บทที่ 9 ทำไมถึงเป็นท่าน
บทที่ 9
ทำไมถึงเป็นท่าน
สารถีเอ่ยเตือนเจียงเม่ยเพียงชั่วลมหายใจเดียว รถม้าที่นางนั่งมาพลันพลิกคว่ำทันที หญิงสาวพยายามขดตัวนั่งลงกับพื้น ใช้มือปิดศีรษะของตนเองเอาไว้ เมื่อรถม้าหยุดนิ่งลงก็มีโจรป่าที่มีใบหน้าโหดเหี้ยมเข้ามาลากตัวนางออกไปจากรถม้า
"รีบมากับข้า!"
"ปล่อยข้านะ แม่รอง น้องรองช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ กรี๊ดดด"
เจียงเม่ยกรีดร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจกลัว ทว่าสองแม่ลูกที่ได้รับการอารักขาจากบ่าวในเรือนกลับทำหน้าตาแย้มยิ้มด้วยความยินดี ก่อนจะแสร้งร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
"เม่ยเอ๋อร์ของแม่ พวกเจ้ารีบไปช่วยนางซะสิ"
"ขอรับฮูหยินใหญ่"
เคล้ง เคล้ง โครม!!
ทว่าบ่าวชาวพวกนั้นมิอาจต่อกรกับเหล่าโจรป่าที่โหดเหี้ยมได้ สุดท้ายเจียงเม่ยก็ถูกโจรป่าลากไปตามทางอย่างน่าสงสาร
"โธ่! เม่ยเอ๋อร์ พวกเจ้ารีบส่งคนไปแจ้งทางการเดี๋ยวนี้ เร็วเข้าสิ! หากเม่ยเอ๋อร์เป็นอะไรไปพวกเจ้าก็เตรียมตัวตายได้เลย"
หลี่หลินถงยกชายแขนเสื้อขึ้นมาปิดปากที่กำลังยกยิ้มด้วยความสาสมใจ ขณะที่เจียงซูฉีมีสีหน้าที่ตกตะลึง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าเจียงเม่ยที่นางเกลียดชังกำลังตกอยู่ในอันตราย
"ท่านแม่ เรารีบกลับจวนกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ เรื่องทางนี้ก็ปล่อยให้ทางการจัดการไปเองก็แล้วกัน"
"ได้สิฉีเอ๋อร์ เจ้ากับแม่ก็ตกใจกลัวยิ่งนัก เรารีบกลับจวนกันเถิด"
หลี่หลินถงเข้ามากอดปลอบบุตรสาว ก่อนจะสั่งการบ่าวชายที่เหลือให้เร่งพาพวกนางกลับจวนโดยเร็ว นางอยากจะรีบไปแจ้งข่าวดีนี้ให้ท่านพี่ทราบเร็ว ๆ เสียแล้วสิ
ทว่ารอยยิ้มของสองแม่ลูกคงอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อมีโจรป่าอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาดักหน้าพวกนางเอาไว้ รถม้าที่ควรจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักลงในทันที
"แย่แล้วขอรับฮูหยินใหญ่ ข้างหน้ามีโจรป่าดักซุ่มโจรตีพวกเราอีกแล้วขอรับ"
"ว่าอย่างไรนะ!"
หลี่หลินถงมึนงงไปหมด มิใช่ว่าพวกโจรป่าที่นางจ้างวานให้มาจับตัวเจียงเม่ยนั้นทำงานสำเร็จแล้วหรอกหรือ แล้วเหตุใดยังมีพวกโจรป่ามาดักโจมตีพวกนางอีกเล่า หรือว่า... พวกนี้คือโจรป่าจริง ๆ
"ลงมาเดี๋ยวนี้ ถ้ายังไม่อยากตาย"
น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมดังข่มขวัญคนในรถม้า หลี่หลินถงกับเจียงซูฉีได้แต่กอดคอกันร้องไห้ด้วยความตกใจกลัว รั่วจูเองก็หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดหวั่น พวกนางหวาดกลัวจนตัวสั่นไปทั้งตัว ทั้งด้านนอกก็ยังได้ยินเสียงปะทะกันของบ่าวชายและโจรป่า ทว่าเสียงนั้นกลับเงียบลงในไม่กี่ชั่วลมหายใจ ก่อนที่ประตูรถม้าจะถูกถีบโดยฝีมือของเจ้าโจรป่าที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว
"หึ ๆ ช่างเป็นหญิงงามจริง ๆ"
"ปะ ปล่อยพวกข้าไปเถิดนะ พวกเจ้าอยากได้อะไรข้าจะให้ทั้งหมดเลย ขอแค่อย่าทำร้ายพวกข้าสองแม่ลูกก็พอ"
หลี่หลินถงเอ่ยต่อรองกับหัวหน้าโจรป่าที่หนวดเคราดกดำ นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเห็นแก่เงินทองมากกว่าจะสนใจพวกนาง
"ทำอย่างไรดีเล่า เงินนั้นข้าได้มาเยอะแล้วน่ะสิ"
"มะ หมายความว่าอย่างไร" หลี่หลินถงยิ่งรู้สึกงุนงงเพิ่มขึ้น นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
"ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเรื่องนั้นเถิด แต่ว่าเจ้านั้นหน้าตางดงามไม่น้อยเลย เช่นนี้ก็มาให้ข้าเชยชมเสียหน่อยสิ แล้วข้าสัญญาว่าจะยอมไว้ชีวิตถ้าเจ้าเชื่อฟัง ฮ่าฮ่าฮ่า"
จบคำพูดอันน่าตกใจนั้น หัวหน้าโจรที่มีร่างกายสูงใหญ่ทว่ากลิ่นกายเหม็นฉุนก็ได้ตรงเข้ามาลากแขนเจียงซูฉีทันที นางพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุมนั้นแต่กลับไร้ผล หลี่หลินถงตกใจแทบสิ้นสติ นางรีบตรงเข้ามาขวางหัวหน้าโจรผู้นั้นโดยเร็ว
"ไม่นะ! อย่าแตะต้องลูกสาวข้า ถ้าเจ้าอยากได้สตรีก็เอาสาวใช้ผู้นี้ไปสิ นางยังเป็นสตรีบริสุทธิ์อยู่เลย"
หลี่หลินถงลากร่างของรั่วจูส่งให้กับโจรป่าอย่างไม่ลังเล
"ไม่นะ อย่าทำข้าเลย ฮือ ๆ เหตุใดฮูหยินถึงทำร้ายข้าเช่นนี้กัน คุณหนูช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ" รั่วจูน้ำตานองหน้าด้วยความสิ้นหวัง
"ใช่แล้ว เจ้าเอานางไปแทนข้าเถิดนะ" เจียงซูฉีก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกสตรีชนชั้นสูงนี่ช่างโหดเหี้ยมนัก ทว่าข้าต้องการตัวเจ้าด้วยน่ะสิ"
"กรี๊ดด อย่าทำข้าเลย คุณหนูช่วยข้าด้วย ฮือ ๆ"
จบคำหัวหน้าโจรก็ลากร่างของรั่วจูส่งให้ลูกน้อง ก่อนจะลากร่างของเจียงซูฉีลงมาจากรถม้า หลี่หลินถงเห็นเช่นนั้นก็รีบตรงเข้ามาดึงแขนบุตรสาวอย่างสุดชีวิต ความหวาดกลัวพลันแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง
"ไม่นะ! หากพวกเจ้ากล้าทำร้ายลูกสาวของข้า พวกเจ้าจะต้องไม่ตายดีเป็นแน่ สามีข้าเป็นถึงเสนาบดีกรมยุติธรรม พวกเจ้าคิดว่าจะรอดพ้นทางการไปหรือ"
เพราะความตกใจกลัวทำให้หลี่หลินถงไม่คิดสิ่งใดแล้ว นางเอ่ยข่มขู่หัวหน้าโจรเพื่อหวังให้พวกมันปล่อยตัวเจียงซูฉี ทว่าคำพูดของนางราวกับน้ำมันที่ช่วยจุดไฟ
"ฮือ ๆ ปล่อยนะไอ้โจรตัวเหม็น เอามือสกปรกของเจ้าออกไปจากข้าเดี๋ยวนี้!"
เจียงซูฉีเองก็หวาดกลัวมิต่างกัน แต่นางกลับรู้สึกขยะแขยงหัวหน้าโจรผู้นี้มากกว่า
"ฮ่าฮ่าฮ่า หากข้ากลัวพวกขุนนางคงไม่อยู่มานานถึงเพียงนี้หรอก ในเมื่อเจ้ารังเกียจข้านักก็ลองมีสามีเป็นโจรตัวเหม็นเช่นข้าอย่างไรเล่า"
"กรี๊ดดดด ไม่นะ ปล่อยข้า ฮือ ๆ ท่านแม่ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ"
เจียงซูฉีหวาดกลัวจนตัวสั่น นางพยายามขัดขืนอย่างเต็มที่แต่มิอาจสู้แรงของหัวหน้าโจรป่าได้ หลี่หลินถงก็พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะขัดขวาง แต่นางกลับถูกตบจนศีรษะกระแทกเข้ากับตัวรถม้าทำให้สลบไปในทันที
"มานี่! วันนี้ข้าช่างมีวาสนานักที่จะได้กินเนื้อหงส์ฟ้า ฮ่าฮ่าฮ่า"
หัวหน้าโจรป่าลากตัวเจียงซูฉีไปยังม้าของมันก่อนจะจับนางพาดกับตัวม้า ส่วนตนเองก็กระโดดขึ้นขี่บนหลังม้าอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ตัวเจียงซูฉีแล้วพวกมันก็รีบสลายตัวไปทันที โดยปลายทางคือรังโจรของพวกมัน
กลุ่มโจรที่จับตัวเจียงเม่ยมานั้นพาตัวนางมายังวัดร้างที่อยู่ในป่าลึก เมื่อถึงที่หมายแล้วเหล่าโจรที่เคยมีท่าทางเหี้ยมหาญกลับอ่อนโยนลง
"เมื่อครู่ข้ารุนแรงกับเจ้าไปหรือ"
ผ้าคลุมหน้าสีดำพลันถูกถอดออก เผยให้เห็นใบหน้าคร้ามเข้มของผู้มากวัย แม้ใบหน้าของเขาจะมีรอยแผลเป็นน้อยใหญ่ทำให้ดูน่าหวาดกลัว ทว่าคำพูดที่เอ่ยกับเจียงเม่ยกลับดูอ่อนโยนยิ่งนัก
"ไม่เลยเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นอะไร ขอบคุณท่านลุงซ่งมากนะเจ้าคะที่ยอมร่วมมือกับข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้ท่านลุงซ่งต้องเดือดร้อนเป็นอันขาดเลยเจ้าค่ะ"
ซ่งหยางคือสหายในวัยเยาว์ของมารดา เจียงเม่ยจดจำเขาผู้นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเขาคือตัวประกอบที่จะช่วยพระเอกกวาดต้อนเหล่าโจรป่าและโจรภูเขา ด้วยท่านลุงซ่งหยางนั้นคือหัวหน้าสำนักคุ้มภัยที่มีชื่อเสียง และเขายังเป็นคนที่กว้างขวางมากจึงทำให้พระเอกได้สร้างผลงานในฐานะองค์รัชทายาท
"กล่าวอะไรเช่นนั้น ช่วยเหลือเจ้าแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เจ้าเองก็พักที่นี่สักคืนก่อนเถิด วันพรุ่งข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่จวนเอง รับรองว่าหากข้ายืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้าแล้ว ย่อมมิมีผู้ใดกล้าปากมากเป็นแน่"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ"
ในตอนที่เจียงเม่ยกำลังจะเข้าไปพักผ่อนในวัดร้าง กลับมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งพร้อมกับคนของเขาอีกสองคนเข้ามาจัดการคนของท่านลุงซ่ง
เคล้ง เคล้ง!
ในช่วงชุลมุนวุ่นวายนั้น เงาร่างบุรุษผู้สง่างามก็ตรงเข้ามาจับแขนของนางเอาไว้แน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามนางเสียงเรียบ
"เป็นอะไรหรือไม่"
"ขะ ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ"
เจียงเม่ยเหม่อมองใบหน้าคมเข้มที่มีรอยบากเล็ก ๆ ที่แก้มซีกซ้ายด้วยความมึนงง ภายในใจร่ำร้องว่าแย่แล้ว เหตุใดเขาถึงมาปรากฏกายอยู่ที่นี่เวลานี้เล่า
"สังหารให้สิ้น!"
หรงหมิงฮ่าวเอ่ยสั่งการเสียงเหี้ยม เขามองดูกลุ่มโจรป่าที่ฉุดตัวเจียงเม่ยมายังที่แห่งนี้ด้วยความไม่พอใจ เห็นทีเขาคงต้องให้หลานชายเร่งจัดการพวกโจรให้สิ้นเสียแล้ว จะได้ไม่ต้องมาทำร้ายผู้อื่นอีก
'หนีไป!'
เจียงเม่ยส่งสายตาให้ซ่งหยางรีบสลายตัวไปทันที ด้วยหากยังคงต่อสู้กับคนของหรงหมิงฮ่าวมีแต่จะส่งผลร้าย ทางที่ดีควรรีบหนีไปให้ไกลเป็นดีที่สุด ซ่งหยางที่เห็นเช่นนั้นก็เข้าใจ เขารีบโยนระเบิดควันใส่กลุ่มคนของหรงหมิงฮ่าวที่ต้องการจะสังหารพวกเขา ก่อนจะรีบทะยานตัวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วลมหายใจเดียวก็ไร้เงาคนของซ่งหยางแล้ว
