ตอนที่ 9 เช่นนี้ใกล้เกินไปหรือไม่เจ้าคะ
สมุดรายงานมากมายถูกนำมาส่งจนเป็นกองเต็มโต๊ะ เพื่อความรวดเร็วและสะดวกในการทำงาน จ้าวเทียนหยางใช้การส่งรายงานทุกๆสามวันของแต่ละหมู่บ้าน เพื่อตรวจสอบความคืบหน้า โชคดีที่มีคนจำนวนมาก ทุกอย่างจึงราบรื่นและงานเสร็จได้เร็วขึ้น แต่คนเยอะปัญหาก็เยอะตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสบียงอาหารที่ลดลงไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ถึงแม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฝนยังคงไม่หยุดตก มีเพียงแค่ 9 วันเท่านั้นที่สามารถเข้าซ่อมเขื่อนกั้นน้ำได้
"เข้ามาหน่อย!"
เสียงเข้มตะโกนดังลั่น เมื่อพบข้อผิดพลาดจากรายงาน เยี่ยนฝางสะดุ้งตัวโหย่งเมื่อได้ยินเสียงนั้น ทำเช่นไรดีขณะนี้ทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองหมดแล้ว ที่นี่เหลือเพียงแค่นางคนเดียว
"ไม่มีผู้ใดอยู่หรืออย่างไร"
เมื่อไม่เห็นใครเข้าไปหา จ้าวเทียนหยางยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ เขาไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว นอกจากงานหนักแล้วอีกปัญหาหนึ่งคือโรคนอนไม่หลับที่แก้ไม่ได้ เพราะไม่ได้พักผ่อนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย เขาค่อนข้างเป็นคนทำงานเรียบร้อยพอเห็นงานที่ผิดพลาดยิ่งพลอยทำให้อารมณ์เสียเข้าไปใหญ่
"นี่...."
จ้าวเทียนหยางกำลังจะตะโกนด่าอีกครั้ง ร่างบางก็รีบกระโจนเข้าไปด้านในด้วยท่าทีระแวดระวัง มือเรียวทถูเข้าด้วยกันอย่างประหม่า ขณะที่เดินเข้าไปหาร่างใหญ่ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานไม้
"ไม่มีผู้ใดอยู่เลยหรือ"
ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวเสียงเรียบ ท่าทีของนางดูหวาดกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัด เขาเองก็เกรงว่านางจะหนีเตลิดไปจึงได้ปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้เรียบนิ่งมากขึ้น
"ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้วเจ้าค่ะ"
เยี่ยนฝางเอ่ยตอบรับเพียงสั้นๆ พร้อมก้มหน้ามองที่ปลายเท้า อย่างไม่กล้าสบตากับชายหนุ่ม
"รายงานเสบียงอาหารที่ส่งมาจากวังหลวงใครเป็นผู้ทำ"
"ขะ...ข้าเจ้าค่ะ"
หญิงสาวเอ่ยตอบอย่างยากลำบาก นี่นางทำพลาดแล้วหรือ ทำเช่นไรดีท่านแม่ทัพเอาข้าตายหรือไม่นะ ดูเหมือนว่าเมื่อสักครู่เขาจะโมโหไปไม่น้อย
"เหตุใดมิให้ซีอันตรวจสอบก่อนนำมาส่งข้า"
จ้าวเทียนหยางเบาเสียงลงมาเล็กน้อย
"ท่านซีอันมีงานด่วนเข้ามากระทันหันเจ้าค่ะ ข้าเลย...."
"เช่นนั้นเป็นความผิดของซีอันอย่างนั้นหรือ"
"ไม่ ไม่เจ้าค่ะ เป็นความผิดของข้าที่ไม่ตรวจสอบให้ดี มิได้เกี่ยวกับท่านซีอันเจ้าค่ะ"
หญิงสาวรีบรนรานเอ่ยปฏิเสธ เรื่องนี้นางทำผิดเองจริงๆ ทุกคราซีอันจะสอนนางทำสรุปเสบียงและข้าวของแบบง่ายๆ แต่เพราะครั้งนี้ของถูกส่งมามาก นางที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนจึงทำได้ไม่ดีหนัก
"เรียกซีอันกลับมา นางไปนานเท่าใดแล้ว"
"ท่านซีอันไปหมู่บ้านเซิ่งหยูตั้งแต่เมื่อวานแล้วเจ้าค่ะ คงอาจจะใช้เวลากว่าหนึ่งวันถึงจะเดินทางมาถึงที่นี่"
"เฮ้อ~~~ เช่นนั้นเจ้านำไปแก้ให้เรียบร้อย"
จ้าวเทียนหยางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างจนปัญญา เขาไม่ชอบงานที่ไม่เรียบร้อยเป็นที่สุด แต่จะให้เขามานั่งรองานก็คงไม่ได้ มือหนากุมศีรษะอย่างจนปัญญา ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีเมื่อสักครู่เผลอใส่อารมณ์กับนางจนได้ ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มเพื่อรับรายงานเล่มนั้นมาคืน และเตรียมตัวออกไปให้ไวที่สุด
"นั้นเจ้าจะไปที่ใด"
"ไปแก้รายงานเจ้าค่ะ"
"แล้วเจ้าทำเป็นหรืออย่างไร"
"....."
เยี่ยนฝางส่ายหน้าเป็นคำตอบ นางทำรายงานนี่ไม่เป็นจริงๆ อีกทั้งไม่เคยเห็นมาก่อน มิเช่นนั้นนางยังคงหาความรู้ได้ เห็นทีว่าต้องรอซีอันกลับมาสอนนางก่อนแน่
"เช่นนั้นท่านแม่ทัพมีตัวอย่างให้ข้าทำตามหรือไม่เจ้าคะ"
นางเรียนรู้ได้เร็ว แค่ดูตัวอย่างบันทึกเก่าๆคงทำได้ไม่ยาก รายงานมีแบบแผนที่ตายตัว เพราะฉะนั้นนางจะทำตามแบบตนเองที่คิดขึ้นมาใหม่ไม่ได้
"มานี่"
เสียงเข้มเอ่ยเพียงสั้นๆ
"เจ้าคะ"
เยี่ยนฝางไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด พลางเดินเข้าไปใกล้เขาที่หน้าโต๊ะเขียนตำรา
"ก็เจ้าทำไม่เป็นมิใช่หรือ เช่นนั้นจะทำเช่นไร บ่อน้ำมิเดินไปหาควายหรอกนะ"
ชายหนุ่มเอ่ยพลางส่ายหน้าให้หญิงสาว และก้มหน้าสนใจรายงานอื่นๆต่อ ใบหน้างามหลังจากได้ยินเช่นนั้นก็ทำแก้มป่องอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ข้ามิได้โง่ขนาดนั้นเสียหน่อย นางมิเคยทำมาก่อนและไม่เคยเห็นมาก่อน เหตุใดต้องว่าข้าแรงเช่นนี้ด้วย นางหันซ้ายทีขวาทีอย่างหาที่นั่ง ก่อนที่จะเห็นโต๊ะไม้จึงเดินเข้าไปยกมาวางห่างจากชายหนุ่มหนึ่งก้าว ถึงอย่างไรเขาก็จะสอนนางแล้ว เข้าใกล้เขาก็คงมิได้ หรือห่างไปก็คงไม่สะดวก ระยะห่างเท่านี้คงกำลังพอดี
"ห่างข้าขนาดนั้น ข้าจะสอนเช่นไร"
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นขณะที่มองหน้าหญิงสาว เยี่ยนฝางทำแก้มป่องอีกครั้งอย่างจนใจ และขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มอีกคืบหนึ่ง
เฮ้อ~~~ ปัง!
เสียงเข้มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะใช้มือหนาดึงขาโต๊ะไม้ของหญิงสาวด้วยมือเดียว จนมาชนกับขาโต๊ะทำงานของเขา
"ท่านแม่ทัพ เช่นนี้ใกล้เกินไปหรือไม่เจ้าคะ"
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล นางไม่ได้กลัวว่าตนเองจะเสียหายอันใดหรอก แต่เขาเป็นถึงท่านแม่ทัพเชี่ยวนะ เช่นนี้หากใครมาเห็นเข้าว่านางและท่านแม่ทัพใกล้ชิดกันเกินไป แล้วนำไปพูดให้แม่ทัพเสียหายจะทำเช่นไร
"ข้ายังมิกังวล เจ้าจะคิดมากไปใย"
"เจ้าค่ะ"
เยี่ยนฝางรับคำอย่างว่าง่าย ขณะที่ยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัว
"แล้วเจ้าจะยืนอีกนานหรือไม่ ข้ามีงานมากมายที่ต้องจัดการนะ"
สิ้นคำชายหนุ่ม ร่างบางรีบนำเบาะรองนั่งไปวางไว้ที่ข้างชายหนุ่มและนั่งลงข้างๆเขาทันที ลมเย็นที่หญิงสาวเคลื่อนที่มาด้วยความเร็ว พัดเอากลิ่นหอมจากกายสาวปะทะจมูกโด่ง ใบหน้าคมเหม่อลอยไปชั่วขณะ กลิ่นตัวของนางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสักครู่เขายังรู้สึกหงุดหงิดอยู่เลยด้วยซ้ำ
"ข้าพร้อมแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ ท่าน.....ท่านแม่ทัพเจ้าคะ"
เยี่ยนฝางเอ่ยเรียกเขาเสียงดังขึ้น เมื่อเห็นท่าทีของชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเหม่อลอย อาจเป็นเพราะช่วงนี้เขาทำงานหนักเป็นแน่ ไม่ได้ เดี๋ยวอีกสักหน่อยข้าต้องไปหาน้ำแกงร้อนๆมาให้เขาดื่มเสียหน่อย
"อะแฮ่ม! ฟังให้ดีข้าจะพูดกับเจ้าเพียงครั้งเดียว"
จ้าวเทียนหยางที่รู้สึกตัว แกล้งไอเรียกความสนใจ
"เจ้าค่ะ"
"การบันทึกบัญชีรายการต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนในการใช้ เจ้าดูนี่...สิ่งที่เจ้าบันทึกมาไม่ตรงกับรายงานที่ทางวังหลวงส่งมา อีกทั้งข้อมูลยังกระจัดกระจาย ไม่แยกตามหมวดหมู่ของสิ่งของนั้น เจ้าสรุปมาก็ไม่เข้าใจ ต้องทำเช่นนี้......"
จ้าวเทียนหยางอธิบายวิธีการและสอนหญิงสาวทำอย่างละเอียด เยี่ยนฝางตั้งใจฟังชายหนุ่มอธิบายอย่างดี ดวงตากลมโตแอบมองริมฝีปากหนารวมถึงสันกรามเขาขณะที่พูด เพราะใกล้กันเพียงคืบทำให้นางเองก็อดใจมิได้ที่จะชื่นชมเขาใกล้ๆเช่นนี้
'ตัวเขาหอมมากๆ หอมจริงๆเสียด้วย ตายแล้วๆดูใบหน้าที่หล่อเหลาสมบรูณ์แบบนี่สิ หากข้าได้มาเชยชมทั้งวันทั้งคืนนะเป็นยังไงนะ อ๋าๆ โอ๊ย~ดูความคิดเจ้าสิเยี่ยนฝาง ทำไมถึงได้แค่คิดนะ เป็นจริงหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร' หญิงสาวเอ่ยกับตนเองในใจ พลางยกมือข้างหนึ่งยันโต๊ะ เอียงหน้ามองชายหนุ่มพร้อมยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้ม
