บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 คุณชายตระกูลโม่ที่ว่าคือพญามัจจุราชมาเกิด (1/2)

"นายท่าน นายท่านเจ้าคะ" ถิงถิงวิ่งหน้าตั้ง กล่าวละล่ำละลัก ทั่วใบหน้าของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเขม่าดินดำและรอยน้ำตาเขรอะเสียจนดูไม่ได้

ผู้คนที่คลาคล่ำภายในห้องโถงใหญ่ต่างฝ่ายต่างอยู่ในอาการตื่นตระหนก จวนของเศรษฐีโม่เกิดเพลิงไหม้กะทันหันได้อย่างไร หรือว่ามีคนจงใจสร้างเรื่องก่อความวุ่นวายเพื่อดักปล้นผ้าทอล้ำค่าเหล่านี้กันเล่า

"ถิงถิง ใจเย็นก่อน แล้วนี่ไฉนจึงมอมแมมเช่นนี้รึ คุณหนูเจ้าไปอยู่ที่ใด" หลี่จิ้งตงตระหนกไม่แพ้กัน เขากวาดสายตามองหาบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนให้ทั่วทว่ากลับไม่พบกระทั่งเงาของนาง

"คะ...คุณหนู คุณหนูหลานซินติดอยู่ในกองเพลิงเจ้าค่ะ!"

"หา!..." หลี่จิ้งตงโพล่งเสียงดัง

เจียงห่ายกวงซึ่งยืนอยู่ใกล้บริเวณนั้นหูผึ่ง เขารีบถลันกายเข้าหาเพื่อสอบถามทันที "ถิงถิง เจ้าว่าอย่างไนนะ!?"

ถิงถิงหน้าซีดเผือด กล่าวเสียงอ้อมแอ้ม "คุณหนูหลานซินติดอยู่ในกองเพลิงเจ้าค่ะ"

หลี่จิ้งตงได้ยินอีกคราแทบเกิดลมจับ โชคดียังมีบรรดาผู้คนบริเวณนั้นช่วยกันประคองไว้ได้ ไม่เช่นนั้นร่างอ้วนท้วนนี้คงได้ล้มหงายท้องตึงหมดสติแล้วเป็นแน่

เจียงห่ายกวงขมวดคิ้ว "เมื่อสักครู่ข้าเห็นหลานซินอยู่ตรงนี้ คลาดสายตาเพียงประเดี๋ยวนางไปติดอยู่ในกองเพลิงได้เช่นไร!"

ถิงถิงหายใจติดขัด นางรู้สึกประหม่าแทบวางแขนขาไม่ถูก "เอ่อ..."

นางไม่รู้จะแก้ต่างอย่างไรแล้วจริง ๆ "คุณชายเจียงเจ้าคะ คือว่า..."

"ช่างเถอะ…!" เจียงห่ายกวงผละกายจากไปเดี๋ยวนั้น

หลี่จิ้งตงตั้งสติและพละกำลังได้แล้วเขาพลันออกวิ่งอาด ๆ ตามหลังคนร่างสูงไปด้วยความเร่งร้อน กระนั้นยังมิวายเหลียวหลังมองสาวใช้คนสนิทของบุตรสาวตนอย่างนึกคาดโทษ

หลี่หลานซินซุกซน เอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก หนำซ้ำเรื่องเข้าครัวมิต้องเอ่ยถึง คนเช่นนางหรือคิดเหยียบย่างเข้าสถานที่ซึ่งมากด้วยกลิ่นอาหารตีปนกันไปหมด เกรงว่าบุตรสาวตัวดีของเขาคงก่อเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วหนา

ถิงถิงเห็นแววตาแคลงใจของหลี่จิ้งตงนางถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลาย นัยน์ตาไหวระริกซ่อนเร้นบางสิ่งหลุบลงทันควัน ครั้นได้สตินางจึงก้าวเท้าเนิบนาบ แล้วจึงแปรผันเป็นรวดเร็วตามหลังผู้เป็นนายออกไปด้วยอาการหวาดหวั่น

บุคคลทั้งสามมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่เกิดเหตุ ทันได้สวนกับคุณชายตระกูลโม่เข้าพอดี ชายร่างสูงกำลังอุ้มสตรีซึ่งนอนไร้สติอยู่บนอ้อมแขน แววตาของเขาแหลมคมดุดันยิ่งนัก

"พวกท่านจะไปที่ใด" โม่จ้าวหยวนกล่าวถาม

"เจ้าช่วยคน ไฉนช่วยเพียงผู้เดียว แล้วคุณหนูหลานซินเล่า" เจียงห่ายกวงเอ่ยตำหนิ

โม่จ้าวหยวนขมวดคิ้ว "คุณหนูหลานซิน ข้าไม่เห็นนาง นางไม่ได้อยู่ที่นั่น หรือหากอยู่ นางก็คงไม่ถูกไฟคลอกหรอกกระมัง"

"นี่เจ้า! โม่จ้าวหยวน กล่าววาจาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร หากคุณหนูหลานซินเป็นอะไรไป ตระกูลโม่จะต้องรับผิดชอบ" เจียงห่ายกวงกัดฟันกรอด

เขาทราบดีว่าคุณชายโม่ผู้นี้ไม่ชอบหน้าของหลี่หลานซินนัก เพียงเพราะนางชื่นชอบในตัวของเขา ซ้ำยังคอยตามตอแยโม่จ้าวหยวนอยู่ไม่ห่าง ถึงกระนั้นหลี่หลานซินทำไปเพราะมีใจสิเน่หาต่อบุรุษผู้นี้ไม่ใช่หรือ นางอาจชอบกลั่นแกล้งคุณหนูจูจื่ออี๋บ้าง ทว่าคงมิอาจเล่นกันถึงตายหรอกกระมัง ถึงอย่างไรการช่วยเหลือคนก็ไม่ควรลำเอียงเพียงนี้หรือไม่

"เหตุใดตระกูลโม่ต้องรับผิดชอบด้วยเล่า แล้วถ้าหากคุณหนูจื่ออี๋เป็นอันใดไปตระกูลเจียงจะรับผิดชอบหรือไม่" โม่จ้าวหยวนกล่าวเสียงแข็ง

"นั่นเกี่ยวสิ่งใดกับตระกูลข้า"

"อ้อ...แล้วเกี่ยวสิ่งใดกับตระกูลข้ารึ มิใช่ว่าคุณหนูหลานซินทำตัวเองหรอกหรือ นางเสียมากกว่าที่ต้องชดใช้ให้กับตระกูลโม่!"

"กล่าววาจาส่งเดช! ฝากไว้ก่อนเถิด" เจียงห่ายกวงกัดฟันกรอด ท่อนขายาวพลันวิ่งรี่จากไปทันควัน

โม่จ้าวหยวนซึ่งยังคงอุ้มกายของจูจื่ออี๋อยู่ลดดวงตามองคนในอ้อมแขนด้วยสีหน้าเป็นกังวล ทว่าอีกใจก็อยากรู้เช่นเดียวกันว่าคุณหนูหลี่หลานซินติดอยู่ในกองเพลิงจริงหรือไม่ เขาแน่ใจว่าเมื่อสักครู่ที่ตนเข้าไปช่วยจูจื่ออี๋นั้นพบเพียงนางผู้เดียวจริง ๆ ตนเป็นบุรุษต่อให้ไม่ชอบสตรีนางนั้นเพียงใด ยามช่วยเหลือคน ไหนเลยจะมีใจคิดลำเอียง อีกอย่างหางตาของเขาเหมือนเห็นผู้สวมอาภรณ์สตรีวิ่งลับตาไปทางสระน้ำอยู่ไว ๆ เขาจึงส่งบ่าวไพร่ออกติดตาม คนผู้นั้นคล้ายนางยิ่งนัก แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่หลี่หลานซินเองก็ติดอยู่ด้านในเช่นเดียวกัน

ผู้คนในห้องโถงต่างเดินกระทบไหล่กันให้จ้าละหวั่นราวผึ้งแตกรัง ฮูหยินโม่จึงทำได้เพียงร้องเตือนให้อยู่ในความสงบ

"ทุกท่านอย่าได้แตกตื่นไป เพลานี้ทางจวนของเราระงับเปลวเพลิงไว้ได้แล้ว ไม่มีทางลุกลามหรือเป็นอันตรายมาจนถึงที่นี่อย่างแน่นอน"

หลายคนได้ยินเช่นนั้นใจที่หวาดหวั่นพลันรู้สึกดีขึ้นอีกหลายส่วน

"นี่คุณหนูจูจื่ออี๋มิใช่หรือ ไฉนนางจึงอยู่ในสภาพเช่นนี้เล่า" เสียงสตรีนางหนึ่งโพล่งขึ้น

สาวใช้ของจูจื่ออี๋สาวเท้าฉับ ๆ เข้ามาด้วยอาการร้อนรน บิดาและมารดาของจูจื่ออี๋เช่นเดียวกัน

ใต้เท้าจูกล่าวละล่ำละลัก "คุณชายโม่ นี่จื่ออี๋เป็นอันใดไปเล่า"

"ใต้เท้าอย่าได้ร้อนใจ นางไม่เป็นอันใดมาก น่าจะตื่นตกใจเล็กน้อย เพลานี้คุณหนูตระกูลหลี่ติดอยู่ด้านในเช่นกัน ประเดี๋ยวข้าจะให้หมอมาตรวจดูอาการคุณหนูจื่ออี๋ แล้วจะรีบไปช่วยทางด้านนั้นอีกครา ท่านวางใจเถิด"

ใต้เท้าจูพยักหน้าหงึกหงัก เดินตามหลังโม่จ้าวหยวนไปติด ๆ ครั้นมาถึงหอพักรับรองของตระกูลโม่เรียบร้อยแล้ว โม่จ้าวหยวนจึงฝากฝังให้สาวใช้ไปตามหมอ แล้วจึงกล่าวขอตัวชั่วคราว

"ใต้เท้า ข้าต้องกลับไปช่วยคนอีก ข้าฝากเด็กในจวนช่วยดูแลแล้ว หากท่านขาดเหลือสิ่งใดบอกพวกนางได้ทันที"

"ขอบคุณท่าน คุณชายโม่"

โม่จ้าวหยวนพยักหน้า เขาเร่งผละกายออกไปเดี๋ยวนั้น ภายในใจของเขาเต้นดังกระหน่ำ แม้ขากำลังก้าวพรวดพราดราวพายุหอบหนึ่ง ทว่าจิตใจของเขาถึงห้องครัวซึ่งแทบเหลือเพียงเสาราวตอตะโกไปเสียตั้งนานแล้ว

"คุณหนูหลานซินเช่นนั้นหรือ คุณหนูตัวดี อย่านึกว่าเทพไม่รู้ผีไม่เห็นเล่า นี่มันฝีมือของเจ้า ยังกล้าเสแสร้งเช่นนั้นหรือ" โม่จ้าวหยวนกัดฟันกรอด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel