บทที่ 1
"ตอนนี้ชายแดนก็สงบแล้ว แม่ทัพหม่าข้าคิดว่าสาวเทื้อเช่นเจ้าควรจะหาบุรุษมาแต่งงานด้วยได้แล้ว"
"ไม่คิดว่าองค์รัชทายาทที่ทรงมีงานราชการรัดตัวจะใส่ใจเรื่องคู่ครองของข้าเช่นนี้ แต่คงต้องบอกท่านตามตรงว่าข้ายังไม่คิดเรื่องแต่งงานในตอนนี้"
"ไม่คิดหรือว่าไม่มีบุรุษใดยอมแต่งงานด้วยกันแน่ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ข้าจะทูลขอเสด็จพ่อประทานสมรสให้เจ้าเอง"
"หึ..เกรงว่าองค์รัชทายาทจะเข้าใจผิดแล้ว แม้หม่อมฉันจะเป็นสาวเทื้ออายุสามสิบแต่ก็มีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพหญิงของแคว้นจะเป็นไปได้เช่นไรที่จะไม่มีบุรุษใดหมายตา"
"หากเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าก็แต่งงานเสียสิข้าเองก็อยากรู้นักว่าบุรุษใดจะโง่เขลารับสตรีหยาบคายเช่นเจ้าเป็นภรรยา"
ไม่คิดว่าเพียงคำพูดของนางที่พูดกับองค์รัชทายาทศัตรูที่ไม่เคยถูกชะตากันตั้งแต่ในอดีตจะทำให้ลู่หนานผิงสหายรักในวัยเด็กเมื่อรู้ข่าวกระทำเช่นนี้กับนาง หม่าเฟิงหลันแม่ทัพหญิงแห่งแคว้นเหยี่ยชิงในตอนนี้ถูกพาตัวมาที่หอสุราอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตาคู่สวยมองภาพของบุรุษรูปงามนับสิบที่ถูกกางออกมาตรงหน้านาง
"เลือกเอาสิ"
"หนานผิงเจ้าบ้าไปแล้วหรือไง"
หม่าเฟิงหลันตวาดออกมาเสียงดัง มองไปที่ลู่หนานผิงสหายคนสนิทที่ตอนนี้กำลังตั้งใจคัดเลือกบุรุษให้นางราวกับไม่รู้ความผิดของตน
"ข้าว่าบุตรชายเจ้ากรมการคลังก็ดีไม่ใช่น้อยแม้จะดูอ่อนแอไปหน่อยแต่ก็รูปงาม"
"......"
"หรือเจ้าชอบบุรุษแข็งแรง เช่นนั้นบุตรชายรองแม่ทัพหลินก็ไม่เลว"
หม่าเฟิงหลันในตอนนี้ได้แต่รู้สึกละอายยิ่งเห็นสายตาของเหล่าผู้ติดตามของสหายมองมาที่นางก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก สาเหตุที่อายไม่ใช่เพราะต้องเลือกบุรุษมาแต่งงานแต่เป็นเพราะบุรุษที่ลู่หนานผิงเลือกมาอายุห่างจากนางเป็นสิบปี เรียกได้ว่านางในยามนี้อาจจะอายุเท่ามารดาพวกเขาด้วยซ้ำ
"เจ้าไม่ชอบหรือ"
ลู่หนานผิงมองหม่าเฟิงหลันที่มีสีหน้าไม่ดีนัก เหตุใดไม่ชอบกันข้าล้วนเลือกบุรุษที่ดีพร้อมและเหมาะสมให้เจ้าหรือว่านางเขินอายเหล่าข้ารับใช้ของข้า
"ออกไปให้หมด"
"ขอรับ"
หม่าเฟิงหลันถอนหายใจออกมาทันทีที่ทุกคนออกจากห้องไป นางใช้แรงที่มีตีลงที่แขนของลู่หนานผิงจนเกิดเสียงดัง
"เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง บุรุษพวกนั้นข้าแทบจะเป็นมารดาของพวกเขาได้อยู่แล้ว ไม่สิมารดาของพวกเขาบางคนยังอายุน้อยกว่าข้าด้วยซ้ำจะให้ข้าแต่งกับพวกเขาได้เช่นไร"
"แต่เฟิงหลันบุรุษที่เหมาะสมกับเจ้าล้วนมีแต่พวกเขาที่ข้าเลือกมาให้ เจ้าจะให้ข้าหาบุรุษที่อายุสามสิบเท่าเจ้าและคู่ควรกับเจ้ามาจากที่ใด"
"........"
"เห้ออ..ข้าเองก็ทำเต็มที่แล้วหากเจ้าไม่แต่งงานตอนนี้เกรงว่าองค์รัชทายาทคงได้หาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ ข้าเองก็เป็นบุรุษที่แต่งงานแล้วแม้ตำแหน่งฮูหยินยังเว้นว่างแต่ก็รู้ว่าเจ้าคงไม่ยินยอมแต่งเข้ามาจวนลู่ของข้า ขอโทษที่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้เลยสักนิด"
หม่าเฟิงหลันส่ายหัวให้กับสหายของนาง พลางก้มลงมองหลังมือของตัวเองที่มีรอยแผลเป็นจากคมอาวุธมากมายสนามรบสร้างบาดแผลให้นางมากจริง ๆ หากข้าไม่คิดเป็นแม่ทัพตั้งแต่แรกไม่แน่ว่าตอนนี้ข้าอาจแต่งกับบุรุษสักคนและมีบุตรเช่นสหายตรงหน้าก็ได้
"ข้าอยากรู้นักว่าเป็นเพราะอะไร เจ้ากับองครัชทายาทถึงต้องทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้า"
"จริง ๆ ข้าก็ชื่นชมพระองค์นะเพราะที่แคว้นเจริญรุ่งเรืองเช่นนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากองค์รัชทายาท แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทุกครั้งที่ข้าพบหน้าพระองค์ข้ารู้สึกไม่ถูกชะตาเลยสักนิด"
"จากที่ข้าสังเกตดู พระองค์เองก็ไม่ถูกชะตากับเจ้าเช่นเดียวกัน"
"เอาเถอะ วันนี้พอแค่นี้มาดื่มสุราดีกว่าไม่ใช่เจ้าบอกว่ามีสุราเลือดกวางมาให้ข้าร่วมดื่มด้วยหรือ"
หม่าเฟิงหลันพูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะดื่มสุรา ทั้งสองร่วมดื่มสุราพลางพูดถึงเรื่องในอดีตและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสนามรบที่หม่าเฟิงหลันต้องเจอมาตลอดหลายปี ความสนิทของทั้งสองเคยถูกมาพูดถึงเรื่องความเหมาะสมอยู่หลายครั้งผู้คนต่างลือว่าหม่าเฟิงหลันอาจจะได้เป็นฮูหยินลู่ บ้างก็ว่านางและลู่หนานผิงมีใจตรงกันเพียงแต่รอให้สงครามสงบจึงจะครองคู่กัน
แต่ใครเลยจะรู้ความจริงเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนั่นเป็นเพียงสหายที่ดีต่อกันเท่านั้นไม่มีใจคิดเป็นอื่นแต่อย่างใด
หลายชั่วยามต่อมา
"งืมม..."
หม่าเฟิงหลันที่ตอนนี้รู้สึกไม่สบายตัวจึงขยับตัวไปมากลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้ร่างบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเงยหน้ามองแม้ภาพจะเลือนรางแต่นางก็ยังพอมองออกว่าคนที่กำลังอุ้มนางอยู่ตอนนี้คือบุรุษรูปงาม
"ข้าทำท่านตื่นหรือ"
น้ำเสียงนุ่มลึกและอ่อนโยนที่ทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจและปลอดภัยยิ่งทำให้หม่าเฟิงหลันที่เมามายไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด รอยยิ้มสวยปรากฏบนใบหน้าก่อนจะหลับตาลง
"ตัวเจ้าหอมยิ่งนัก"
ซิวหมิงหรือองค์ชายสองก้มลงมองหม่าเฟิงหลันที่หลับตาลงเอนใบหน้าซบลงที่อกของเขา รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมก่อนจะก้าวเท้าตรงไปที่โรงเตี๊ยมใกล้ ๆ
"ข้าได้ยินว่าท่านอยากแต่งงานหรือ"
"อืม..เรื่องที่ต้องทำข้าก็ทำหมดแล้ว"
"เช่นนั้นจะแต่งให้ผู้ใดกันบอกข้าได้หรือไม่"
"......."
ไม่มีเสียงตอบกลับมาลมหายใจเป็นจังหวะของคนในอ้อมแขนทำให้รู้ว่าตอนนี้นางได้หลับไปแล้ว ซิวหมิงปรายตามองไปที่องครักษ์คนสนิทที่อยู่ด้านหลัง
"ไปสืบมาว่าลู่หนานผิงนำภาพผู้ใดให้นางดู"
น้ำเสียงเย็นและดูแข็งกร้าวช่างแตกต่างจากยามที่คุยกับหม่าเฟิงหลันเมื่อครู่เอ่ยขึ้นสีหน้าเรียบเฉยของซิวหมิงมองไปด้านหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
"หากรู้ว่าเป็นผู้ใดก็ตีขาพวกมันให้หัก"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"ข้าทำให้พวกมันพิการแล้ว ท่านก็คงไม่ชายตามองใช่หรือไม่"
โรงเตี๊ยมชุนหลง
ซิวหมิงค่อย ๆ วางหม่าเฟิงหลันลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาเขาก้มลงมองสตรีที่เขาเฝ้าแอบรักมาหลายปีสตรีที่ทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองจากองค์ชายที่ชอบอ่านตำราเดินหมากล้อมมาจับกระบี่ยิงธนูเพียงเพราะนางชื่นชอบบุรุษที่แข็งแกร่ง
กลิ่นสุราโชยออกมาจากตัวนางทำให้ซิวหมิงที่อยู่ใกล้ ๆ เผลอยิ้มออกมา
"ท่านอาบสุรามาหรือขอรับ เมื่อห้าปีก่อนพบเจอท่านครั้งแรกท่านก็เมามายเช่นนี้"
หม่าเฟิงหลันขยับตัวไปมาดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมขึ้นจ้องมองบุรุษรูปงามตรงหน้าก่อนจะยกมือบางขึ้นลูบใบหน้าของซิวหมิงอย่างแผ่วเบารอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสวย
"เหตุใดท่านถึงอยากแต่งงานกับผู้อื่นกัน ทั่วแคว้นนี้ผู้ที่ดีและเหมาะสมกับท่านมีเพียงข้าหากท่านอยากแต่งงานเจ้าบ่าวก็ควรเป็นข้าสิ"
"สตรีน่าเกลียดเช่นข้าจะกล้าแต่งกับบุรุษรูปงามได้เช่นไร"
ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเมามาย ดวงตาคู่สวยมองบุรุษรูปงามตรงหน้าอย่างหลงใหล
"ไม่ขอรับ ในสายตาข้าท่านสูงส่งและงดงามยิ่งกว่าสตรีใด"
"หึ เช่นนั้นเจ้ามาแต่งงานเป็นสามีข้าเลยดีหรือไม่เล่า"
