3 เรียกสินสอดมาได้เลยนะครับ
“คุณแม่อยากเรียกสินสอดเท่าไหร่ เรียกมาได้เลยนะครับ” น้ำเสียงทุ้มกังวาน ของชายหนุ่มที่ดูเพียบพร้อมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เปล่งประโยคที่ทำเอาคนทั้งบ้านกรองทิพย์ รู้สึกเกรงอกเกรงใจ
ธาดา บุญกะรัต ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้ เขาดูสุขุม ใจดี แต่ทว่าก็น่าเกรงขามไปพร้อมๆ กัน
แววตาของเขาฉายความจริงใจ จริงจัง เสียจนไม่อยากจะเชื่อว่า เขาคือคนเดียวกับผู้ชายที่ยอมจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกัน ได้แค่วันเดียว
เขาตกหลุมรักพินยุพาตั้งแต่แรกเห็น อย่างที่พัตยุพาคาดการณ์แน่หรือ?
‘คุณธาดาเป็นเพื่อนกับพี่พริกค่ะ เคยมางานแต่งงานของพัตกับพี่พริกด้วยนะคะ...หรือว่าคุณธาดาจะตกหลุมรักพี่พินตั้งแต่ตอนนั้น?’
‘แล้วเขาเคยมาถามอะไรเกี่ยวกับยัยพินกับเราหรือสามีเราบ้างรึเปล่าล่ะ’ เพ็ญยุพาผู้ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก ถามเชิงคิดวิเคราะห์
‘ไม่เคยนะคะ พี่พริกก็ไม่ได้มาเล่าอะไรให้ฟังด้วย’ พัตยุพาอายุ 29 ปี แต่แต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 39 ปีอย่าง ศรายุทธ สมโภชน์ นักธุรกิจจากตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดเชียงราย แต่มีธุรกิจกระจายอยู่ทุกภูมิภาค
“เอาจริงๆ แม่เองก็ยังไม่หายตกใจกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นเลยนะ แต่...เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจและเสียฤกษ์สำหรับวันดีดีแบบนี้ แม่ขอบคุณนะที่พ่อเลี้ยงจริงใจแล้วก็ให้เกียรติลูกสาวของแม่ขนาดนี้ เรื่องสินสอดไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย ขอแค่พ่อเลี้ยงดูแลลูกสาวของแม่ให้มีความสุข ทั้งกายและใจก็พอแล้ว”
ยุพิน กรองทิพย์ เอ่ยจากใจด้วยทีท่าของคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ได้ตื่นเต้นกับการที่มีผู้ชายรวยๆ มาเสนอให้เรียกค่าสินสอดเท่าไหร่จากบุตรสาวที่จะออกเรือนเป็นคนสุดท้ายของบ้าน
“ผมต้องขออภัย ที่ไม่ได้มาเจอคุณแม่ ก่อนที่จะพาน้องไปจดทะเบียนสมรสครับ” ความจริงใจที่เหมือนรู้จักคุ้นเคยกับมารดาของพินยุพาเป็นอย่างดี ราวกับว่าเขาเป็นว่าที่ลูกเขยของบ้านนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้วซะเอง
ทำเอาพลอยยุพาที่ลอบสังเกตผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเจอแบบไม่ให้คลาดสายตา ขมวดคิ้วรอบแล้วรอบเล่า
ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านของมารดา เพราะตั้งใจจะมาฉลองวันเกิดของพินยุพาตามเช่นปกติทุกปี เพ็ญยุพาให้คนขับรถมาส่งที่นี่ เพราะบ้านของเธออยู่ไม่ไกลนัก สามีและบุตรทั้งสามจะตามมาสมทบหลังจากที่เด็กๆ เลิกเรียนพิเศษ
พลอยยุพาขับรถมาเองจากลำปางล่วงหน้ามาก่อน เพราะสามีและบุตรชายเพียงคนเดียว จะตามมาสมทบทีหลัง
และพัตยุพานั้น เธอไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านและกรุงเทพมหานครเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว เพราะสามีของเธอดูแลธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพมหานครเป็นหลัก
“เรื่องนั้นแม่เองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็เคารพการตัดสินใจของลูกสาว ยัยพินเลือกอะไรแม่ก็เลือกด้วย ขอบคุณเหลือเกิน ที่ให้เกียรติเรานะคะ” ยุพานิ่งมากตั้งแต่เรื่องเกิด จนบุตรสาวทั้งสี่เองก็ประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถาม
เพราะยุพาเป็นคนเด็ดขาด ค่อนไปทางดุ ตั้งแต่ที่ได้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะสามีเสียชีวิตไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
“ขอบพระคุณคุณแม่มากนะครับ งั้นเรื่องสินสอดผมจะจัดเตรียมให้อย่างสมเกียรติ เรื่องฤกษ์ยามได้เร็วที่สุดก็สัปดาห์หน้า เรื่องจัดงานไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจัดการทั้งหมดเอง ถ้าทางนี้ต้องการอะไรเป็นพิเศษบอกผมได้เลยนะครับ”
การพูดคุยตกลงเป็นไปอย่างราบรื่น พ่อเลี้ยงธาดานำผู้ใหญ่มาด้วยหนึ่งคนคือทนายประจำตระกูลของเขา พัตยุพาแอบโทรสอบถามกับทางสามีก็ทราบเรื่องแค่ว่า หนุ่มใหญ่คนนี้เป็นคนดี ไม่มีญาติสนิทที่ไหน เพราะบิดามารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปเมื่อ 5 ปีก่อน
“มันน่าสงสัยนะพี่ว่ามั้ย ผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักกับบ้านเรามาก่อน ทำไมดูรู้รายละเอียดเกี่ยวกับบ้านเราดีจัง แถมยังดูเหมือนเขารักพี่พินของเรามานานแสนนาน...แววตาที่มองพี่พินหวานกว่าพี่หมอกฤชเป็นไหนๆ”
พลอยยุพาเอ่ยออกมา ในขณะที่ทุกคนมาช่วยกันยกอาหารไปเสิร์ฟแขกผู้มาเยือน งานวันเกิดปีนี้ของพินยุพาแปลกไปก็ตรงที่ มีบุคคลไม่คุ้นหน้ามาร่วมเฉลิมฉลองด้วย
“นั่นสิ พี่ก็พยายามให้พี่สมเดชลองพูดคุยและเลียบเคียงดู เห็นว่าพ่อเลี้ยงธาดาอะไรนี่ เป็นเจ้าของโรงงานขิงขนาดใหญ่ที่อำเภอเวียงป่าเป้า...รายละเอียดคงต้องรอก่อน” เพ็ญยุพาว่าอย่างหนักใจ แม้ชายผู้นี้จะดูดี ดูรวยแค่ไหน แต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจกับการที่เขามาขอจดทะเบียนสมรสกับน้องสาวของเธอง่ายดายถึงเพียงนี้
“พัตเองก็เหมือนกันค่ะ ให้พี่พริกหาข้อมูลให้อยู่เหมือนกัน โชคไม่ค่อยดีค่ะ วันนี้พี่พริกติดไปงานแต่งงานลูกค้า เลยหาข้อมูลอะไรช่วยได้ยาก พี่พริกบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ ว่าคุณธาดาอะไรนี่รู้จักกับพี่พินของเราด้วย”
แล้วทั้งสามพี่น้องก็พากันถอนหายใจออกมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยอมรับ พี่สาวถูกบอกเลิกทั้งๆ ที่คบหากันมาถึง 9 ปี ร้ายไปกว่านั้นว่าที่เขยก็เฉลยว่าตนเป็นรักร่วมเพศ
ไหนจะถูกขอแต่งงานสายฟ้าผ่า แถมยังไปจดทะเบียนสมรสมาแล้วด้วยอีก...
“เฮ้อ อยากจะเป็นลม!” ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน และทำหน้าเหมือนจะร้องไห้