9 หวานชื่นที่ปางอุ๋ง
“เกือบไม่ทันไอหมอกเหนือน้ำซะแล้ว”
เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อเลี้ยงธาดาและพินยุพารีบพากันมาที่ปางอุ๋ง เพราะตื่นสาย แต่โชคดีที่อากาศที่ยังคงหนาว ไอหมอกที่กรุ่นขึ้นเหนือน้ำยามเช้า ยังคงสวยเกินกว่าจะบรรยาย
อาจจะเป็นเพราะต้นสนสูงใหญ่ รายล้อมแอ่งน้ำนี้เอาไว้ ทำให้บรรยากาศเย็นฉ่ำกว่าบริเวณอื่น
“สองคนครับ ขอเหมาลำนะ” เสียงของธาดาที่อำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ภรรยา ดังอยู่ไม่ห่าง
พินยุพารู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว เพราะเมื่อคืนเขากวนเธอไปหลายรอบ จากความเจ็บปวดในตอนแรก แทบไม่เหลืออยู่ในตอนนี้
สิ่งที่อวลอยู่ในร่างกายเธอ มีแต่ความสุขสมอันหวานหอม ไม่รู้ใครจะคิดว่าเธอโอเวอร์เกินไปไหม แต่สำหรับหญิงสาวที่รอคอยการได้เข้าเรือนหอมาเนิ่นนานอย่างเธอ
บอกได้เลยว่า...มันคุ้มค่ากับการเฝ้ารอจริงๆ
“จับมือผม...” คนลงเรือไปก่อน ส่งมือมาให้เธอที่แววตาเปล่งประกาย ตื่นเต้นกับไอหมอกเหนือน้ำเสียนักหนา
“ขอบคุณค่ะ” เธอขึ้นเรือไปด้วยความรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย เอามือไปแตะน้ำที่ไม่เย็นมากอย่างรู้สึกสนุก ไอหมอกที่ลอยคลุ้งสวยเกินกว่าจะบรรยายจริงๆ
“ยิ้มหน่อยครับ” ธาดาน่ารักกับเธอมาก เขาเตรียมกล้องเล็กๆ มาด้วย คล้องไว้ที่คอ กดถ่ายเธอตั้งแต่ลงแพไม้ไผ่ด้วยกันมา
“ถ่ายคู่กันไหมคะ?” เธอว่าพร้อมขยับเข้าไปหา แพไม้ไผ่นี้มีขนาดกว้าง เธอกับเขานั่งอยู่ตรงกลาง สมดุลน้ำหนักได้อย่างดี
“ระวัง” เขาว่าเสียงเข้ม และกดกล้องถ่ายเธอคู่กับเขาแบบเซลฟี่ ในมุมสูงนี้ทำให้ดวงตาของเขาและเธอหันไปเห็นยอดสนสีเขียวเข้ม ตัดกับท้องฟ้าสีครามสด
แดดอุ่นๆ รำไรที่ยังส่องมาไม่ถึงบริเวณนี้ ทำให้สีเขียวเข้ม ให้ความรู้สึกชื้นมีมนตร์ขลัง
“หูย...น้องหงส์มาแล้ว มาคู่กันด้วย” พินยุพาว่าอย่างตื่นเต้น พร้อมชี้ให้เขาดูด้วยกัน ยิ่งแพไม้ไผ่เข้าใกล้ หงส์สีขาวสองตัวก็เอาริมฝีปากชนกัน จนเกิดเป็นรูปหัวใจที่สวยงาม
“น่ารักมาก...ทำหัวใจเป็นด้วย” หญิงสาวหันไปยิ้มแฉ่งให้กล้อง เพราะเขากำลังถ่ายรูปแบบรัวๆ ให้
“ขอรูปคู่ด้วยนะคะ” เธอว่าอย่างน่ารักกว่า จนเขาอยากจะหอมแก้มให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ผู้หญิงอะไร...น่ารักขึ้นได้ทุกวี่ทุกวัน
“อย่ายิ้มเยอะ ผมจะทนไม่ไหว” เขาเตือนเธอเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน อย่างให้เกียรติ
“คุณนี่” เธอตีเขาเบาๆ ที่แขนหนึ่งทีพร้อมขอดูรูป ก่อนจะถ่ายรูปอีกหลายชุดใหญ่ ธาดาเหมาลำนี้มาแล้ว เจ้าของแพจึงพายวนไปโดยรอบช้าๆ ให้ทั้งคู่ได้ชมเวิ้งน้ำของปางอุ๋งเต็มตา
ภาพไอน้ำคลุ้งขึ้นเหนือน้ำ เป็นมนตร์เสน่ห์อันแสนโรแมนติกที่ทั้งสองจะไม่มีวันลืม...ยิ่งแสงแดดอุ่นสาดทอมาพอดี ยิ่งทำให้ปางอุ๋งแห่งนี้ สวยงามอย่างไร้ที่ติ
“คุณถ่ายรูปสวยเหมือนกันนะเนี่ย” เธอชมจากใจ หลังจากไล่ดูรูปภาพที่เขาถ่ายให้จนครบ และสูดอากาศดีดีเข้าจนเต็มปอด
อากาศที่นี่หอมมาก หอมบริสุทธิ์ ไร้กลิ่นควันหรือคราบน้ำมัน แบบในตัวเมืองเชียงรายที่เธออยู่
“ก็คุณสวย ถ่ายยังไงก็สวย”
“ตรงไหน ฉันหน้าตาธรรมดาออก” เธอว่าตามความเป็นจริง หากแต่ไม่ได้ด้อยค่าในตัวเอง
“จริงเหรอ หน้าเนียนมน ปากนิดจมูกหน่อยแบบนี้ เอาอะไรมาไม่สวย...สวยที่สุดแล้ว” เขาว่าเชิงจริงจัง ใช้สายตาสำรวจเครื่องหน้าของเธอ ที่ดูจะชัดและยังดูเด็กกว่าอายุมาก
“บ้า...อย่ามาชมตรงๆ แบบนี้สิ”
“ไม่มีใครสวยเทียบเมียผมได้หรอก สาบานให้...”
“พอแล้ว อย่าถึงขั้นสาบานเลย ฉันยอมสวยให้ก็ได้ ไม่เถียงแล้ว” เขาหัวเราะลั่นออกมา
“ขอบคุณที่เป็นห่วง กลัวผมถูกฟ้าผ่าจริงละสิ”
“ไม่ได้ห่วงคุณ ห่วงฟ้า...เอาไว้ให้เขาผ่าเรื่องที่มีประโยชน์กว่านี้เถอะ” แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ความสุขในเช้าวันนี้มันบริสุทธิ์มากเลย
เธอไม่ได้คิดถึงคนอื่น ไม่มีแม้แต่พูดถึง เหมือนความหลังทั้งหมดที่อวลอยู่ในแววตา ถูกทิ้งไปกับเมื่อวาน เขาไม่เห็นน้ำตาเธอสักหยด เห็นแค่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะรอบแล้ว รอบเล่าเท่านั้น...
“อะไรนะ! มีคนเห็นหมอกฤชไปกับผู้หญิงเหรอ เห็นที่ไหน” เพ็ญยุพาผู้กำลังนั่งพับผ้าเข้าตู้ให้บุตรชายที่กำลังเป็นหนุ่มน้อยทั้งสอง รับสายจากน้องสาวคนกลางที่ดูจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ
‘ที่โรงพยาบาลที่พี่หมอกฤชทำงานอยู่นั่นแหละ มีคนเห็นว่านางเอาข้าวไปส่งทุกวันเลย’
“เรื่องนี้มันยังไงกัน ตกลงหมอกฤชไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่บอกเหรอ”
‘อันนี้ก็ไม่แน่ใจเลยพี่ แต่ก็มีคนเห็นนะ...ว่านางไปบาร์เกย์ในคืนวันก่อนแต่งงานของพี่พิน สับสนไปหมดแล้วเนี่ย’ เพ็ญยุพาถอนหายใจออกมา
“เอาเถอะ ยังไงเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ยัยพินก็มีความสุขแล้ว ทำตามที่ยัยพินบอกเถอะนะ อย่าพยายามไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย”
‘มันก็อยากทำอย่างนั้นอยู่นะพี่ ถ้าไม่ติดว่า...มีคนเตือนมาว่า ประวัติของพ่อเลี้ยงธาดากับภรรยาเก่า ไม่ธรรมดาเลย’
“ตกลง คุณธาดา...เขาเคยแต่งงานมาก่อนจริงๆ เหรอ” พี่สาวคนโตของบ้าน ชักเริ่มเป็นห่วงน้องสาวแล้ว
‘น่าจะจริงนะพี่ ยัยพัตบอกว่า...พี่พริกก็ยืนยันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าพี่พินของเรา ทราบเรื่องหรือยัง’
“น่าจะยังไม่ทราบ”
‘แต่อดีตก็เป็นอดีตไปแล้ว น่าจะไม่มีอะไรหรอกเนาะ...และพี่เราก็มีทะเบียนสมรสด้วย’ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี เพ็ญยุพารู้สึกสังหรณ์ใจกับเรื่องนี้ ยังไงก็ไม่ทราบ