ตอนที่ 5 ยาอายุวัฒนะ
สำหรับ หลี่จงหยาง ผู้มีพลังลมปราณอยู่ระดับ ทอง—ไม่แน่ว่าอาจก้าวถึง เพชร ได้ พลังและบารมีเช่นนี้ ในเมืองฟูฟงจะมีผู้ใดเทียบเคียง
เมื่อกล่าวถึงความล้ำค่าของเม็ดยา มือของเสนาบดีสั่นเล็กน้อย พอกล่องถูกเปิด กลิ่นหอมเย็นก็อบอวล ชวนให้ผู้คนสดชื่น เป็นบุญตาที่ได้เห็น ยาอายุวัฒนะ ซึ่งเลือนเป็นตำนาน—เนิ่นนานแล้วที่ไม่มีผู้ใดปรุงได้
ความยากของยามิใช่เพียงวัตถุดิบ แต่หมายถึง ผู้ปรุง ต้องเชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ คุมไฟและส่วนผสมได้พอเหมาะ ยาจึงออกฤทธิ์เต็มกำลัง
เพราะความพิเศษนี้เอง หลายคนเริ่มกระซิบ—เม็ดยาตรงหน้าจะเป็น “ยาอายุวัฒนะ” จริงหรือไม่ เสนาบดีหลี่จงหยางย่อมได้ยินทั้งหมด จึงหันมอง หลี่จือหยา อยู่หลายครา เขารู้ดีว่าบุตรีเริ่มสนใจการปรุงยามาหลายปี กระนั้นการจะ ปรุงยาอายุวัฒนะ ได้—เกินคาดไปมาก ทว่าเมื่อเห็นส่วนผสมมี เห็ดหิมะ (ที่ผู้คนบางส่วนเรียก “บัวหิมะ”) ก็แน่ใจได้อย่างหนึ่งว่า มิใช่ยาชุ่ย แน่นอน เพียงแต่…จะถึงขั้น “อายุวัฒนะ” หรือไม่ ยังยากตัดสิน
ฮูหยินหลี่ แม้มิได้โง่เขลาถึงขั้นปรามาสต่อหน้าผู้คน แต่ก็พูดด้วยรอยเมตตา
“นายท่าน—ถ้าให้คุณหนูลองทานเม็ดนี้ ไม่แน่อาจจะ…”
ไม่ทันจบ เสนาบดีหันมา ขมวดคิ้ว นางจึงรีบก้มศีรษะ “เป็นข้าน้อย…ที่ปากมากเอง”
เท่านี้ก็พอให้แขกคิดต่อ—หากยานี้ดีจริง ให้หลี่จือหยาทาน อาจทำให้นาง ฝึกปราณได้ แต่ถ้าไม่ได้ผล มิยิ่งตอกย้ำ “ความไร้ค่า” ของบุตรีหรือ? รอยสงสารเจือเยาะเริ่มคุกรุ่นในหลายสายตา ส่วนฮูหยินหลี่ ภายในกลับ สะใจ—อยากอวดเก่งดีหนัก คงยกหินทุ่มเท้าตัวเองในที่สุด นางคิดจะค่อย ๆ ทำให้เสียหน้า จนวันหนึ่งถูกถอนหมั้นเอง
เมื่อความคิดหลากหลายในโถงกำลังก่อตัว และ หลี่เจิ้น ใกล้จะเอ่ยคำ หลี่จือหยา—whichเงียบรอจังหวะ—จึงยกเสียงใส
“เป็นลูกอกตัญญูที่ทำให้ท่านพ่อกังวลใจ ลูกได้ เห็ดหิมะ มา 4 ดอก จึงทดลองปรุงยาอายุวัฒนะ 4 เม็ด เพื่อความมั่นใจ ลูกได้ทานด้วยตนเองหนึ่งเม็ด… ลูกทราบตัวดีว่าไร้ค่า จึงไม่กังวลอันใด และความพยายามก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ท่านพ่อดูเถิดเจ้าคะ—รูปลักษณ์ของลูก เปลี่ยนไป หรือไม่”
จริงดังว่า—ผิวพรรณและโฉมหน้า งดงามแพรวพราวขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
“และสิ่งที่ทำให้ลูกยินดียิ่งกว่า—หลายวันมานี้ลูกพยายามฝึกลมปราณ และบัดนี้สามารถไต่ถึง ระดับเงิน แล้วเจ้าค่ะ ทั้งหมดล้วนเพราะพระบารมีท่านพ่อ ท่านย่า ท่านปู่ และบรรพบุรุษที่คุ้มครองลูกหลาน”
กล่าวจบ นางคำนับผู้อาวุโสเต็มพิธี
ฮูหยินหลี่ ตะลึง—เป็นไปได้อย่างไร ส่วน หลี่เจินเจิน เล็บที่กุมในแขนเสื้อ จิกจนเลือดซึม ราวไม่รู้สึกเจ็บ ด้านเสนาบดี ปลื้มปิติที่สุด
“นี่เจ้าฝึกเพียงไม่กี่วันก็ขึ้นขั้นจริงหรือ ลูกพ่อเลื่อนระดับรวดเร็วปานนี้—อัจฉริยะ โดยแท้!”
“เพราะพวกเราเป็นลูกท่านพ่อ ความสามารถย่อมถ่ายทอดจากท่านพ่อมา” หลี่เจิ้น ผสานคำอย่างรู้กาลเทศะ
แขกเริ่มเอ่ยเสริม “ในเมื่อเป็นยาอายุวัฒนะจริง—หากท่านเสนาบดีทานในวันเกิด ย่อมเป็น สิริมงคล ยิ่ง!”
เสียงสนับสนุนหนาหู ทุกคนอยากเห็นผล หากมีผู้ปรุงยาอายุวัฒนะได้—พวกเขาอาจ เพิ่มระดับปราณ และ ยืดอายุขัย ได้หลายสิบปี
เมื่อเสียงยกยอถาโถม หลี่จงหยางเลี่ยงไม่ออก จึงหยิบเม็ดยาขึ้น กลืนลงไป
แรกกลืน—ความเบาสบายแล่นทั่วกาย เขานั่งขัดสมาธิ ปรับลมปราณ ไม่นาน หมอกขาวจาง ๆ ก่อรอบตัว ทุกคนรู้ทันทีว่าท่านกำลัง ทะลวงขั้น สีทองที่โอบล้อมค่อย ๆ แปรเป็น เพชรสุกใส แสงเจิดจ้าจนผู้คนต้องหรี่ตา
ตระกูลหลี่สืบเชื้อสาย หงส์ เมื่อล่วงถึงระดับเพชร—หงส์ทอง ย่อมปรากฏ ฝูงหงส์โผขึ้นจากหุบเขาตระกูล บินวนเวียนเหนือคฤหาสน์นับสิบตัว แซ่ซ้องยินดี แก่ผู้นำคนใหม่
“เป็นสิริมงคลยิ่ง!” เสียงอุทานระคนปีติลั่นลาน หลายคนเคยคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิทานเล่าลูกหลาน—บัดนี้ได้ประจักษ์ด้วยตา เหตุการณ์วันนี้จะถูกเล่าขานไปอีกหลายสิบปี
เมื่อแสงจางลง—หลี่จงหยางลืมตา รูปกายราว หนุ่มเมื่อสิบกว่าปีก่อน มือที่เคยหยาบกลับเรียบเนียน เขายังไม่ทันเปล่งคำ ก็เห็น หงส์ทองผู้นำฝูง ยืนกลางลาน—และได้ยินเสียงที่มีเพียงตนรับรู้
“เมื่อเจ้าฝึกถึงระดับเพชร ข้าจึงนำหงส์มาให้เลือกทำ สัญญาคู่กาย มันจะอยู่ข้างเจ้า จนสิ้นอายุขัย—แล้วดับตาม”
หลี่จงหยางสบตาหงส์ทีละตน จนพบตัวที่ ถูกชะตา หงส์นั้นย่อส่วนเป็นนกน้อยโผลงมาเกาะข้างกาย ที่เหลือก็บินกลับหุบเขา
เขาคำนับศาลบรรพบุรุษ แล้วหันมาคำนับฮูหยินและท่านผู้เฒ่า
“ยินดีกับท่านเสนาบดีหลี่!” เสียงยินดีดังกระหึ่ม
หลี่จงหยางหันมายังหลี่จือหยา ยิ้มระคนปลื้ม “ยังเหลือยาอีกสองเม็ด หรือไม่”
นางค้อมศีรษะ “เจ้าค่ะ ลูกขอมอบให้ ท่านปู่ กับ ท่านย่า ตามที่ลูกกราบเรียน—เพราะบารมีท่านทั้งสองและบรรพชนไม่ทอดทิ้ง จึงมีวันนี้”
ผู้คนหูผึ่ง—สองเม็ดนั้นจะตกแก่ผู้ใด บ้างคิดว่าควร ทูลฮ่องเต้ เพื่อเอาใจ แต่หลี่จงหยางเพียงยิ้ม—ตระกูลหลี่ยิ่งใหญ่พอ ไม่จำเป็น ต้องประจบผู้ใด
หลายฝ่ายอิจฉาจนควันกรุ่น เว้นแต่ ตระกูลเซียว ที่กลับยินดี—หลี่จือหยาหมั้นกับ เซียวหลีหยวน หากหาเห็ดหิมะได้อีก ย่อมปรุงได้อีกในภายหน้า อายุของทั้งคู่ยังน้อย ทางข้างหน้ายังยาว ฮูหยินเซียว แอบชำเลืองแผน—คราวนาง “ไร้ค่า” ก็ไม่เคยขอถอนหมั้น บัดนี้ใกล้ถึงวันปักปิ่น ย่อมเหมาะจะเร่งฤกษ์
ตงซิงหยวน ก็ได้รับเทียบเชิญ เขาอดอิจฉาหลี่จงหยางมิได้—หากข้าได้เม็ดนั้น รูปโฉมคงยิ่งสะกดเมือง องครักษ์เงา อู่เป่า โน้มตัวกระซิบ
“คุณชายขอรับ…”
ตงซิงหยวนเหลือบตา “ว่ามา”
“คืนที่หอชิงหยวน ข้าพบ คุณหนูหลี่จือหยา—แต่งกายเป็นสาวใช้…เหมือน แม่นางผู้นั้น ขอรับ”
แววตาตงซิงหยวน ไหววาบ—รอยยิ้มมุมปากผุดช้า ๆ
