บทที่ 2
"หึ เช่นนั้นเจ้ามาแต่งงานเป็นสามีข้าเลยดีหรือไม่เล่า"
ซิวหมิงที่ได้ฟังก็ตัวแข็งทื่อเขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำเช่นนี้ออกจากปากนาง หม่าเฟิงหลันยันกายลุกขึ้นนั่งพลางใช้มือลูบไล้แผงอกกว้างอย่างหลงใหลก่อนจะเงยหน้าสบตาซิวหมิง
ร่างกายของนางตอนนี้รู้สึกร้อนวูบสายตาของนางบอกซิวหมิงว่าตอนนี้ความต้องการเขาเพียงใด
"เจ้าคือผู้ใด เหตุใดข้าไม่เคยรู้ว่าในเมืองหลวงมีบุรุษรูปงามเช่นนี้"
"ขอรับ"??
หม่าเฟิงหลันตัดสินใจโน้มตัวเข้าไปแนบชิดซิวหมิงมากขึ้น นางเอื้อมแขนของตัวเองไปโอบรั้งท้ายทอยของเขาทำให้ตอนนี้ใบหน้าของนางและเขาห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ
"ท่านแม่ทะ..อืมมมม"
ยังไม่ทันพูดจบประโยคคำพูดของซิวหมิงก็หายไปในลำคอ ริมฝีปากทั้งสองประกบเข้าหากันส่วนมือของนางก็ลูบไล้ร่างกายของเขาอย่างเอาแต่ใจ ซิวหมิงในตอนนี้สติแทบไม่อยู่กับตัวเขาต้องพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไว้แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
"ท่านพี่ข้าชอบท่านนะเจ้าคะ"
น้ำเสียงหวานกระซิบข้างหูของเขา ทำให้ความอดทนเส้นสุดท้ายของซิวหมิงได้ขาดไปแล้ว
"ได้โปรดรู้ว่าข้าได้อดทนถึงที่สุดแล้ว วางใจเถอะหลังจากวันนี้ข้าจะรับผิดชอบท่านอย่างแน่นอน"
ซิวหมิงโน้มใบหน้าลงไปจูบอีกครั้งแต่ครั้งนี้ต่างออกไป เขาตวัดลิ้นไปมาขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเอาแต่ใจมือหนาค่อย ๆ ทำหน้าที่ปลดสายคาดเอวของหม่าเฟิงหลันออก ไม่นานทั้งชุดของซิวหมิงและเฟิงหลันถูกโยนออกมาจากบนเตียง เสียงครางของหญิงสาวเริ่มดังขึ้นตามด้วยเสียงปลอบประโลมของซิวหมิง
"อ....อ่าาาส์!!..เจ็บ...อื้มมม..."
เสียงครางของทั้งสองดังสนั่นไปทั่วแข่งกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงที่โยกตามจังหวะของทั้งสอง ซิวหมิงมองแผ่นหลังของหม่าเฟิงหลันที่กำลังขย่มอยู่บนตัวของเขาอย่างหลงใหลพลางโอบกอดร่างบางจากด้านหลัง เขาโน้มใบหน้าลงไปพรมจูบตามแผ่นหลังของหม่าเฟิงหลันแม้จะมีรอยแผลเป็นจำนวนมากเขาก็ไม่ได้สนใจ หม่าเฟิงหลันที่รู้ตัวว่าแผ่นหลังของนางมีบาดแผลไม่น่ามองก็เอ่ยร้องห้ามทันที
"อ่าส์!!.อย่ามอง....ข้าน่าเกลียด..อย่าเลีย..แผล...อ่าส์."
"ไม่ขอรับ....ข้าเคยบอกแล้ว....ท่านงดงามที่สุด.....งดงามเหนือสตรีใด...อ่าส์"
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ปรนเปรอความสุขให้กันและกันนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อเสียงครางสงบลงนั้นหมายความว่าสงครามราคะครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ซิวหมิงมองหม่าเฟิงหลันที่หลับในอ้อมกอดของเขา
"เมียข้าทั้งที่ข้ารักเจ้ามาถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่รู้กัน"
เวลาผ่านไปหลายชั่วยามแสงแดดในยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง หม่าเฟิงหลันในตอนนี้กำลังมองบุรุษที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างนางเมื่อก้มลงสำรวจตัวเองก็พบว่านางเองก็ไม่ได้สวมชุดอยู่เช่นเดียวกัน ถึงตอนนี้หม่าเฟิงหลันรับรู้ได้ทันทีว่านางสร้างเรื่องไว้แล้ว
"ต้องเป็นเพราะสุราเลือดกวางที่ดื่มเมื่อคืนเป็นแน่"
นางพูดกับตัวเองเบา ๆ หม่าเฟิงหลันกระชับผ้าห่มเข้าหาตัวก่อนจะเดินลงจากเตียงมองไปรอบ ๆ ห้องที่ตอนนี้ข้าวของกระจัดกระจายราวกับผ่านสงครามมา
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยามนางร่วมรักกับซิวหมิงฉายเข้ามาในหัวของนาง คำพูดที่นางเฝ้าร้องขอให้เขาบีบเคล้นและกระทำกับร่างกายของนางแรง ๆ หากพูดตามจริงไม่มีที่ไหนในห้องเลยที่นางและซิวหมิงไม่ได้ทำเช่นนั้นลงไปไม่ว่าจะบนโต๊ะหรือที่หน้าต่าง ภาพต่าง ๆ ยังคงชัดเจน
"หม่าเฟิงหลัน เจ้าบ้าไปแล้วจริง ๆ"
หม่าเฟิงหลันพูดตำหนิตัวเองก่อนจะมองไปที่บุรุษที่นอนหลับสนิทอยู่ แม้จะอยู่ห่างจากเตียงแต่รอยแดงตามตัวของเขาก็ยิ่งตอกย้ำว่านางรุนแรงกับเขามากเกินไปจริง ๆ
ตุบ!!
ป้ายหยกประจำตัวร่วงลงมาจากกองเสื้อผ้าที่อยู่ในอ้อมอกของหม่าเฟิงหลัน มือบางหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัยเพราะนี่ไม่ใช่ป้ายของนางหากเดาไม่ผิดคงเป็นของบุรุษที่นอนอยู่
"ซะ...ซิวหมิง"
ความเงียบกลับมาปกคลุมทั้งห้องอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยมองไปที่ซิวหมิงที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้งริมฝีปากบางเม้มแน่นความรู้สึกตอนนี้หากมีหน้าผาอยู่ตรงหน้านางคงกระโดดลงเพื่อหนีจากเรื่องตรงหน้า
"เฟิ่งหลันเจ้าทำเรื่องแล้วจริง ๆ แม้มีความต้องการขนาดไหนแต่ถึงขนาดฉุดองค์ชายสองมาย่ำยีเช่นนี้ได้ยังไงกัน ได้ยินว่าซิวหมิงผู้นี้เป็นองค์ชายที่ขององค์รัชทายาทที่เจ้าไม่ถูกชะตาหวงแหนและตามใจเป็นที่สุด เห้ออ.."
หม่าเฟิงหลันในตอนนี้แทบทึ้งหัวตัวเองอยากให้เรื่องทุกอย่างเป็นความฝัน หากองค์รัชทายาทรู้ว่าข้าฉุดบุตรชายของเขามาคงได้สั่งประหารข้าเป็นแน่ แม้องค์ชายซิวหมิงจะอายุยี่สิบแล้วแต่ก็ยังห่างกับข้าถึงเก้าปี อีกทั้งจิตใจของเจ้าเด็กนี่จะเป็นเช่นไรต้องมาร่วมรักกับสาวแก่ทั้งคืนแบบนี้
หม่าเฟิงหลันส่ายหัวเรียกสติตัวเองก่อนจะหยิบเสื้อผ้าของนางที่กระจายอยู่ตามพื้นห้องมาสวมใส่อย่างร้อนรนร่างบางค่อย ๆ เดินออกจากห้องไปในใจตอนนี้เต็มไปด้วยความกังวลและรู้สึกผิดโดยไม่รู้เลยว่าบุรุษที่นางกำลังเฝ้าขอโทษอยู่ในใจนั้นไม่ได้รู้สึกแย่กับเหตุการณ์นี้แต่กลับรู้สึกพอใจด้วยซ้ำที่มีเหตุผลในการแต่งงานกับนาง
ทันทีที่ประตูถูกปิดลงซิวหมิงที่แสร้งนอนหลับตาอยู่ก็ยกยิ้มออกมา เขาลืมตาขึ้นก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งมองไปที่ประตูราวกับว่าทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแบบที่เขาต้องการ
"ข้ากลับพอใจที่ถูกท่านย่ำยีเช่นนี้"
