโดยการให้พ่อเลี้ยงพนาลงโทษด้วยตัวเอง แหม...เธอจะยินดีรับโทษทันที ทรมานบนเตียงสักกี่คืนก็ยอม

“ไปรับซองเสร็จแล้ว ก็ไปโรงพักต่อนะ ตำรวจขับรถมารอรับเธอนานแล้ว”

ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม หญิงสาวคิดว่าตนเองคงรอดแล้วพ่อเลี้ยงคงเห็นที่เธอทำงานหลายปีด้วยความซื่อสัตย์ แต่ที่ไหนได้

ปทุมมาลย์หน้าเหวอ ยืนแข็งค้างทำอะไรไม่ถูก

“ที่จริงเธอทุจริตในหน้าที่ ฉันไม่ต้องให้ค่าแรงล่วงหน้าก็ได้ แต่ได้ยินข่าวว่าแม่เธอป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เอาเงินเดือนสามเดือนสุดท้ายให้ญาติเตรียมไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม่ซะ แล้วเธอจะได้เข้าคุกอย่างสบายใจ”

“พ่อเลี้ยงคะ! ปทุมผิดไปแล้วค่ะ พ่อเลี้ยงอย่าเอาปทุมเข้าคุกเลยนะคะ”

พ่อเลี้ยงพนายกมือเสยผมด้วยท่าทางอารมณ์ไม่ดีนัก เขาไม่เสียเวลาอีกเพราะสั่งให้เข้มลูกน้องในไร่ คอยคุมปทุมมาลย์ไปรับเงินเดือนครั้งสุดท้ายและส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ถ้ายังไม่ยอมไปดีๆ ฉันจะให้คนงานมาจับเธอโยนออกไป จะเดินไปเองดีๆหรือจะให้โยนออกไป เลือกเอา” พนาบอกเสียงแข็ง ดวงตาดุดัน

ปทุมมาลย์ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว เห็นท่าทางเอาจริงของพ่อเลี้ยงก็รีบลนลานวิ่งออกไป เธอเคยเห็นพ่อเลี้ยงลงโทษคนงานชายในไร่ที่ทุจริตแอบเก็บส้มไปขายมาแล้ว ก่อนคนงานพวกนั้นถูกจับส่งตำรวจจะโดนอัดซะน่วมเลย เพราะไม่ยอมรับสารภาพดีๆ

หลังจากเดินไปที่ห้องถ่ายเอกสาร เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น อะไรอีก คราวนี้เจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สินของบัตรเครดิตเจ้าไหน กรุงศรี กรุงไทย หรือศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ เขมขิมเดาไม่ถูกเพราะทุกบัตรกว่าหกใบเต็มหมด ใช่ว่าหญิงสาวจะเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่การทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจของบิดา ทำให้บัตรเครดิตของเธอเต็ม

ดวงตาคู่สวยหม่นหมอง ไม่กล้ากดรับแต่เมื่อมองชื่อที่บันทึก และเบอร์ที่โทร.มาชัดๆ อีกครั้ง จึงเห็นว่าเป็นเบอร์ที่รออยู่นานแล้ว เขมขิมรีบกดรับเพราะกลัวอีกฝ่ายจะวางสาย ยิ้มกว้างอย่างพอใจหลังได้คุยจบ เธอรอสายจากฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ ที่เธอไปสมัครงาน งานที่หวังอย่างมากเพราะค่าตอบแทนที่นั่นสูงกว่าเงินเดือนประจำเท่าตัว

“ให้ฉันไปเริ่มงานอาทิตย์หน้าได้เลยใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ ถ้าคุณไม่มีรถยนต์ส่วนตัว พอถึงสนามบินเชียงใหม่ ฉันจะให้คนขับรถไปรับคุณเข้ามาที่ไร่ของเราค่ะ”

“ขอบคุณมากค่ะ ฉันดีใจที่สุดเลยค่ะ แล้วพบกันนะคะ”

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เขมขิมเห็นประกาศรับสมัครงาน เป็นไร่ส้มชื่อดังที่เธอเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง เขมขิมจำบรรยากาศความสวยงามสุดแสนรื่นรมย์ในวันพักผ่อนสามวันสองคืนได้ไม่ลืม เธอมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศ มีความฟินในการทำงานพิเศษตรวจพิสูจน์อักษรให้นักเขียน มีไอเดียในการทำปกนิยายออกมาขาย บรรยากาศดี อารมณ์ดี งานก็ดีตามไปด้วย

แต่แล้วภาพของอุรังอุตังที่พกกระบอกข้าวหลามติดตัวภาพนั้นก็ทำให้เธอเบ้หน้า ดวงตาคู่งามเปล่งประกายความหวังเลือนหายไปในพริบตา

“ยี้...นั่นคงเป็นความทรงจำเลวร้ายที่สุดในทริป แต่ไม่เป็นไร แค่แขกที่มาพักคงกำลังทำเรื่องบัดสี กำลังกินกันแต่เธอเข้าไปขวางเส้นทางความสุขของพวกเขา เสียดาย หน้าตาดีซะเปล่า ที่แท้ก็พวก...”

มนุษย์ไส้เดือน

ครั้งนั้น พนักงานต้อนรับสาวสวยขอโทษขอโพยต่อเธอยกใหญ่ ที่ทำให้สายตาไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้า พนักงานคนนั้นบอกว่าแจ้งเบอร์บ้านพักผิด เนื่องจากวันนั้นมีแขกเข้ามาเช็กอินเยอะเลยหยิบคีย์การ์ดสลับ แต่เพื่อชดเชยความผิดจึงมอบบัตรกำนัลซื้อส้มสายน้ำผึ้งยกลังในราคาลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้เธอ แม้คูปองนั้นจะช่วยลบภาพติดตาไม่ได้ แต่ส้มของไร่พนาไพรอร่อยมาก

เขมขิมคิดว่าการทำงานก็ย่อมมีผิดพลาดกันได้จึงไม่ติดใจ ดังนั้น เมื่อรู้ข่าวการรับสมัครงานจึงรีบส่งใบสมัครออนไลน์ไป ด้วยประวัติส่วนตัวของเธอมีความน่าสนใจ ทางหัวหน้าจัดซื้อจึงขอนัดสัมภาษณ์ และจัดแจงเรื่องตั๋วเครื่องบินส่งมาให้ เขมขิมจึงเดินทางไปสัมภาษณ์งานแล้วก็สำเร็จ...

“เย้...ดีใจที่สุดเลย” เขมขิมดีใจจนกระโดดตัวลอย เธออยากจะลาออกจากงานที่นี่ทุกนาที คงไม่มีใครอยากเห็นแฟนเก่าในที่ทำงานเดียวกัน ควงกับแฟนใหม่เย้ยไปเย้ยมา

“คราวนี้ก็ไม่ต้องทนเห็น...” เขมขิมถอนหายใจยาวพรืด แต่แล้วคนที่คิดว่าไม่อยากเจอก็มาปรากฏตรงหน้า

เขมขิมเห็นอีกฝ่ายแล้วอยากจะหมุนตัวเดินหนีแต่ก็ไม่ทัน

“ไม่ต้องทนเห็นอะไรคะคุณเขม ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตา บาดใจหรือเปล่า..”

‘อลิน ’ นักบัญชีสาวสวยของบริษัท และยังเป็นลูกสาวเจ้านายสายตรงของเขมขิมอีกด้วย ทำให้สองปีมานี้คะแนนประเมินผลงานของเขมขิมถึงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่ได้ผุดได้เกิด ขึ้นไม่ถึงเกรดบี

“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ”

อลินไหวไหล่ ยิ้มอย่างสะใจ ขณะที่แขนเรียวยังคล้องต้นแขนล่ำของ ‘อัตมัน’ แฟนหนุ่ม ที่เป็นเจ้าหน้าที่ไอทีประจำบริษัท

อัตมันคบหากับเขมขิมมาเกือบสองปีก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกลากันเมื่ออลินเข้ามารับตำแหน่งฝ่ายบัญชีต้นทุนของบริษัท

“ไปเถอะอลิน ไหนบอกว่าหิวข้าวไง เที่ยงแล้วเดี๋ยวคนจะเยอะ” อัตมันตัดบท

“อลินไม่ต้องกินข้าวหรอกค่ะ พักกลางวัน แค่นั่งมองหน้าอัต อลินก็อิ่มแล้ว”

อัตมันแอบเสียดายเขมขิม แต่ที่เขาต้องตัดสัมพันธ์หันมาควงอลิน นั่นเพราะเขมขิมฐานะการเงินไม่ได้แตกต่างกับเขา เธอคงช่วยหนี้พนันหลายแสนของเขาไม่ได้ อีกอย่าง เขาก็เบื่อเหลือเกิน เป็นแฟนกันเกือบสองปี จะให้ชื่นใจสักทีสองทีก็ไม่ได้ ส่วนอลินน่ะเหรอ เขาจำไม่ได้แล้วว่ากี่ทีเพราะนับไม่ถ้วน

เขมขิมเบ้ปาก มือเรียวคว้าเอกสารที่ถาดออกมาแล้วกำลังเดินหนี แต่ถูกอลินที่ไม่ยอมให้เธอไป รีบกระชากแขนเอาไว้

“รีบไปไหนคะ ไปกินข้าวด้วยกันไหม แคนทีนในบริษัทไม่เห็นมีอะไรน่ากิน เดี๋ยวเราสองคนจะไปหาร้านอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ กินกลางวันกัน แล้วค่อยกลับเข้าบริษัท...”

เขมขิมสะบัดมืออีกฝ่ายออก “ไม่หรอกค่ะ เชิญน้องอลินเถอะ พี่เห็นเมื่อเช้าที่แคนทีนมีกับข้าวน่ากิน ขอตัวนะคะ”

“ยี้ แคนทีน มีอะไรน่ากิน กับข้าวซ้ำๆ”

เขมขิมที่เดินผ่านมาได้สามก้าวถอนใจแล้วกลอกตามองบน ก่อนจะหันกลับไปยิ้มหวานให้อลิน

“แกงกะหรี่ ผัดสะตอ วันนี้น่ากิน กินไหมคะ เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝาก”

อลินหน้าแดงด้วยความโกรธ ทำไมจะไม่รู้ว่าถูกเขมขิมจิกกัด

“มากไปแล้วนะ คอยดูเถอะ” อลินชี้นิ้วไปที่เขมขิม คิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเสียใจร้องไห้ที่เห็นเธอควงอัตมัน แต่ทำไมเขมขิมดูชิลล์จนเธอเองเสียอีกที่ร้อนใจ

“ตกลงจะกินไหมคะ แกงกะหรี่กับผัดสะตอจะได้ซื้อใส่กล่องมาให้”

“ฉันจะฟ้องพ่อ คอยดูเถอะ ระวังคะแนนประเมินปลายปีให้ดีแล้วกัน”

อลินวางแผนร้ายในใจ หมั่นไส้เขมขิมที่สวยน่ารักกว่าตัวเอง แต่ถึงกระนั้น ตนเองก็ทำให้แฟนหนุ่มของเขมขินเปลี่ยนใจมาเป็นของตนได้แล้ว

คอยดูนะกลับบ้านไปจะยุให้บิดากดคะแนนประเมินปลายปีของเขมขิมให้มากๆ ตำแหน่งไม่ได้เลื่อน เงินเดือนไม่ขึ้น คอยดูบ้างซิ จะชูหน้าอยู่ในบริษัทได้อีกไหม

เขมขิมยิ้มกว้าง ดวงตาสุกใสเหมือนแก้วเจียระไน เขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นั้น

“เสียใจด้วยนะคะ พี่คงไม่รออยู่จนรอประเมินผลปลายปีแล้วค่ะ บังเอิญมีที่ที่เขาเห็นความสามารถเรียกตัวไปสัมภาษณ์ และบังเอิญว่าได้งานแล้วด้วย และบังเอิ๊ญ บังเอิญ เงินเดือนมากกว่าที่นี่สองเท่า” เขมขิมพูดจบก็ยิ้มสวยๆ แล้วเดินสะบัดบ๊อบจากไปอย่างอารมณ์ดี

อลินอ้าปากค้าง มองเขมขิมอย่างโกรธจัด อัตมันได้ยินว่าเขมขิมจะไปทำงานที่อื่น ความรู้สึกแรกของเขาคือ เสียดายและเสียใจ เขมขิมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน ใจดี เป็นผู้หญิงที่ถูกใจเขาที่สุด เขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเขมขิม

อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

ไม่เหมือนกับคนข้างๆ ที่ตอนนี้ความน่ารักลดน้อยถอยลงไปมาก ไม่รู้อะไรที่ทำให้เขาตาบอดโยนเพชรทิ้งเพราะคิดว่าเจอเม็ดที่ใหญ่กว่า ราคาแพงกว่า แต่พอได้หยิบจับอย่างถนัดมือ ยิ่งส่องเข้าไปลึกๆ ก็พบว่าเขาอาจคว้ากรวดเม็ดใหญ่ไม่ใช่เพชรเม็ดงาม เขาชักเสียดายและหวงก้างขึ้นมาแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel