2 จดทะเบียนสมรสเพราะอกหัก
“พี่พิน...เปิดประตูให้พัตหน่อย ได้ยินพัตไหม!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้คนที่เลือกจะมาค้างที่คอนโดแทนที่จะกลับบ้าน หลังกลับมาจากเชียงใหม่ รีบเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อย
ก็คงจะมีแต่พัตยุพาเท่านั้นที่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เพราะน้องสาวคนนี้สนิทกับเธอมากที่สุด
“พี่พิน...เป็นอะไรรึเปล่า พวกเราเป็นห่วงมากนะรู้ไหม”
เหมือนจะไม่ใช่แค่น้องสาวคนเล็กแล้ว สองเท้าที่กำลังจะก้าวไปเปิดประตูนั้น ชะงักทันที
“ใช่ พวกเราเป็นห่วงแกมากรู้ไหม เปิดประตูให้พวกเราเข้าไปเถอะนะ ฉันรักแกมากนะพิน...” ไม่ใช่แค่น้องสาวคนรองและพี่สาวคนโตสินะ ตามกันมาจนหมดบ้าน
“มีอะไรกันเหรอ?” พินยุพาตัดสินใจเปิดประตูออกไปต้อนรับเหล่าพี่น้องทั้งสามของตัวเอง แบบไม่ยอมสบตาใคร
หมับ! พัตยุพาโผเข้ากอดเธอแน่นพร้อมน้ำตานองหน้า เพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าพี่สาวสุดที่รักจะทำร้ายตัวเอง
“พวกเราเป็นห่วงพี่มากนะ รู้รึเปล่า ทำไมเปิดประตูช้าแบบนี้” พลอยยุพาโผเข้ามากอดทับอีกราย โดยมีเพ็ญยุพาถอนหายใจอย่างโล่งอกอยู่ห่างๆ และเดินเข้ามาในห้องขนาดกลางนี้เป็นคนสุดท้าย
“ขอบใจทุกคนมากนะ พอดีฉันเข้าห้องน้ำอยู่น่ะ” เอาจริงๆ เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย เมื่อว่าเห็นพี่น้องมากันพร้อมหน้าแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมชื่อในใบทะเบียนสมรส...ถึงไม่ใช่หมอกฤช?” พี่ใหญ่อย่างเพ็ญยุพาเข้าเรื่องทันที เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
“นั่นสิ...พี่กฤชเขาไม่ได้ขอพี่แต่งงานเหรอ?” พัตยุพาดูผิดหวังกว่าใคร เพราะเธอเป็นคนที่สนับสนุนและเชียร์พี่สาวมาตลอด พร้อมเอาใจช่วยขอให้พี่สาวของเธอสมหวัง
พินยุพามองหน้าทุกคนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ก่อนส่ายหน้าช้าๆ
“กฤชเขาบอกเลิกพี่”
“อะไรนะ!” พลอยยุพาร้องออกมาก่อนใคร เชิงไม่พอใจหนัก ผู้ชายคนนี้ทำพี่สาวเธอเสียเวลามาตั้ง 9 ปี แล้วมาบอกเลิกง่ายๆ แบบนี้เหรอ!
“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทะเลาะกันเหรอ มีปัญหาอะไรที่คุยกันไม่ได้รึเปล่า” เพ็ญยุพารีบเดินมานั่งข้างๆ น้องสาว เชิงพร้อมจะปกป้องและช่วยเหลือ
“ไม่เลยค่ะ ทุกอย่างมันดีมาก...กฤชไม่เคยทำอะไรที่ทำให้พินรู้สึกว่า...เราจะไปต่อกันไม่ได้” พินยุพาโฮออกมา พร้อมคว้าพี่สาวมากอด
ในเวลานี้ เธออยากเป็นเพียงน้องสาวผู้อ่อนแอ ที่มีเรื่องอะไรก็มักจะวิ่งมาฟ้องพี่สาวเสมอ และรู้สึกผิดเหลือเกิน ที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำเตือนของพี่สาวและโต้เถียงมาตลอด
“เลวมาก ทำแบบนี้กับพี่ได้ยังไง พลอยไม่ยอมหรอก” พลอยยุพาเดือดจัดตามนิสัยลุยๆ ที่พร้อมปกป้องพี่น้องมาตั้งแต่ไหน
“ใจเย็นยัยพลอย เรื่องแบบนี้ต้องใช้สติให้มาก อย่าผลีผลาม” พี่สาวคนโตรีบติงน้องสาวคนที่สามของบ้าน
“กฤชเขาบอกว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง เขาชอบผู้...ชาย..ฮึก” ประโยคนี้เจ็บปวดเหลือเกิน สำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง หากจะต้องพูดมัน
“อะไรนะ!” คราวนี้ทั้งสามตะโกนออกมาพร้อมกัน เพราะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุด
“นี่พี่กฤชเป็นเกย์เหรอคะ? ทำไมถึงดูไม่ออกเลย” พัตยุพาดูช็อกกว่าใคร เพราะเธอก็ได้มีโอกาสชิดใกล้ ไปไหนมาไหนกับแฟนพี่สาวคนนี้มาตลอด
คมกฤชไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นเก้งกวางหรือเป็นผู้ชายสีรุ้งเลย แม้เขาจะเรียบร้อย อ่อนโยน เอาใจเก่ง ดูแลตัวเองดีแค่ไหน
“นี่คือสิ่งที่...พี่รู้สึกแย่มากที่สุด มันบอกไม่ถูก มันยิ่งกว่าโดนหมดรัก ก็คือการโดนหลอกหรืออะไรก็ไม่รู้...ทำไมเขาถึงได้ใจร้าย ใจร้ายได้มากขนาดนี้...เวลาตั้ง 9 ปีเลยนะ...ฮือ”
ทำนบความรู้สึกถูกระบายออกมาในที่สุด เธอร้องไห้จนตัวโยน โดยมีเหล่าพี่น้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแม้สักคน
“โถ พี่พินของพัต” โดยเฉพาะน้องสาวคนเล็กที่สนิทกับเธอมากที่สุด โอบเอวพี่สาวเอาไว้ไม่ห่าง
“ไม่ได้ เราจะยอมให้เขาทำกับพี่พินแบบนี้ไม่ได้ พลอยจะต้องไปคุยกับพี่กฤชให้รู้เรื่อง” พลอยยุพาว่าด้วยความรู้สึกโกรธเคือง
“ไม่ต้องหรอกยัยพลอย พี่ขอบใจมากนะ แต่เรื่องนี้พี่อยากให้มันจบแค่นี้ หลังจากนี้...เขาก็คงจะควงแฟนใหม่ที่เป็นผู้ชายให้คนเห็นกันทั้งเชียงใหม่ ยังไงเรื่องมันก็ไม่จบแค่นี้อยู่แล้ว พี่ยังต้องรับมือกับคำคนอีกมาก พี่ไม่อยากอับอายไปมากกว่านี้แล้ว”
“ช่างมันสิ คนที่จะต้องอายคือมันไม่ใช่เรา ยิ่งมีคนพูดเรื่องนี้ยิ่งดี มันจะได้ไม่มีที่ยืนในสังคม ทั้งพี่กฤชและแฟนใหม่!”
“ยัยพลอย ใจเย็น...นั่งลง” เพ็ญยุพาส่ายหน้าให้กับความเลือดร้อนของน้องสาว ผู้แต่งงานจนมีบุตรกับสามีไปแล้วหนึ่งคน แต่ก็ยังทำตัวบู๊ลุยไม่เปลี่ยนแปลง
“พี่เพ็ญอะ...ก็คนมันไม่อยากยอมนี่” ถึงจะว่าอย่างนั้น แต่เธอก็ฟังพี่สาวคนโตเสมอ
“แล้วใบทะเบียนสมรสนั่น ของจริงหรือโฟโต้ช็อป” เพ็ญยุพาเอ่ยถามน้องสาวคนรองเชิงมั่นใจ ว่ายังไงก็ต้องเป็นโฟโต้ช็อปแน่
“โฟโต้ช็อปสิพี่เพ็ญ พี่พินคงไม่บ้าไปแต่งงานสายฟ้าผ่ากับใครง่ายๆ หรอก...” ไม่ทันที่ความมั่นใจของพลอยยุพาจะจบประโยค พินยุพาก็ตอบกลับมาก่อนว่า
“ของจริง”
“อะไรนะ!!!” คราวนี้ สามสาวว่าขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง แต่ดังกว่าเดิม
“หมายความว่ายังไง?” เพ็ญยุพาแทบจะดึงสติตัวเองกลับมาไม่ได้
“ตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่เมาหนักมีผู้ชายคนหนึ่งมาคอยเฝ้าไม่ห่าง และพอพินตื่นมาตอนเช้า ผู้ชายคนเดิมก็ยังคงอยู่ เขาถามว่าไหวไหม อยากกินอะไรรึเปล่า...” เล่าพร้อมน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลอีกครั้งอย่างซาบซึ้ง
“เขาดูอบอุ่น ใจดี และให้เกียรติมาก เขาพาไปอาบน้ำอาบท่าที่ร้านหนึ่ง ให้คนขัดสีฉวีวรรณพินอย่างดี ก่อนจะขอแต่งงานด้วยช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ แหวนแต่งงานวงนี้ สวมให้...และบอกว่าจะพาไปจดทะเบียนสมรสไว้ก่อน แล้วเย็นนี้จะยกขันหมากมาขอกับแม่”
“เดี๋ยวนะ...แล้วพี่ก็ยอมแต่งง่ายๆ งั้นเหรอ?” พลอยยุพาอยากจะบ้าตาย เธอไม่คิดว่าพี่สาวจะไร้สติได้ขนาดนี้
“ทุกอย่างที่เขาทำให้ มันเป็นสิ่งที่พี่อยากได้ไงพลอย พี่อยากได้มาตลอด ตอนนั้นพี่คิดว่าตัวเองฝันไปด้วยซ้ำ มันเหมือนพี่ได้รับในสิ่งที่พี่คิดว่ามันพังไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนของวันใหม่ แล้วอยู่ๆ ก็มีใครไม่รู้หยิบยื่นมันมาให้ จะไม่ให้พี่รับได้ยังไง พี่อยากได้มันมาตลอด...”
พินยุพาปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง เธอดูไม่ค่อยมีสติสักเท่าไหร่
“แต่เขาเป็นผู้ชายที่พี่ไม่เคยรู้จัก เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ เป็นมิจฉาชีพรึเปล่า...เนี่ยนะ?”
“นั่นสิ นี่แกทำอะไรลงไปฮะพิน รู้ตัวรึเปล่า?” เพ็ญยุพาที่เหมือนตัวเองหมดสติไปแล้ว ถามออกมาด้วยน้ำเสียงแห้งแล้ง สิ้นหวัง
“เดี๋ยวนะคะ ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะคะ...” พัตยุพาผู้รู้สึกว่าคลับคล้ายกับคลากับชื่อของผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน ทำให้เธอเปิดเข้าไปในโพสต์ของพี่สาวอีกครั้ง
“ธาดา บุญกะรัต...?” พลอยยุพายื่นใบหน้าเข้ามาดูด้วยอีกคน พร้อมอ่านชื่อเชิงนึก
“ชื่อไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่นามสกุลก็พอคุ้นนะ” เพ็ญยุพาว่าออกมาบ้าง
“แต่พัตว่า พัตคุ้นทั้งชื่อและนามสกุลเลยนะคะ” คำตอบของน้องสาวคนเล็ก ทำเอาพี่สาวทั้งสามหันไปมองหน้าเธอพร้อมกัน