ตอนที่ 10 นี่ข้าใจเต้นแรงเพราะนางเช่นนั้นหรือ.....
จ้าวเทียนหยางที่กำลังตั้งใจอธิบาย เริ่มรู้สึกว่ามีสิ่งใดผิดปกติ จึงได้เงยหน้าจากสมุดรายงานขึ้นมามองหน้าหญิงสาว แต่เพราะอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบ ทำให้สบตาเข้ากับดวงตางามที่ตั้งใจมองเขาอยู่ก่อนแล้ว จ้าวเทียนหยางชะงักไปชั่วขณะเมื่อได้มองหญิงสาวใกล้ๆ ใบหูเขาแดงก่ำขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล เยี่ยนฝางเองก็ไม่คิดว่าเขาจะหันมามองตน หัวใจของนางเต้นรัวเหมือนกลองยามออกศึก ใกล้กันเพียงนี้ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพจะได้ยินหรือไม่นะ ดูตาคมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นั้นทำให้นางละสายตาไม่ได้เมื่อเขาจ้องมองมายังตน
ปั๊ก! โอ๊ย~
เสียงดีดนิ้วมาที่กลางหน้าผากมน จนหญิงสาวต้องยกมือเรียวลูบและร้องออกมาอย่างทนมิได้
"ท่านแม่ทัพ~"
"ข้าบอกเจ้าให้ตั้งใจฟัง"
"ขะ....ข้าตั้งใจฟังท่านพูดอยู่เจ้าค่ะ มิได้วอกแวกเลยเจ้าค่ะ"
เยี่ยนฝางรีบส่ายหน้า โบกมือปฏิเสธชายหนุ่มอย่างรนราน แต่ก็เท่านั้นนางถูกเขาจับได้เต็มๆว่าแอบมองอยู่ หวังเพียงว่าเขาจะไม่ถือสานางก็พอ
"เฮ้อ~ ที่ข้าพูดไปเจ้าเข้าใจหรือไม่"
"เข้าใจเจ้าค่ะ ข้าเข้าใจ"
เยี่ยงฝางพยักหน้ารั่วอย่างว่าง่าย
"เช่นนั้นเจ้าทำไปก่อน หากไม่เข้าใจตรงไหนค่อยถามข้า"
"ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ"
หญิงสาวเอ่ยพลางยิ้มกว้างส่งไปให้เขา จ้าวเทียนหยางได้แต่ส่ายหน้าให้กับหญิงสาว และกลับมาสนใจงานตัวเองตรงหน้าต่อ เยี่ยนฝางเองก็รับแก้ไขตามที่ท่านแม่ทัพสอน นางไม่อยากให้มันผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง จะขายหน้าเขาอีกมิได้นะ
ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ที่หน้าโต๊ะเขียนตำราจนเวลาผ่านไปกว่าสองชั่วยามแล้ว หน้าของเยี่ยนฝางเริ่มหงิกงอเนื่องจากความเหมื่อยล้า นางนั่งเกร็งตัวตรงมานานมิขยับเขยื้อน เกรงว่าหากนะขยับไปมาจะทำลายสมาธิท่านแม่ทัพ อีกทั้งการทำตนให้เป็นสตรีสง่างามนั้นยาก นางไม่ชินเอาเสียเลย อยากจะดูดีต่อหน้าท่านแม่ทัพ แต่เหมือนกับนางกำลังทรมานตนเองเช่นไรไม่รู้ มือเรียวบิดขี้เกียจพร้อมอ้าปากหาวอย่างลืมตัว ใบหน้าคมที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาทางหญิงสาว เยี่ยนฝางรีบหุบปากนั่งตัวตรง รักษาท่าทีด้วยความเร็ว
"ขออภัยเจ้าค่ะ"
"หากเหนื่อยก็ไปพัก ข้ามิใช่พวกใช้แรงงานเถื่อน"
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นขณะที่สายตายังสนใจงานตรงหน้าอยู่
"ข้าไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ งานเท่านี้ข้าทำได้สบายมาก"
เยี่ยนฝางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างให้กำลังใจตนเอง ข้าวของที่ส่งมาเป็นพันรายการ ถึงนางจะเร่งมือมากแค่นั้นวันนี้ก็คงไม่เสร็จเป็นแน่ ท่านแม่ทัพงานเยอะกว่านางยังไม่พักเลย นางแค่นี้เองจะขี้เกียจมิได้
เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยาม มือเรียวทุบเข้าที่หลังตนเองอย่างทนมิได่ ก่อนหน้านี้ไม่น่าทำเป็นเก่งเลย เหนื่อยชะมัด ดวงตาสวยเหลือบมองคนตัวโตด้านข้างที่ยังคงนั่งหลังตรงไม่ขยับไปไหน และไม่เอ่ยอันใดออกมาสักคำอีกด้วย นางยกมือเท้าคางมองไปที่เขาอย่างลืมตัว ลมเย็นพัดปอยผมของชายหนุ่มเบาๆ ท่าทางที่ดูสง่างาม ใบหน้าจริงจังขณะอ่านรายงาน การเคลื่อนไหวเล็กน้อยขณะเขียน ความธรรมชาตินี้ดูลงตัวเอาเสียมากๆ
"เป็นเช่นไร"
"ดูดีเจ้าค่ะ สง่างามมากเลย"
เยี่ยนฝางเอ่ยตอบพลางยิ้มกว้างอย่างลืมตัว
"เช่นนั้นหรือ"
ดวงตาคมละจากรายงานตรงหน้า หันมาสบตากับหญิงสาวข้างๆ เยี่ยนฝางที่กำลังยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสักครู่ ก็รีบหุบยิ้มทันที
"ขะ...ข้า อ่อ!ท่านแม่ทัพทำงานมานานคงหิวแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ เดี๋ยวข้าไปทำอาหารมาให้นะเจ้าคะ"
เยี่ยนฝางเอ่ยจบก็วิ่งออกไปจากกระโจมทันที นางถูกเขาจับได้อย่างคาหนังคาเขาเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าเขาอย่างไร คนปกติอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับนางแล้วมันน่าขายหน้าชะมัดเลย หญิงสาวเดินตรงไปที่ห้องครัว และมองวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ดูเหมือนว่าจะมีของไม่มาก เขาจะกินง่ายไหมนะ เห็นทีว่าคงทำได้เพียงบะหมี่เพียงชามเดียวเท่านั้น
มือเรียวหยิบแป้งสำหรับทำเส้นบะหมี่ มาผสมและนวดแป้งอย่างคล่องแคล่ว ถึงจะเป็นอาหารง่ายๆแต่นางจะทำให้มันมีรสชาติที่ท่านแม่ทัพไม่สามารถหากินได้ที่อื่น ก่อนจะวิ่งตรงไปที่แปลงผักหลังห้องครัว ถอนผักกาดกวางตุ้งมาลวกพอประมาณและพักทิ้งไว้กับน้ำเย็น จากนั้นต้มซ้ำซุปกระดูกหมูปรุงรสพิเศษ ตามสูตรเฉพาะของท่านแม่ที่เคยเห็นทำเมื่อตอนนางแปดขวบ เคี้ยวกระดูกนั้นจนใส เพื่อรอเส้นบะหมี่ที่นวดพักไว้ให้เข้าที่ ท้องน้อยๆของนางก็ร้องประท้วงเนื่องจากหิวเช่นกัน มือเรียวหยิบมั่นโถวที่นำมาอุ่นและผักดองเข้าปากอย่างง่ายๆ นางไม่ได้เลือกกินแต่เพราะเมื่อเช้านางกินเยอะไปหน่อย จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกอิ่มอยู่ มั่นโถ่วเพียงชิ้นเดียวก็เพียงพอแล้ว ตอนอยู่จวนจ้าวนางเองก็ชอบทำบะหมี่กินเองจนเบื่อแล้ว จึงไม่ได้ทำสำหรับตนเองด้วย
แง๊น~~~
เสียงประตูไม้เปิดออกเบาๆ ร่างบางถือถาดไม้ที่มีถ้วยบะหมี่อยู่ กลิ่นหอมลอยออกมาชวนให้รู้สึกอยากอาหาร เยี่ยนฝางถือไปวางที่โต๊ะน้ำชาเบาๆ เนื่องจากพบว่าคนตัวโตฟุบหลับที่โต๊ะเขียนตำราไปแล้ว นางค่อยๆย่องเบาๆไปที่โต๊ะชายหนุ่ม
'เหตุใดท่านแม่ทัพถึงได้ดูอ่อนเพลียจังเลยนะ แม้แต่ตอนหลับยังดูเหนื่อยล้า เขาไม่ได้นอนมาแล้วกี่วันกัน' หญิงสาวเอ่ยกับตนเองในใจขณะที่มองชายหนุ่ม มื่อเรียวเอื้อมไปหวังจะปัดปอยผมที่ลงมาปิดหน้าเขาออก แต่ขณะนั้นเองจู่ๆก็ถูกฝามือใหญ่จับเอาไว้แน่นด้วยความเร็ว มือหนาบีบที่ข้อมือเล็กแน่น แต่เมื่อเห็นว่านางเป็นใครจึงได้คลายมือออกเล็กน้อย แม่ทัพเช่นเขาแม้จะหลับก็หลับสนิดไม่ได้ มีคนมากมายที่ต้องการให้เขาตาย เพราะฉะนั้นจึงต้องระวังตนเองตลอดเวลา
"ขออภัยท่านแม่ทัพ"
เยี่ยนฝางเอ่ยออกไปด้วยความกลัว เมื่อสักครู่ดวงตาของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
"มีอันใด"
"ข้าทำบะหมี่มาให้ท่านเจ้าค่ะ ที่ครัวไม่มีของสำหรับทำอาหารแล้ว เกรงว่าพรุ่งนี้พ่อครัวถึงนำของมา"
"อื้ม"
เอ่ยจบจ้าวเทียนหยางก็ปล่อยมือหญิงสาว เยี่ยนฝางลูบที่ข้อมือที่เกิดรอยแดงตามฝ่ามือใหญ่ ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูง เดินไปยังโต๊ะน้ำชาและมองบะหมี่ตรงหน้า เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอเมื่อได้กลิ่นหอม รู้สึกแปลกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้กินอาหารมาทั้งวันหรือว่าบะหมี่ถ้วยนี้ทำให้เขาอยากอาหารกันนะ มือใหญ่คว้าช้อนแล้วตักน้ำซุปกินไปหนึ่งช้อน จึงได้คำตอบตนเองว่าเมื่อสักครู่ บะหมี่ถ้วยนี้รสชาติมิเลวเลยจริงๆ
"อร่อยหรือไม่เจ้าคะ"
"อื้ม"
"เย้!"
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความดีใจ อย่างน้อยก็ทำให้เขาประทับใจได้
"เจ้าทำเองหรือ"
"เจ้าค่ะ"
เยี่ยนฝางรับคำพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะเดินไปนั่งแก้รายงานของตนเองต่อ ดวงตาคมมองไปยังร่างบางที่มีท่าทีดีใจ พลอยทำให้นึกถึงตอนที่ตนได้สบตากับหญิงสาวก่อนหน้านี้ มือหนาอีกข้างอกขึ้นมาทาบที่หน้าอกด้านซ้าย ตอนนี้มันเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนครั้งแรก ก่อนที่จะหันไปมองคนนางที่ตั้งใจเขียนรายงานด้วยใบหน้าจริงจัง
"นี่ข้าใจเต้นแรงเพราะนางอย่างนั้นหรือ....."
