8 ฮันนีมูน
“เหมือนเมืองจีนเลย” เจ้าของแววตาเปล่งประกาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เมื่อมาถึงหมู่บ้านรักไทยในยามเย็นของวัน ความปวดเมื่อยเหนื่อยล้า ถูกปลิดออก เพียงเห็นบ้านเรือนสไตล์จีนเรียงรายอยู่บนเนินเขาไล่ระดับ รายล้อมทะเลสาบที่มีหมอกจางๆ คลุ้งขึ้นมา รับแสงสีส้มอ่อนสะท้อนจากดวงตะวันที่ใกล้ลับไป
“เขามีให้ใส่ชุดจีนด้วยนะ อยากใส่ไหม” พ่อเลี้ยงธาดาว่าอย่างผ่อนคลาย ช้อนลำตัวสูง แนบชิดด้านหลังภรรยาที่กำลังชื่นชมความงดงามเบื้องหน้า ที่เหมือนได้หลุดเข้าไปในภาพวาด
“อื้อ ไม่เอาหรอกค่ะ...แค่ได้ชมบรรยากาศ ไปพร้อมๆ กับนั่งกินขาหมูฉ่ำๆ ริมทะเลสาบก็ฟินแล้ว”
“ได้ข่าวว่าคุณเคยมา เมื่อไหร่นะ” เขาถามอย่างเอาใจ เดินโอบประคองเธอไปยังห้องพักที่จองเอาไว้ยังชั้นบนสุด
“สมัยเป็นนักศึกษาน่ะคุณ ตอนนั้นมาแค่เที่ยวแล้วไปกางเต็นท์นอนกันที่ปางอุ๋ง ตอนนั้นทุลักทุเลมาก อยากประหยัดเงินกันไง โบกรถจนสุดทาง แต่ถึงจะลำบากก็สนุกไม่เบาเลย” แววตาคมเข้ม ฉายแววอบอุ่นออกมาเชิงดีใจ ที่เธอเล่าชีวิตตัวเองให้เขาฟังแบบไม่ต้องระวังอะไร
“ฮื้อ...” คนไม่ทันได้ตั้งตัว ตกใจเล็กน้อย ที่เขาสูดความหอมจากเรือนผมตัวเองอย่างแนบเนียน
“ตอนที่โบกรถไม่ได้ทำยังไง” คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้มาก่อน ถามเชิงใส่ใจ หากแต่อยากรู้มากกว่า
“ก็...โบกไปเรื่อยๆ ไง เดินบ้าง โบกบ้าง แต่ก็ยอมรับว่ายาก แต่สมัย รีวิวเรื่องเที่ยวกำลังบูม ใครโบกรถได้ถือว่าเจ๋งสุดๆ ตอนที่เป็นนักศึกษา มันเหมือนไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริงไง คิดว่าจะง่ายกว่านั้น...” ธาดาทำเสียงอยู่ในลำคอเล็กน้อย พินยุพาของเขา พูดเก่งใช้ได้
“ทำไมไม่โทรหาผม” เขาว่าพร้อมยกกระเป๋าของเธอเข้าห้องให้ เพราะพนักงานยกขึ้นมาวางไว้หน้าห้องก่อนแล้ว
“ตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันอยู่ปี 3 ม.เชียงใหม่ คณะบัญชี อายุ 20 ปี ตอนนั้นคุณก็น่าจะอายุ 22 เองใช่ไหม?” เขาทำท่าขบคิดตามเธอไปอย่างนั้น ก่อนพยักหน้า
“น่าจะนะ...แต่ผมเรียนอยู่ที่ม.กรุงเทพปีสุดท้าย ช่วงนั้นยุ่งมาก แต่ไปเที่ยวทางใต้มากกว่าทางเหนือ”
“นั่นไง ฉันโทรหาคุณได้ คุณก็มารับฉันไม่ได้หรอก” เธอรู้ว่าเขาติดตลกก็เลยรับมุกไปอย่างนั้น
“ว่าได้เหรอ คุณโทรหา จะอยู่ไกลแค่ไหน ยังไงผมก็มาได้อยู่แล้ว”
“เวอร์! ตอนนั้นเรายังไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย” เขาไม่ตอบอะไร นอกจากช่วยเธอนำของออกจากกระเป๋าเพื่อมาจัดเรียงเอาไว้
ธาดาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้ เขาไม่ได้นิ่งดูดายแล้วให้เธอปรนนิบัติดูแลเขา แต่เป็นผู้ชายที่ช่วยหยิบจับทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง เท่าที่จะทำได้
เอาจริงๆ แม้มันจะเป็นเวลาที่ไม่ได้นานมาก แต่สำหรับพินยุพา เธอรับรู้ได้ว่าการเปิดใจให้กับสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
“โอ้โฮ...เยอะมากกกก น่ากินมาก...” เมื่อไปถึงร้านอาหารชื่อดัง ที่มีอาหารจีนสไตล์ยูนานเสิร์ฟแบบจัดเต็ม พินยุพาก็ออกอาการตาหวานเยิ้ม ยิ้มกว้าง สดใสเหมือนครั้งแรกที่เขาได้พบเจอเธอ...
ที่ไม่ใช่ค่ำคืนที่เธอร้องไห้จนตาบวม เมาจนไร้สติ น่ะนะ
“นี่คือความฝัน ตอนนั้นที่มาไม่มีงบรับประทาน ก็ได้แต่สัญญากับตัวเองว่า จะต้องพาตัวเองมาให้ได้...แต่พอทำงานก็ฝันไกลกว่านั้นว่าอยากให้เป็นสถานที่ฮันนีมูน ก็เลยไม่เคยมาเที่ยวแบบธรรมดาทั่วไป รู้ตัวอีกทีอายุก็ปาไป ปีที่ 37 ซะแล้ว”
พินยุพาพูดเหมือนบ่นกับตัวเองซะมากกว่า สายตาจับจ้องไปยัง ขาหมูหม้อไฟ ที่ตุ๋นมาจนได้ที่ในหม้อไฟทองแดง โรยด้วยผักชีสดตัดกับกลิ่นหอมคลุ้ง
“พูดซะอยากมีไทม์แมชชีนเลย” ธาดาติดไปทางรู้สึกเสียดาย ที่เขาไม่ได้มีโอกาสพาเธอมาก่อนอายุสามสิบเจ็ด คิดไปถึงแฟนเก่าของเธอแล้ว ก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ มันปล่อยให้เธอรอมาตั้ง 9 ปีได้ยังไง...
ทำไมไม่บอกเลิกเธอให้ไวกว่านี้!
“อื้อหือ...ขาหมูเนื้อฉ่ำมาก ละลายในปาก ไม่ติดหวาน ออกเค็มๆ มันๆ น้ำใสแต่รสชาติข้นสุดๆ” ส่วนคนที่น้ำลายสอไม่อยากรอแม้สักวินาที ก็รีบช่วงชิมเจ้าขาหมูที่รอคอยมานานแสนนาน
“ลองกินกับหมั่นโถวดู” คนใจเย็นกว่า ยื่นหมั่นโถวสีขาวร้อนๆ ให้ ราวกับเขารู้ว่าอะไรควรรับประทานกับอะไรเป็นอย่างดี
“อื้อหือ...เข้ากันมาก ขาหมูนุ่มๆ กับหมั่นโถวนิ่มๆ ลงตัว พอดีสุดๆ” คนเคี้ยวจนแก้มตุ่ยบรรยายให้เขาฟังอย่างน่าเอ็นดู แววตาเปล่งประกายของเธอ มีความหมายกับคนคลั่งเมียแบบเขาเป็นอย่างมาก
การได้มีผู้หญิงคนนี้มาอยู่ตรงหน้า เป็นเรื่องที่เขาวาดฝันเอาไว้มาตลอด ฝันที่เป็นจริง...นานหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า
“ลองยำใบชาหน่อยมั้ย เข้ากันมากนะ” ชายหนุ่มเสนอราวกับว่าเขาเป็นเจ้าถิ่นอย่างไรอย่างนั้น
“จริงเหรอ ไหนๆ...อื้อหือ รสชาติหอมชา เปรี้ยวนำเค็มหวานตัดพอดีมาก กลิ่นมะเขือเทศหอมเป็นเอกลักษณ์สุดๆ ไม่เคยทานเลยอะ” ว่าพร้อมตักยำจานนั้น รับประทานซ้ำๆ และตักขาหมูสมทบเข้าไป ความฟินจากรสสัมผัสละลายในปาก ตัดกับรสชาติที่นำโดดลงตัว
“ทำไมคุณรู้ดีจัง มาบ่อยเหรอ?” เขาเกือบพยักหน้าแล้ว แต่ดีที่ยับยั้งเอาไว้ได้ก่อน
“แค่รู้ว่าคุณอยากมามากๆ ผมก็ต้องมีข้อมูลที่มากตาม เป็นธรรมดา”
“หือ...คิดว่าตัวเองเป็นทองหรือไง หยอดเก่งเกิ๊น” พ่อเลี้ยงธาดาหัวเราะออกมา ยิ้มจนเห็นฟันขาวครบทุกซี่
“มุกคุณนี่ สมกับอายุจริงๆ”
“แหม พูดอย่างกับตัวเองอายุน้อยอย่างนั้นแหละ” เธอส่ายหน้าเชิงไม่ถือสา เพราะนี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป เดินเข้าสู่โลกแห่งความฝัน ทั้งๆ ที่ยังตื่นอยู่
“นี่ครับ กิมจิยูนนานเปรี้ยวจี๊ด เผ็ดนิดหน่อย แก้เลี่ยน” เขาเลือกที่จะแสดงว่าตัวเองทำการบ้านมาดีแค่ไหน สำหรับฮันนีมูนทริปนี้
“หือ...เปรี้ยวเกิ๊น ฉันว่าแค่ยำใบชาก็แก้เลี่ยนได้เยอะแล้ว”
“อ้าวเหรอ อะ...หมั่นโถวทอดหน่อย แก้เปรี้ยว” แล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ผลัดชวนกันชิมนั่นนี่ที่ยังมีในร้านอีก
กินเวลาเนิ่นนานร่วมสองชั่วโมงเหมือนกัน ที่สองคู่สามีภรรยาหัวเราะอย่างสนุกสนาน ได้รู้จักกันผ่านการรับประทานอาหาร
บรรยากาศด้านนอกมืดสนิท ทะเลสาบกว้างหลับใหล มีเพียงไอน้ำเหนือผิวน้ำเท่านั้นที่ยังเคลื่อนไหว พระจันทร์ใกล้เต็มดวงโผล่พ้นน่านฟ้าอีกฝั่ง
“อากาศหนาวเริ่มมาเยือน...หอมหมอกสมชื่อ” หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย ทั้งสองก็พากันมาเดินเล่นรอบริมทะเลสาบ โชคดีที่ช่วงนี้คนน้อย บรรยากาศก็เลยค่อนข้างจะสงบ
“หนาวไหม” คนเปรยอะไรไปเรื่อย ถูกสวมกอดเข้าจากทางด้านหลัง ใช้คางเกยบริเวณกลุ่มผมหอมนุ่มของเธอ ที่ช่วยบรรเทาความเย็นจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
“ก็...นิดหน่อยค่ะ” เธอจับมือเขากระชับเข้าจากทางด้านหน้า ปล่อยกายปล่อยใจไปกับบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก
ภาพความหลัง ความเศร้าที่เพิ่งจะผ่านมาไม่นาน พัดผ่านเข้ามาให้ได้รู้สึกเป็นบางครั้ง แต่แสนเบาบาง
คงถึงเวลาที่จะต้องเริ่มต้นใหม่สักที...
“รู้ไหม ว่าผมชอบอากาศหนาวมาก...ชอบที่สุด”
“เหรอคะ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น” คนที่ชอบอากาศเหมือนกัน อยากจะฟังมุมมองของเขา เอนกายไปกับอกกว้างพร้อมรับฟังคำบอกเล่า อย่างเปิดใจ
“มันทำให้ได้กอดคุณแน่นๆ อย่างนี้ไง” แล้วเขาก็กวัดรัดเรือนร่างเล็กให้อ้อมกอด ให้แน่นขึ้น
“หือ แล้วตอนที่เรายังไม่ได้เจอกัน...กอดใครมาบ้างแล้วล่ะคะ” เธอเย้าเขาเล่น หากแต่คนถูกเย้ากลับสะดุดกึกใหญ่ อากัปกิริยาของเขาทำเอาเธอรับรู้ได้
นั่นสินะ เธอไม่เคยถามเขาเรื่องนี้เลย...เขามีอดีตไหม อดีตเป็นอย่างไรบ้าง
“ขึ้นห้องกันดีกว่านะ อยากนอนกอดเมียจะแย่แล้ว” และยิ่งเขาเลี่ยงที่จะตอบแบบนี้ ใจของพินยุพาก็อดที่จะคิดไปในทางไม่ดีไม่ได้
“ก็ได้ค่ะ” แต่เธอก็เลือกที่จะไม่คิดถึงมัน ขอดื่มด่ำกับความสุข ณ ปัจจุบันก็พอ เธอขี้เกียจจะต้องคิดมาก...กับเรื่องอะไรแล้ว