บท
ตั้งค่า

8 สุขอันล้ำเลิศ NC25+

“อุ่นจัง” สองเรือนร่างกอดตะกรองกันอยู่ใต้ผ้าห่มนวมผืนหนา ที่มีความหอมสะอาด ในห้องนอนชั้นสูงสุดที่มีกระจกใสเบื้องหน้า สะท้อนแสงไฟสีส้มดวงเล็กๆ ที่สาดสะท้อนความมืดยามราตรี ให้พอได้เห็นความสงบรำไร

เจ้าของอ้อมกอดใหญ่กว้าง...ลูบเส้นผมเรียบสวยของภรรยาด้วยความรู้สึกรักใคร่และทะนุถนอม มาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว จนคนถูกกอดอดที่จะถามขึ้นไม่ได้

“จะแค่นอนกอดจริงๆ เหรอคะ” แม้จะรู้สึกกระดากแค่ไหน ก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ จนหนุ่มใหญ่หัวเราะออกมา

“แสดงว่า วันนั้นไม่ใช่เพราะแค่เมาจริงๆ ด้วย”

“นี่คุณทดสอบฉันเหรอคะ?” เธอตีอกเขาไปหนึ่งที เชิงขัดเขิน

“เปล่า แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าภรรยาร่างปกติกับตอนเมา ต่างกันมากไหม” เขาพลิกตัวเองขึ้นคร่อมร่างเล็กเอาไว้อย่างรวดเร็ว จนเธอตกใจ หากแต่...ยังคงความอ่อนโยน

“งั้นคืนนี้ก็นอนกอดไปเฉยๆ ก็แล้วกัน” เขายิ้มเชิงเอ็นดู เมื่อเห็นสีหน้าเง้างอนของเธอ

“ไม่ได้หรอก ปล่อยให้เมียรอเก้อมาคืนหนึ่งแล้ว...” แล้วเขาก็บรรจงจุมพิตที่หน้าผากของเธอช้าๆ ราวกับอยากจะจดจำทุกวินาทีที่ได้สัมผัสเรือนร่างของเธอ ด้วยท่วงท่าที่ลึกซึ้งเสมอ

“และผมเองก็รอเวลานี้มานานมากแล้วเหมือนกัน” สองสายตาสบกันสื่อความหมาย

“นานแค่ไหนแล้ว ที่คุณรอฉัน” เธอไม่รู้หรอกว่าเธอเคยเจอกับเขาตั้งแต่ตอนไหน แต่เธอเชื่อว่าการที่ผู้ชายคนหนึ่งจะตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งได้ เขาต้องใช้เวลามาพอสมควร

รักแรกพบในค่ำคืนที่เธอร้องไห้จนตาบวมและเมามาย ไม่น่าจะทำให้ประทับใจจนอยากจะแต่งงานกับเธอในวันรุ่งขึ้นได้จริงๆ หรอก

“ทั้งชีวิต” แล้วเขาก็ประกบริมฝีปากหยักนุ่ม ลงบนกลีบปากนิ่มนวล ดูดดุนเบาๆ...ก่อนแทรกเรียวลิ้นเข้าไปเชื่องช้า และเธอก็ตอบสนองอย่างยินยอมพร้อมใจ

ความอุ่นนุ่ม ละเมียดละไมในโพรงปาก ทำเอาหัวสมองของเธอขาวโพลนไปชั่วขณะ รสจุมพิตที่เคยลิ้มมาบ้าง ยังไม่นุ่มนวล...ชวนให้ตอบสนองได้เท่านี้

นี่คือรสจูบที่หวาน นุ่ม เหมือนขนมหวาน ไม่ต่างจากในนวนิยายที่เคยอ่าน ที่เธอคิดว่าคงไม่มีอยู่บนโลกความเป็นจริงด้วยซ้ำ

“หวานไหม” น้ำเสียงนุ่มทุ้มกังวาน เอ่ยในขณะที่ค่อยๆ ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง ฝ่ามือใหญ่โลมลูบไปยังไหล่กลมกลึง เลื่อนไปจนถึงฝ่ามือเล็กที่สะท้านเล็กน้อย

“ค่ะ...” เธอตอบเสียงเบา ลมหายใจหอบแรง ประสานมือกับเขาอย่างแนบแน่น ตื่นเต้นไม่น้อย...แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เช่นกัน

สัมผัสจากปลายนิ้วอีกข้างของเขา ที่ค่อยๆ ลูบไปตามเรือนกายใต้ผ้านอนบางเบา ทำให้ความร้อนผ่าวผุดขึ้นตามรูขุมขน

ไอ้อยากลองมันก็อยากลองอยู่หรอก แต่ความหวาดกลัวก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย...

เธอครางออกมา เมื่อเรียวนิ้วซุกซนแทรกเข้าไปยังผิวเนื้ออุ่น ขาวเนียน ก่อนจะร่นผ้าบางที่คลุมร่างเธออยู่ ให้ครูดขึ้นไปด้านบน

วินาทีที่เนื้อผ้าลากผ่านเส้นขน เหมือนมีไฟจุดติดลุกลามตามไปด้วย

“หอมจัง” เขากระซิบบอก เมื่อปลายจมูกโด่งคมสูดเอาความหอมบริเวณซอกคอระหง อย่างอดทนอดกลั้น ชุดนอนตัวบางของเธอหลุดพ้นไปจากเรือนร่างแล้ว เหลือเพียงไออุ่นจากเรือนกายเปลือยเปล่าอยู่ก่อน ที่ห่อห่มชิดใกล้อย่างหมิ่นเหม่

เนื้อตัวเขาอุ่นนัก...อุ่นกว่าผ้าห่มก่อนหน้าเสียอีก ในคราที่เนื้อห่มเนื้อให้กันเช่นนี้

หญิงสาวครางออกมาซ้ำๆ เมื่อฝ่ามืออีกข้างของเขา เลื่อนต่ำลงไปบริเวณกึ่งกลางร่าง ที่เผยอแยกออกจากกันจนสุด แบบที่เจ้าของไม่รู้ตัว

พินยุพาแอ่นใบหน้าไปกับหมอนใหญ่ เพลิดเพลินกับปลายลิ้นที่เริ่มเล็มไปตามสันไหล่ พร้อมๆ กับฝ่ามือสากที่โลมลูบไปตามเรียวขา

มันเหมือนจะหายใจไม่ออก สูดอากาศ มองฝ้าเพดานที่มีแสงรำไรจากแสงไฟสลัว วิบวับ

“คุณเปียกแล้ว...” คำพูดของเขามาพร้อมกับสัมผัส หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย อยากจะหนีบเรียวขาเข้า แต่เขาก็ใช้ลำตัวรั้งออก

แปลกที่การกดรั้งจากพลังที่มากกว่า ทำให้เธอรู้สึกดีประหลาด พร้อมๆ กับที่ฝ่ามือใหญ่สัมผัสความ ‘เปียก’ ที่ว่าอย่างจู่โจม หากแต่ทำให้เธอกระสันไปทั่วร่าง

“อื้อ...” หญิงสาวดิ้นพล่าน กระถดสะโพกหนี มันทำให้เขายิ่งต้องออกแรงมากขึ้น

“ครางออกมาดังๆ” เขากัดฟันว่า ก่อนก้มลงช่วงชิมความเปียกชุ่มนั้นเบาๆ เชื่องช้า แต่เน้นจังหวะ จนเธอยิ่งดิ้นพล่านไปกันใหญ่

หญิงสาวเหลือบสายตามองใบหน้าหล่อเหลา ที่กำลังทำในสิ่งที่เธอไม่คิดฝันว่าจะได้พานพบ เรียวลิ้นอุ่นของเขาสร้างความรู้สึกดีเสียยิ่งกว่ารสจูบ

ความอุ่น ละมุน ชุ่มฉ่ำ ปะปนกันอย่างลงตัว จนเธอกรีดร้องออกมารอบแล้ว รอบเล่า ฝ่ามือเล็กไขว่คว้าท่อนแขนแกร่งของเขาเอาไว้ จิกเล็บลงไปเป็นบางที

“เก่งมาก” เขาชื่นชม เมื่อเธอไปถึงจุดที่สุขสม กระตุกแอ่นสะโพกคาริมฝีปากเขา...ก่อนที่เขาจะกลับไปมอบจุมพิตอันดูดดื่มให้เธออีกหน

“พร้อมไหม” เขาครางต่ำบ้าง เพราะปวดร้าวไปทั้งตัว จากความขึงขังที่กำลังพองตัว อยู่ในบอกเซอร์ที่เขาใส่นอน

“มันใหญ่กว่าเมื่อวาน...” เธอตกใจไม่น้อย เมื่อเขาดึงบอกเซอร์ให้พ้นจากกายไป เมื่อวานเธอได้สัมผัสแล้วก็จริง แต่ไม่ได้มีความใหญ่โตขนาดนี้

“ใหญ่ได้มากกว่านี้อีก...” ว่าพร้อมดึงมือเธอไปสัมผัสความใหญ่โตที่ว่า ท่อนเนื้ออวบอูมแข็งเป็นลำยาว พองตัวขึ้นทันทีและชี้ขึ้นบนมากกว่าเดิม เมื่อฝ่ามือเล็กได้สัมผัส

เธอจับอย่างกลัวๆ กล้าๆ

“อย่างนั้นแหละ...อา” เธอเริ่มสัมผัสอย่างที่เรียนรู้ว่า ลูบคลึงเบาๆ เน้นสัมผัสบริเวณส่วนปลาย คลึงวน จนแท่งร้อนที่ว่าใหญ่แล้ว ใหญ่ได้มากกว่านี้อย่างที่เขาว่าจริงๆ

“ฉันขอชิมอีกนะ” เธอผลักเขานอนลงบ้าง รสชาติของมันเธอจดจำได้ดี ก่อนใช้ริมฝีปากครอบลงไป ด้วยอารมณ์พิศวาสท่วมท้น เรียวลิ้นหวาน ผสานกับโพรงปากนุ่มอุ่น ทำเอาชายหนุ่มเกร็งไปทั้งร่าง

ลอนหน้าท้องที่หดเกร็งของเขา ถูกมือบางเอื้อมไปสัมผัส ในขณะที่โพรงปากขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ

“เยี่ยมมาก...” เขาเอื้อมมือมาลูบไล้ดวงหน้านวลเนียน อย่างชื่นชมและรักใคร่ พินยุพาเรียนรู้ร่างกายเขาได้ไว แม้จะมีความไม่ประสาอยู่บ้าง

“อื้อ...” และเธอก็ต้องร้องครางออกมา เมื่อถูกสวนกระแทกมาจากสะโพกสอบเบาๆ จนส่วนปลายของแท่งร้อนชนเข้ากับคอหอยของเธอ

“คุณน่ะ!” เธอปล่อยเขาและบริภาษออกมา จนชายหนุ่มต้องส่ายหน้า และพลิกให้เธอกลับไปนอนดังเดิม

“อยากกระแทกเมียแล้ว” ว่าพร้อมดูดดุนเต้างามอันเย้ายวนของเธอ ในจังหวะที่หญิงสาวต้องร่ำร้องออกมา ธาดารู้ว่าต้องทำยังไง จนเธอหายใจไม่ทั่วท้อง แอ่นหน้าอกเข้าหาริมฝีปากของเขาเชิงพึงพอใจ

กลีบเนื้อเบื้องล่าง ก็ได้รับการปรนนิบัติจากนิ้วกลางโลมลูบเป็นจังหวะที่ทำให้เธอแอ่นเข้าหา รอบแล้วรอบเล่า...

“ผมขอเข้าไปนะ” เขาว่าทั้งๆ ที่ไม่ยอมห่างจากก้อนเนื้อขาวโพลนทั้งสอง พินยุพาเป็นหญิงสาวที่ซ่อนรูป มีสัดส่วนงดงามไร้ที่ติ หากแต่ไม่ค่อยสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้เห็นรูปร่างของเธอเด่นชัด

“อื้อ...” คนรับการแทรกท่อนเนื้อเข้ามาในกาย รู้สึกอึดอัดระคนเจ็บปวด หากแต่รสสัมผัสจากริมฝีปากบริเวณสองเต้า กลับทำให้ความเจ็บปวดพวกนั้นทุเลาลง

“นิดหนึ่งนะครับ” เขาว่าอย่างปลอบโยน จุมพิตเธอเนิ่นนาน ตลอดการเดินทางเข้าไปจนสุดภายใน ปราการแน่นหนาที่ทำให้ทั้งคู่เจ็บปวด แตกออกแล้ว

“อื้อ...” พินยุพาจิกเล็บลงบนไหล่เขาสุดแรง มันเจ็บปวดเหมือนมีคนมาแยกร่างเธอออกจากกัน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นหนึ่งเดียว

ไออุ่นจากแท่งร้อน ความขรุขระที่เสียดสีเข้ามา ไม่ได้มีแต่ความเจ็บปวดเสียทีเดียว

“ผมจะค่อยๆ ขยับนะ” เขาว่าอย่างใส่ใจ ไม่ผลีผลาม แถมยังใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำ แม้ต้องอดกลั้นเพียงใด

“ไม่ต้องเกร็งนะ...ผ่อนคลาย” เขาค่อยๆ ใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปยังแผ่นหลังเนียน บีบคลึงสะโพกให้เธอได้ผ่อนคลาย ความใจเย็นที่ไม่ได้ทำไปเพื่อสนองตัณหาของตัวเองเป็นหลัก แต่ใส่ใจคู่รักเป็นอย่างดี

“ขอบคุณนะคะ...” เธอขอบคุณเขาจากใจ ที่ปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพบุรุษจริงแท้เช่นนี้ ความกลัวที่เคยคิดว่าครั้งแรกจะต้องเจ็บเจียนตาย

เขาทำให้มันไม่ได้ดูเลวร้ายขนาดนั้น ยิ่งเขาเคลื่อนไหวเชื่องช้า รู้จักจังหวะผ่อนหนักเบา เธอก็รู้ได้ว่า...ความเจ็บปวดมันเป็นเรื่องลวงเท่านั้น ความสุขหลังจากนั้นต่างหากที่เป็นของจริง

เธอกับเขาร่วมหลับนอนกันรอบแล้ว รอบเล่า จวบจนรุ่งสาง...

การเสียบริสุทธิ์ครั้งแรกในวัย 37 ปี ไม่ใช่เรื่องที่สายเกินไป ความสุขอันล้ำเลิศที่ใครไม่รู้กล่าวเอาไว้ เป็นจริงดังนั้น เธอขอยืนยันอีกเสียง!
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel