บท
ตั้งค่า

สอง สตรีมิใช่คนหรืออย่างไร

ลู่เอินในชุดเยี่ยงคุณชาย ชุดสีขาวไข่พร้อมเผยใบหน้ารูปไข่จากการที่นางรวบผมขึ้นจนหมดและสวมที่ครอบผมไว้ มองโดยรวมนางเหมือนคุณชายวัยละอ่อนอย่างไรอย่างนั้น หากไม่ติดว่านางคือเจ้าประจำของโรงสุราหมื่นลี้แห่งนี้ที่มักนำเอาสุรารสเด็ดมาฝากขายจนเถ้าแก่คุ้นหน้า นางอาจถูกไล่ไปทันทีที่ก้าวเท้าเข้าร้านได้เพราะแลดูอายุน้อยเกิน

“อ้าว! คุณชายลู่มาแล้วหรือ เชิญนั่งก่อน เชิญนั่งก่อน”

เถ้าแก่รีบทิ้งสิ่งที่ทำอยู่มาปัดๆเช็ดถูเก้าอี้ที่สะอาดอยู่แล้วและผายมือให้คุณชายลู่ หรือ ลู่เอินนั่ง สายตาราวเหยี่ยวจ้องหาเหยื่อรีบมองเลยหลังของนางไปพอพบกับกองไหสุราหนึ่งลังก็ตาโตหยักยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ

“ช่วงนี้โรงสุราเจ้า ดีหรือไม่”

“ฮ่าฮ่า ตั้งแต่มีสุราเลิศรสจากคุณชาย ร้านข้าน้อยก็มีลูกค้าประจำไม่ขาดสายเลย ว่าแต่คุณชายยังมีสุราลืมดอกไม้หวนนึกแต่แมกไม้อยู่หรือไม่ขอรับ ลูกค้ามาถามหากันเพียบเลย...”

“ไม่มีแล้ว ต้องรอต้นคิมหันฤดูปีหน้าถึงทำมาส่งได้เลย วัตถุดิบพวกนั้นหายากเสียแล้ว หากหามาทำย่อมต้องใช้เงินมากไม่คุ้มราคาขายแน่”

ลู่เอินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เนื้อความล้วนสื่อเป็นทางนัยว่าหากเถ้าแก่อยากได้คงต้องจ่ายราคามากกว่าเดิมนั่นแหละ

หนวดสีขาวยาวเลยคางของเถ้าแก่โรงสุรากระตุกทันใด ทว่าเพื่อโรงสุราของเขาแล้ว...

“ฮะฮ่า เช่นนั้นคุณชายเรียกราคามาได้เลยขอรับ หากเป็นคนอื่นข้ามิมีทางยอมขึ้นราคาง่ายๆแน่ แต่นี่ข้าเชื่อใจคุณชาย แหะแหะ”

ลู่เอินยกชาดื่มแต่ใครจะรู้ว่าลับหลังจอกชานั้นนางกำลังกลั้นรอยยิ้มอยู่

“เช่นนั้นไว้ข้าไปตามหาวัตถุดิบก่อน ทำได้เท่าใดจะมาแจ้งเถ้าแก่ภายหลัง วันนี้ข้ามีสุรารสใหม่มาให้เจ้าไปลองขาย”

ลู่เอินโบกมือเรียกให้สารถีของจวนตนเองนำไหสุราขนาดเท่ามือสองกำมือมาวางบนโต๊ะ ทันทีที่เปิดผ้าคลุมปากไหออก กลิ่นหอมรัญจวนก็กระจายทั่วร้านทันที กลิ่นนี้เรียกเอาเถ้าแก่ที่ยืนอยู่ไกลๆก้าวเข้ามาหาใกล้เรื่อยๆแต่เมื่อใดไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็ต้อนที่ลู่เอินปิดผ้าคลุมลงปิดกั้นกลิ่นดังเดิมแล้ว

“นี่คือสุราดื่มมิรู้ลืม ข้าทำมาเพื่อให้แทนที่สุรารสเดิมที่วัตถุดิบหายากแล้ว มีรสแรงเป็นพิเศษเหมาะกับคนชอบรสชาติสุราเข้มข้น ยามเมามายจากสุรานี้แล้วจะทำให้วันต่อไปจำเรื่องตอนเมามิได้ ต้องเก็บไว้ให้พ้นจากความร้อนเสียหน่อยเล่า”

มีคราวหนึ่งที่ลู่เอินชิมรสชาติมันจนนอนหลับในเรือนเทียนเมิ่งตื่นมาอีกทีก็พ้นวัน ดูจากสีหน้าตื่นเต้นดีใจของเถ้าแก่พร้อมกับไม่ว่านางเรียกราคาเท่าไรเขาก็จ่ายให้อย่างไม่ต่อรองราคา เขาคงกำลังมีลูกค้าที่ต้องการสุรารสแรงอยู่กระมัง

ขากลับนี้ตัวเบาเพราะสุราที่แบกใส่คันรถมาด้วยหมดเกลี้ยงเปลี่ยนเป็นตั๋วเงินในอกเสื้อของนางแทน สีหน้ามีความสุขนี้ใครต่างที่มองมาก็หยักยิ้มอย่างไม่รู้ตัว แม้นางจะอยู่ในสภาพบุรุษน้อยก็เถอะ

สถานที่ต่อไปคือ หอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง นางออกมาทั้งทีไม่ไปดูหน่อยว่าพี่ชายเถลไถลเข้าหอนางโลมไหมก็เสียเที่ยวเปล่า เดินไปได้สักพักก็หยุดลงที่หอสูงใหญ่โดดเด่น การตกแต่งแทบทั้งหมดเป็นของสีแดง ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน หรือ ป้ายใดใด เมื่อนางเข้ามาก็เรียกมามาผู้ดูแลหอเข้ามาถาม

“ข้านัดคนไว้แต่ไม่รู้ว่าไปนั่งอยู่ที่ใด รบกวนมามาช่วยหน่อยเถอะ”

นางบอกลักษณะคร่าวๆของพี่ชายไป ดีที่ก่อนออกมานางถามว่าพี่ชายสวมชุดใดแล้ว และบังเอิญว่าเขาก็น่าจะยังสวมชุดเดิมอยู่ มามาจึงพาไปถูกที่ แต่ลู่เอินไม่คิดจะให้พี่ชายรู้ตัวก่อน นางไล่มามาให้กลับไปทำงานก่อนถึงที่นั่งพี่ชาย ส่วนนางก็เปิดโต๊ะไม่ไกลจากเขา แอบมองอยู่ห่างๆ

แปลกที่พี่ชายของนางมิเปิดห้องส่วนตัว เขากลับจองโต๊ะที่อยู่ในเขตบริเวณทั่วไปและตั้งอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นรอบข้างและไม่ไกลจากบันไดขึ้นไปชั้นสองด้วย

ฝั่งตรงข้ามของลู่เหลียนที่เขาหันหลังให้ทางนางคือบุรุษสวมหน้ากากเสี้ยวหน้าคนหนึ่ง ลู่เอินไม่คุ้นว่าเขาคือหนึ่งในสหายของพี่ชายเลย ชุดที่สวมก็ดำตั้งตัวไม่เหมือนคุณชายในเมืองหลวงสักนิด

นางนั่งมองไม่นานบุรุษสวมหน้ากากก็โบกมือเรียกเสี่ยวเอ้อคนหนึ่งมาหา ออกคำสั่งใดมิรู้เสี่ยวเอ้อผู้นั้นก็จากไป เวลาผ่านไปราวครึ่งเค่อสตรีในชุดกรุยกรายสี่คนก็เดินเรียงแถวมา

ที่แท้ คนที่ทำให้ท่านพี่เหลียนเถลไถลก็คือบุรุษผู้นี้ไม่ผิดแน่ บุรุษผู้นี้นางเห็นหน้าคราแรกก็พร้อมกับพฤติกรรมของลู่เหลียนที่เปลี่ยนไป เขาคือว่าที่ประมุขตระกูลไป๋คนต่อไป ยังไม่ทันแต่งงานก็เกี้ยวสตรีไปทั่วแล้ว ควรเสียที่ไหน!

ดูเอาเถอะ นางมองออกว่าพี่ชายของตนไม่ชอบใจที่มีสตรีมาขนาบข้าง แต่บุรุษสวมหน้ากากกลับคะยั้นคะยอให้พี่ชายนางรับไว้ อีกทั้งยังมีการส่งสายตาให้นางโลมสองคนปรนนิบัติอีก

ลู่เอินผู้นี้จะเป็นตัวแทนของมารดาให้เอง พี่ชายเถลไถล น้องสาวผู้แสนดีอย่างนางต้องช่วยตักเตือน!

ปึง!

ลู่เอินก้าวเท้าอย่างไวมุ่งตรงไปยังโต๊ะของพี่ชายแล้วสิ่งที่นางทำก็คือนำเบาะรองนั่งจากโต๊ะตนเองไปด้วยและวางลงพื้นแรงจนเกิดเสียงดัง

นางตั้งใจให้พี่ชายและบุรุษสวมหน้ากากมองนางอย่างเช่นตอนนี้เองแหละ

“เอินเอ๋อร์! จะเจ้ามาได้อย่างไร”

ลู่เหลียนผลักสตรีข้างกายสองคนออกทันทีโดยไม่ต้องผ่านสมองให้คิดก่อนเลย ใบหน้าของมารดาลอยวาบซ้อนน้องสาวตรงหน้าก็ทำให้เขาทำสิ่งนี้ไปเอง

“ข้าก็มาหาพี่ชายนั่นแหละเจ้าค่ะ ท่านมาเที่ยวที่นี่ได้ไยข้าจะมาด้วยมิได้”

พูดจบก็หยิบจอกพี่ชายมาเป็นของตน เทเหล้าและยกดื่มอย่างกับว่านางต้องการมาอย่างที่ปากว่าจริงๆ

“เจ้าเป็นสตรี มาที่นี่มิควรเสียหน่อย อีกอย่างพี่มิได้มาทะ...”

“สตรีมิใช่คนหรืออย่างไร บุรุษเที่ยวได้เหตุใดสตรีจะเที่ยวมิได้ ท่านพี่ทำเช่นไรได้น้องก็จะทำเช่นนั้น”

ลู่เอินรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงน้องสาวอย่างนางมาก หากนางใช้เล่ห์กลนี้พี่ชายต้องยอมกลับไปอย่างไม่ต้องพูดอันใดอีกแน่!

“เอ่อ พี่มิได้มาเที่ยวอย่างที่เอินเอ๋อร์คิดเสียหน่อย พี่เพียงมา เอ่อ มา...”

“พวกเรานัดคุยงานกันที่นี่เท่านั้น วันนี้ต้องเชิญคุณหนูไป๋กลับไปก่อน”

บุรุษสวมหน้ากากนั่นเองที่พูดแทรกขึ้นมาเพื่อช่วยลู่เหลียน เขาเห็นว่าสหายกำลังจะจนปัญญา อีกทั้งเรื่องที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นก็มิสามารถทำให้น้องสาวไม่รู้เรื่องราวผู้นี้ทำลายได้

ทว่าการทำเช่นนี้ของเขาทำให้ถูกลู่เอินหันขวับมองมาด้วยสายตาดุดันเสียแล้ว

“ที่คุยงานก็มีอีกหลายแห่งเหตุใดต้องที่แห่งนี้ด้วย มิใช่ว่าท่านมีจุดประสงค์แอบแฝงต้องการทำให้พี่ชายข้าคุ้นเคยในที่เช่นนี้หรอกกระมัง...”

ลู่เอินเพียงต้องการหยั่งเชิงเท่านั้น นางไม่ได้คิดเองไปเลยหรอก และสิ่งที่นางได้รับก็คือรอยยิ้มมุมปากพร้อมเสียงเหอะเบาๆอย่างชอบใจมากกว่าสีหน้าตื่นตกใจที่นางรู้ทัน

...หรือว่านางเข้าใจผิดไปอย่างนั้นหรือ

“เอาเป็นว่าตอนนี้เอินเอ๋อร์รีบกลับไปที่จวนก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ให้ซวี่เซิงไปส่งเจ้า...”

ด้วยความที่ลู่เอินก็รับรู้ได้ถึงสายตาจริงจังของพี่ชาย นางจึงคิดว่าตนควรทำตามที่เขาบอกนั่นล่ะ บางที่งานที่เขาบอกอาจจะเป็นงานจริงๆ และอาจบอกนางไม่ได้ มิเช่นนั้นคงไม่ปล่อยให้คนที่จวนเข้าใจผิดเช่นนี้หรอก

ลู่เอินพยักหน้ารับคำพี่ชาย และก่อนจากไปนั้นนางก็รู้สึกว่าถูกจ้องมองจากบุรุษสวมหน้ากาก สายตาเขาทำเอานางอึดอัดไม่ชอบใจมาก ไม่ใช่สายตาละลาบละล้วงแต่มันคือสายตาเยาะเย้ยนางอย่างไรมิรู้

“ว้าย! ช่วยด้วยมีคนบาดเจ็บด้านบนนี้!!!”

มองขึ้นไปชั้นสองจะเห็นว่าเหล่านางโลมวิ่งวุ่นออกมาจากห้องๆหนึ่งจ้าละหวั่น และตามมาด้วยบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งถือมีดจ่อคอนางโลมผู้โชคร้ายนางหนึ่งไว้ เขาขู่ให้เหล่าบุรุษในชุดคุณชายทั่วไปที่ถือดาบให้ออกห่าง มิเช่นนั้นตัวประกันในมืออาจตายได้

ลู่เอินมองเห็นพี่ชายและบุรุษสวมหน้ากากวิ่งขึ้นบันไดไปแล้ว

...อา ดูท่าลู่เอินจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดพลาดไปเสียแล้วล่ะ 
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel