คนเถื่อนปล้นรัก

104.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
54
บท
22.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

 เมื่อชีวิตเดินมาถึงจุดที่สุดจะทนสาวออฟฟิศอย่าง ‘เขมขิม’ จึงสลัดเสื้อสูท โยนรองเท้าส้นสูงทิ้ง แล้วตัดสินใจอำลาเมืองกรุง มุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อหาที่พักใจ และเริ่มต้นชีวิตใหม่กับงานที่แวดล้อมไปด้วยความสงบร่มรื่นของธรรมชาติ แต่ใครจะรู้ว่า ‘สวนส้มพนาไพร’ ที่เธอหวังว่าจะเป็นแดนสวรรค์ จะกลายเป็นที่ที่สร้างความวุ่นวายและปั่นป่วนหัวใจยิ่งกว่าเดิม เพราะ ‘พนา แพททิสัน’ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่ง ผู้เป็นเจ้าของสวน คือจอมวายร้ายเจ้าอารมณ์ที่ดันมี ‘ปม’ กับผู้หญิงเสียอีก โดยเฉพาะผู้หญิงสาวๆ สวยๆ จากเมืองใหญ่ ปากก็บอกว่าเกลียด แต่ทำไมจ้องจะลากเธอไปทำปู้ยี่ปู้ยำนักก็ไม่รู้ งานนี้จะได้ ‘พักใจ’ หรือได้ ‘อ่อนเพลีย’ ไปทั้งตัว คงต้องมาลุ้นกันอีกที “อย่ามาอ่อยไม่สงสาร แบบขิมนี่ ต้องโดนทำโทษ ตีสักร้อยทีถึงจะหลาบจำ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม “พ่อเลี้ยงจะตีขิมเป็นร้อยที ขิมไม่ตายก่อนเหรอคะ คิดจะตีให้ไม้หักเลยหรือคะ” “ไม้ของฉันใหญ่ หักยาก ตีไม่เจ็บ แต่อาจมีจุก” “หา!”

นิยายรักนิยายรักโรแมนติกนางเอกเก่งคนธรรมดาปลูกผักเลือดร้อนโรแมนติก

ตอนที่ 1-1 อย่ามาเสียดาย

‘เขมขิม’ ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีปานนี้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ยาวๆ ได้มานอนในไร่ส้มฟรี ไร่ที่ได้มานอนไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเองสักนิดยังเป็นไร่ส้มชื่อดังที่สุดในภาคเหนือ ไร่ส้มแห่งนี้มีพื้นที่ราวๆ สองร้อยไร่เศษ พื้นที่กว่าหนึ่งร้อยไร่ปลูกส้มหลายสายพันธุ์แต่เน้นส้มสายน้ำผึ้งเป็นหลัก เจ้าของไร่ยังแบ่งพื้นที่ทิศเหนือกว่าสามสิบไร่ปลูกสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ 80 และพื้นที่ที่เหลือถูกแบ่งเป็นรีสอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยว ยังมีร้านอาหาร และร้านขายของฝากเปิดบริการอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นไร่ที่ครบวงจรทั้งกินทั้งเที่ยว มาที่เดียวถือว่าคุ้มสุดๆ

ไร่แห่งนี้มีชื่อไทยจดจำได้ง่าย ‘ไร่ส้มพนาไพร’ แม้จะชื่อไทยแท้แต่บริหารงานแบบฝรั่ง เจ้าของไร่มีการจัดการที่ดีเยี่ยมจนได้รับรางวัลคัดเลือกให้เป็นไร่ส้มคุณภาพมาห้าปีซ้อน เขมขิมได้ยินว่าเจ้าของไร่แห่งนี้เป็นลูกครึ่ง แต่ช่างเถอะ จะครึ่งอะไรก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธอสักนิด เธอแค่ผู้โชคดีที่บังเอิญได้บัตรที่พักฟรีสามวันสองคืนพร้อมอาหารเช้า มาจากการส่ง SMS ไปร่วมเล่นเกมรายการหนึ่ง

“เดี๋ยวคุณผู้หญิงเดินตรงไปนะคะ เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกสามสิบเมตรและเลี้ยวขวา จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกทีจะเห็นต้นลีลาวดีแล้วให้เลี้ยวขวาเดินต่อไปอีกสามสิบเมตร จะเจอห้องของคุณผู้หญิงอยู่ทางด้านขวา ขอให้มีความสุขในวันพักผ่อนสุดสัปดาห์นะคะ” พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์บอกอย่างสุภาพ

“ขอบคุณมากค่ะ”

เขมขิมตอบ พลางขมวดคิ้ว เธอฟังพนักงานสาวบอกเส้นทางเข้าห้องพักแล้วรู้สึกสับสนเล็กน้อย ที่จริง ที่รีสอร์ตแห่งนี้มีพนักงานนำลูกค้าเดินทางเข้าสู่ที่พัก แต่หญิงสาวเห็นว่าวันนี้ทางรีสอร์ตมีแขกเข้ามาพักเยอะ เธอไม่อยากรอ เพราะเดินทางมาหลายชั่วโมงอยากจะนอนพัก จึงแจ้งว่าจะเดินไปเองเพราะมีกระเป๋าเพียงใบเดียว

ทางเดินที่อยู่ลึกเข้ามาซึ่งถูกสร้างเป็นรีสอร์ตสำหรับให้ลูกค้าที่อยากมาเที่ยวชมไร่ส้มแล้วใช้วันหยุดพักผ่อนที่เงียบสงบใกล้ชิดธรรมชาติดูร่มรื่น ทำให้คนที่หลบมาเลียแผลใจคนเดียวรู้สึกประทับใจกับบรรยากาศ

“เงียบสงบ บรรยากาศดีแบบนี้ เหมาะกับฉันที่สุด”

นอกจากเขมขิมจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนการผลิตของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแล้ว ยังมีอาชีพเสริมเพิ่มเติมอีกย ที่ต้องทำสองอาชีพควบคู่ทั้งงานประจำและฟรีแลนซ์เพราะฐานะการเงินที่ไม่ดีนักบางครั้งเข้าขั้นสั่นสะเทือน

หลายปีมานี้บิดาป่วยกระเสาะกระแสะ มารดาเลี้ยงของเธอยกภาระด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาของบิดาให้กับเขมขิมเพียงผู้เดียว แม้จะเป็นช่วงการมาพักผ่อน เขมขิมยังต้องหอบงานมาทำ เพราะมีความสามารถด้านการตรวจพิสูจน์อักษร เธอจึงรับงานตรวจต้นฉบับมาทำเป็นอาชีพเสริม รวมกับความสามารถด้านการใช้โปรแกรมออกแบบ นอกจากจะรับพิสูจน์อักษรแล้วงานด้านการออกแบบปกนิยาย จัดอาร์ต เขมขิมรับทำทั้งหมด

ในยุคที่ผู้บริโภคนิยมหันไปสนใจการอ่านทุกอย่างผ่าน ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปสร้างความสะดวกสบายทำให้นักเขียนบางกลุ่มนิยมเขียนนหนังสือออนไลน์ เขมขิมจึงมีงานพิเศษรับจ้างออกแบบปกและยังรับตรวจพิสูจน์อักษรมากขึ้น อีกทั้งค่าบริการที่ไม่แพง ทำให้มีทั้งนักเขียนทักมาจ้างานอยู่เสมอ เพราะงานของเธอมีคุณภาพและราคาไม่แพงเกินไป ส่งงานรวดเร็วทันใจลูกค้า รายได้เสริมในแต่ละเดือนจึงเพียงพอเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ให้คนมีภาระล้นมืออย่างเธอ

อีกฟากหนึ่งในสถานที่เดียวกัน แสงแดดที่สาดทอเข้ามาทางริ้วผ้าม่านหน้าต่าง สองร่างกำยำนอนกอดกระหวัดอยู่ภายในผ้าห่มนวมสีขาวขนาดหกฟุตผืนเดียวกัน คนตัวสูงกว่าสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้า และคนที่นอนข้างๆ ก็ไม่ได้สวมใส่อะไรเหมือนกัน

“เอาแล้ว เมื่อคืนนี้กูทำอะไรลงไปบ้างวะ” ชายหนุ่มถอนหายใจพรืด เหลียวมองคนข้างกายที่เห็นแผ่นหลังขาว มีผ้าห่มผืนเดียวกับเขาคลุมที่สะโพกอย่างหมิ่นเหม่

‘เหมราช’ รีบก้มดูตัวเองใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ “เฮ้ย! ไม่ได้ใส่กางเกง”

เขาเม้มริมฝีปากแน่น แต่ไม่รู้สึกว่าประตูหลังถูกทำร้าย จนกระทั่งเท้าหยาบๆ ของไอ้ขี้เมายื่นมาสะกิดที่แผ่นหลังของเขา

“เป็นไงไอ้เหม มึงนอนกับกูอีกจนได้ ว่าแต่เมื่อคืนมึงเสร็จกูไปหรือยัง กูเมา จนจำอะไรไม่ได้ ลากมึงเข้ามานอนที่นี่ได้ถือว่าเก่งแล้ว”

เหมราชหัวใจเต้นแรง หน้าตาหล่อเหลาบอกว่าเซ็งสุดๆ เมื่อคืนเขากับมันเมากันหนักจริงๆ

“กูไม่มีทางเสียประตูหลังให้มึงหรอกไอ้พนา ชอบทำให้กูถูกคนอื่นเข้าใจผิดตลอด คราวก่อนก็ทีแล้ว มึงพากูมานอนด้วยแล้วเสือกลืมล็อกประตู แม่บ้านรีสอร์ตเปิดประตูมาเห็นเข้ากรี๊ดแทบเป็นลม กูจะกลับบ้านไปง้อเมียแล้ว เบื่อหน้ารกๆ ของมึงว่ะ”

‘พนา’ อมยิ้มเจ้าเล่ห์มองเพื่อนรักอย่างรู้ใจ “หน้รก ตรงอื่นก็ดกด้วย เซ็กซี่จะตาย พี่เหมไม่ติดใจผมบ้างเหรอครับ”

“พนา ถ้าหน้าอย่างมึงเป็นเกย์ควีน กูว่าโลกนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนคิดเป็นเกย์คิงอีกแล้ว”

พ่อเลี้ยงพนาถอนใจยาวพรืดเมื่อคืนเขาไปเก็บตกมันมาจากข้างถนน เพราะฤทธิ์ความฮอตของมันที่ไปบอกเลิกสาวสวยชื่อชมออน ลูกสาวเจ้าของร้านอาหารจีนยูนนาน ไอ้หน้าอ่อนตรงหน้าอายุมากกว่าเขาสองปี แต่ด้วยความซี้ปึ้กกัน สรรพนามที่ใช้เรียกแทนชื่อจึงมักถูกขุดขึ้นมาจากยุคพ่อขุนรามคำแหง มันเรียกเขาว่าไอ้พนา ส่วนเขาก็เรียกพ่อเลี้ยงเหมราชแห่ง ‘ไร่ชาเหนือฟ้า’ ว่าไอ้เหม

“มึงจะรีบกลับไปง้อน้องอิ่มเหรอวะไอ้หน้าหล่อ กินเหล้ากับกูต่ออีกหน่อยสิแล้วค่อยยไป ปวดหัวแบบนี้มันต้องถอน”

พนาแกล้งชวนต่อแล้วแกล้งทำซะเงาะซะแงะเข้าไปใกล้ๆ ทั้งที่จริงเขาสร่างเมานานแล้ว

“ไม่แดกแล้ว แดกคนเดียวเถอะมึง แดกกับมึงทีไร กูกับมึงคลานสี่ขาขึ้นเตียงทุกที คนอะไรแดกเหล้าแทนน้ำ มึงก็รีบตื่นอาบน้ำเถอะ ไม่ต้องขับไปส่งกูหรอก เดี๋ยวตกเหวตาย ให้กูยืมรถมึงขับกลับไปก็พอ”

พ่อเลี้ยงพนาคว้าพวงกุญแจรถสปอร์ตคันหรูจากหัวเตียงโยนให้เพื่อน รถที่ขับช่างดูไม่เข้ากับใบหน้ามหาโจรเลยสักนิด

“รถมึงโคตรหรู แต่กูว่ามึงอ่ะไปโมหน้าใหม่เถอะ กูแนะนำช่างตัดผมที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ให้เอาไหม”

คนหัวฟู ดูรกๆ แต่คะแนนความหล่อยังไม่ตกค้านทันควัน “ไม่เอากูกำลังหลบหน้าเขาอยู่”

“ทำไมวะ มึงไปตัดผมร้านเขาแล้วชักดาบไม่จ่าย” เหมราชเดาส่งเดชเขารู้ว่าเพื่อนรักร่ำรวยแค่ไหน

“เปล่า”

“ถ้างั้นแล้วทำไมไม่ไป”

คนถูกไล่ไปตัดผม โกนหนวดออกบ้างส่ายหัว “เออๆ ช่างผม ช่างหนวดของกูเถอะ ไม่ต้องรู้สักเรื่องได้ไหม”

เหมราชหรี่ตามองอย่างสงสัย “มีลับลมคมในแปลกๆ กูเห็นมึงขับรถทีไร นึกว่าคนบ้า แม่งขโมยรถมหาเศรษฐีที่ไหนมามาขับ”

ร่างใหญ่ที่ใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราแต่ก็ยังมองเห็นเค้าความหล่อจัด กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนแล้วชี้หน้าเพื่อนรัก

แม้ฉากหน้าพ่อเลี้ยงพนาจะดูเป็นเพลย์บอยแต่เรื่องการทำงานเขาเป็นคนหนึ่งที่จริงจังมาก“ไอ้เหม มึงจะยืมรถกูดีๆ หรือให้กูฝากรอยตีนกลับบ้านด้วย รู้งี้เมื่อคืนไม่ขับรถไปเก็บมึงจากข้างทางก็ดี สมน้ำหน้า ไปหักอกเขา ถูกเขาเทไว้ข้างทางที่ไม่มีรถผ่าน ขาวๆ หน้าใสๆ แบบมึงด้วย ยืนริมทางเปลี่ยวแบบนั้น ถ้ากูไม่ไปเก็บมึงมา สงสัยเมื่อคืนมึงได้ผัวไปหลายคนแล้วว่ะไอ้เหม” พนาหัวเราะลั่น เขาชอบแกล้งมัน อยากหน้าเด็กกว่าทำไม

“พูดกับมึงแล้วก็เหนื่อย หน้ากูก็เหี้ยมแล้วนะ ลูกน้องกูยังบอกเลย”

“หน้ามึงใสดีไง เทียบกับหน้ากูสิ”

“ถ้าเทียบกับหน้ามึง ยังไงกูก็ใสแน่ละ ไอ้มนุษย์ประหลาดตัวรก ขนดกยังกับอุรังอุตัง บ้านไม่มีที่โกนหนวด ช่างตัดผมทั้งเชียงใหม่ไม่มีใครถูกใจมึงเลยรึ ถึงได้ปล่อยตัวจนเป็นแบบนี้ กูเสียดายความหล่อของมึงว่ะ”