บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 ข้านับถือเขาเหมือนพ่อ (พ่อของลูก)

เช้าวันถัดมา

"เยี่ยนฝาง เจ้าตื่นหรือยัง"

เสียงของสตรีที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกหญิงสาวที่ด้านนอกกระโจม เยี่ยนฝางที่วันนี้นอนนานกว่าปกติ เนื่องจากทานยาของท่านหมอไป ทำให้นางตื่นสาย ลุกขึ้นมาขยี้ตาเล็กน้อย

"ท่านซีอันเข้ามาเถิด"

หญิงสาวตะโกนออกไปด้านนอก เนื่องจากเท้านางยังบาดเจ็บอยู่ทำให้เดินออกไปไม่สะดวกมากนัก อีกอย่างที่นี่เป็นกระโจมของสตรี ท่านแม่ทัพสั่งแยกกระโจมของสตรีและบุรุษให้อยู่คนละที่ มีเวรยามเฝ้าอย่างดี ฉะนั้นมิมีผู้ไม่ดีเข้ามาได้ กระโจมมิได้มีกลอนประตูชายหนุ่มจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

"เจ้าดีขึ้นหรือไม่"

ซีอันเอ่ยทักทายหญิงสาว พร้อมนำโจ๊กเข้ามาให้หญิงสาวอีกด้วย

"ข้าดีขึ้นมากแล้ว"

"เช่นนั้น เจ้าทานโจ๊กก่อน จะได้ทานยา"

"ขอบคุณเจ้ามาก"

เยี่ยนฝาง เอ่ยพลางเดินกระเผกไปนั่งที่โต๊ะไม้

"ว่าแต่ท่านมาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"

"ท่านแม่ทัพให้ข้ามาบอกเจ้าว่า หากหายดีแล้วให้เจ้าไปพบ"

"ได้! ข้าไปตอนนี้เลย"

หญิงสาวไม่เอ่ยเปล่าพลางทำท่าจะลุกขึ้นอีกด้วย แต่กลับถูกซีอันห้ามเอาไว้เสียก่อน

"ข้าพึ่งบอกเจ้าว่ารอให้หายดี มิได้บอกให้เจ้าไปหาตอนนี้ ไว้อีกวันสองวัน เจ้ากลับมาเดินได้ปกติค่อยไปพบท่านแม่ทัพ"

ซีอันเอ่ยอย่างอธิบาย

"เช่นนั้นหรือ"

ร่างบางกลับมานั่งที่โต๊ะไม้ ซีอันพยักหน้าให้หญิงสาว ถึงนางจะมีสหายอย่างมู่ป๋อเหวินแต่เขาก็เป็นบุรุษ จึงทำให้นางคุ้นเคยกับซีอันมากขึ้นเนื่องจากเป็นสตรีด้วยกัน แต่ซีอันก็มีงานมากมายที่ต้องจัดการเลยทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันมากเท่าใด

"ข้าต้องไปแล้ว เจ้าก็ค่อยๆทานโจ๊กไปเถิด"

ซีอันเอ่ยพลางแตะที่ไหล่ของหญิงสาวและเดินออกไปจากกระโจม

"ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ"

เยี่ยนฝางเอ่ยขอบคุณตามหลังหญิงสาว ก่อนจะหันมาสนใจโจ๊กตรงหน้า นางใช้เวลาไม่นานหลังทานข้าวเสร็จก็อาบน้ำเตรียมตัวเพื่อไปพบท่านแม่ทัพ ถึงแม้ระยะทางจากกระโจมที่พัก กับกระโจมใหญ่ที่ท่านแม่ทัพทำงานจะไม่ไกลกันมาก แต่นางก็ต้องใช้พลังอย่างมากเพื่อเดินไปกว่าจะถึง ข้อเท้าขาวตอนนี้แดงก่ำเพราะรอยช้ำ

"ขออภัยท่านแม่ทัพ ข้าเยี่ยนฝางเจ้าค่ะ"

หญิงสาวส่งเสียงบอกกล่าวชายหนุ่มที่อยู่ด้านในเพื่อขออนุญาต

"เข้ามา"

เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านในแล้ว มือเรียวก็เอื้อมไปเปิดผ้าบังกระโจมเข้าไปด้านใน แล้วพบกับจื่อหาวและซีชวนอยู่ข้างในเช่นกัน

"คารวะท่านแม่ทัพ"

"หายดีแล้วหรือ"

จ้าวเทียนหยางเอ่ยถามหญิงสาวเสียงเรียบ ทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าจากรายงานมามองหญิงสาว

"เอ่อ....ข้าดีขึ้นมาบ้างแล้วเจ้าค่ะ"

หญิงสาวเอ่ยตอบเสียงเบา นางยังไม่หายดีหากเขาให้นางทำงานหนักดูเหมือนตอนนี้จะยังคงทำไม่ได้ หากทำไม่ได้ก็ไม่อยากฝืนทำให้งานที่ออกมาไม่ดี ใบหน้าคมละสายตาจากรายงานมามองหญิงสาวแว็บหนึ่ง ก่อนที่จะก้มลงไปสนใจรายงานต่อ

"ซีอันมิได้บอกเจ้าหรือว่ารอให้หายดีก่อน"

"บอกเจ้าค่ะ"

"แล้วเหตุใดวันนี้ถึงได้มาอีก"

"ขะ...ข้า"

"เจ้ากลับไปเถิด รอหายดีค่อยมาพบข้าใหม่"

จ้าวเทียนหยางเอ่ยพลางยื่นรายงานให้จื่อหาวที่ยืนอยู่และไม่ได้สนใจนางอีก

"ข้าขอถามได้หรือไม่ ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดจะใช้งานข้าหรือเจ้าคะ"

"ช่วยเหลือตัวเองยังมิได้ เช่นนั้นข้าจะใช้งานเจ้าได้หรือ"

"เจ้าค่ะ"

นางเอ่ยเสียงเบา พลางมองดูเขาที่กำลังยุ่งตัวเป็นเกลียว หากนางอยู่ตรงนี้ต่อคงรบกวนเขาเป็นแน่ เมื่อวานเขายังดูสนิทสนมกับนางขึ้นอยู่เลย มาวันนี้ดูเหมือนจะห่างเหินกันออกไปอีกแล้ว ต้องโทษที่นางไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถแบ่งเบางานมากมายที่ท่านแม่ทัพกำลังทำอยู่ แต่อุบัติเหตุนี้ใครจะอยากให้เกิดขึ้นกัน กลับไปพักให้มากหน่อย จะได้รีบหายรีบมาช่วยงานท่านแม่ทัพ

พอคิดได้เช่นนั้นก็เดินกระเผกออกมาจากกระโจม ดวงตาคมมองร่างบางที่เดินออกไปแต่ก็มิได้เอ่ยอันใด

........

"เจ้าเห็นหรือไม่ เมื่อวานท่านแม่ทัพอุ้มแม่นางเยี่ยนฝางลงจากรถม้า ไปส่งถึงกระโจมนางเชียวนะ"

เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจของหญิงสาวที่พึ่งเดินออกมาจากกระโจมได้ไม่กี่ก้าว ฝีเท้าของหญิงสาวหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะชื่อที่เป็นหัวข้อของบทสนทนานั้น มีชื่อของนางไม่พอยังมีชื่อของท่านแม่ทัพอีกด้วย

"เห็นสิ! เมื่อวานข้าเป็นคนเฝ้าเวร เจ้ามิรู้อันใด คราก่อนที่ทหารกองสี่ ทั้งหมดร้อยกว่าคนถูกส่งกลับเมืองหลวง นั้นเป็นเพราะนางเชียวนะ"

ทหารนายนั้นเอ่ยตอบกลับสหายอย่างออกรส

"จริงหรือ ท่านแม่ทัพผู้มิเคยสนใจสตรีใด พอนางเข้ามาก็ถึงกลับเกิดเรื่องเช่นนี้ คนร้อยกว่าคนหากมาช่วยพวกเราก็คงลดความเหนื่อยไปได้มาก"

"นางคงมีใจให้ท่านแม่ทัพเป็นแน่ ข้ากลัวเพียงว่าท่านแม่ทัพจะถูกนางหลอกและใช้ประโยชน์ ใบหน้าที่งดงามนั้นมิรู้หลอกบุรุษมามากน้อยเพียงใด"

"เจ้าพูดเบาๆสิ เผื่อใครได้ยินจะทำเช่นไร"

"นางมามิได้หรอก เมื่อวานนางบาดเจ็บมิใช่หรือ ป่านนี้คงรอท่านแม่ทัพไปดูแลที่กระโจมกระมั้ง สตรีก็เป็นเช่นนี้ ฮ่าๆ"

"สตรีแล้วอย่างไร มันทำไมหรือ"

เยี่ยนฝางที่ทนฟังมิได้เดินเข้าไปหาทหารที่กำลังยืนสนทนากันทันที จะว่านางคนเดียวนางคงมิสนใจ หากเรื่องนั้นมิใช่ความจริง แต่เหตุใดต้องพาดพิงผู้อื่น นางยอมมิได้

"เยี่ยนฝาง เจ้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน"

ทหารนานนั้นเอ่ยด้วยสีหน้าตกใจ เมื่อจู่ๆคนที่เขาพูดถึงเมื่อสักครู่ปรากฏตัวขึ้น

"เจ้ามาแล้วอย่างไร สิ่งที่ข้าพูดไปมีสิ่งใดไม่ผิดบ้าง"

"ผิดที่ความคิดสกปรกนี้ออกมาจากปากของทหาร ที่ท่านแม่ทัพไว้ใจและเชื่อใจพวกเจ้า พวกเจ้าบอกว่านับถือ แต่เมื่อสักครู่ที่พวกเจ้าพูดออกมาล้วนมีแต่ความคิดที่สกปรก หากเรื่องที่พวกเจ้าคิดและพูดมาออกมาเพียงเพราะความสนุกปากหลุดออกไป ทั้งที่มิใช่ความจริงเช่นนี้ ชื่อเสียงของท่านแม่ทัพที่แลกมาด้วยความเสียสละเพื่อบ้านเมือง ต้องด่างพร้อยและเสียหายจากวาจาเพียงไม่กี่คำมันคุ้มหรือไม่"

เยี่ยนฝางเอ่ยเสียยืดยาว เนื่องทนมิได้

"เช่นนั้นเรื่องที่เจ้ากับท่านแม่ทัพล่ะ"

ทหารนายนั้นยอมตระหนักได้ถึงผลเสียที่ตนพูดแล้ว แต่ก็ไม่ยอมที่จะให้ตนเป็นฝ่ายผิด

"ข้าได้รับบาดเจ็บคนที่เขื่อนกั้นน้ำก็ต่างเห็นกันทั้งหมด หากเจ้าใช่สมองไตร่ตรองแล้วนั้นคงคิดได้ว่าด้วยเหตุใดท่านแม่ทัพถึงช่วยอุ้มข้าเมื่อวาน"

"อย่างไรเสียเจ้าก็คิดเกินเลยกับท่านแม่ทัพ"

"ข้ากับท่านแม่ทัพมิได้ทำเรื่องสกปรกอย่างที่เจ้าคิด"

เยี่ยนฝางเอ่ยตอบเสียงเข้ม

อีกด้านหนึ่งภายในกระโจม สามคนคนที่มีวรยุทธกำลังฟังบทสนทนาของหญิงสาวและกลุ่มทหารด้านนอกอยู่ ทุกคำพูดถึงแม้จะอยู่ไกลกันเกือบครึ่งลี้ก็ได้ยินเหมือนกับกระซิบอยู่ข้างหู

"ท่านแม่ทัพให้ข้าไปจัดการดีหรือไม่"

จื่อหาวที่ทนฟังไม่ได้เอ่ยอย่างขอตัว แต่ถูกฝ่ามือใหญ่ห้ามเอาไว้เสียก่อน คำพูดของเยี่ยนฝางล้วนเป็นคำพูดที่ปกป้องเขา มิได้ปกป้องตนเองแม้แต่น้อย ปากหนาโค้งขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ และรอฟังบทสนานั้นต่ออย่างเงียบๆ

......

"เช่นนั้นเจ้ากับท่านแม่ทัพ"

"ข้านับถือท่านแม่ทัพเหมือน......เหมือน"

"......"

ทหารกลุ่มนั้นรอฟังคำพูดของหญิงสาว แต่เยี่ยนฝางกลับพูดไม่ออก ก็นางมีใจให้ท่านแม่ทัพจริงๆ

"นับถือเหมือนอันใด"

"ข้านับถือท่านแม่ทัพเหมือนบิดา เหมือนบิดาคนหนึ่ง"

สิ้นคำหญิงสาว จื่อหาวและชีชวนหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันในกระโจมอย่างลืมตัว ทำให้ใบหน้าคมต้องส่งสายตาด้วยความไม่พอใจให้กับลูกน้องของเขา ฝ่ามือใหญ่ปิดรายงานและโยนมันลงโต๊ะเสียงดัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel