บท
ตั้งค่า

บทที่ 18 แสลงใจ

หลังจากพักหน้าดินได้สองวันก็ถึงเวลาที่จะนำพันธุ์ผักที่เพาะไว้ลงดิน หนิงหลันนั้นสุดจะอึ้งและทึ่งกับความขยันของไคเฉิง พื้นที่ทั้งหมดสองงานเขาทำคนเดียวทั้งหมดได้อย่างไร ระยะเวลาเท่านี้ต้องใช้แรงถึงสองคนเชียว

ถ้าเช่นนั้นนางจะให้รางวัลเขาสักหน่อยก็แล้วกัน

หนิงหลันมองคนตรงหน้าอย่างชื่นชม พร้อมกับมอบแอปเปิลที่ถูกปอกเปลือกอย่างดี หั่นเป็นชิ้นเรียงไว้บนจานอย่างสวยงาม เพื่อเป็นรางวัลสำหรับคนเก่ง พร้อมกับชามะนาวหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ชื่นใจหลังจากทำงานเสร็จ

“พักกินของว่างก่อนเจ้าค่ะ” หนิงหลันวางของว่างไว้บนแคร่ข้างสวนผัก พร้อมกับเรียกสามีให้หยุดมือจากการทำงาน

“เจ้าเอาผลไม้มาจากที่ใด อย่าบอกนะว่าซื้อมาน่ะ ข้าไม่เชื่อหรอกนะ” ไคเฉิงเกิดความสงสัย นางเอาผลไม้พวกนี้มาให้เขากินทุกวันสิ้นเปลืองเกินไป อยากให้เก็บเงินเอาไว้ใช้อย่างอื่นมากกว่า

“ข้าซื้อจากชาวบ้านมาน่ะเจ้าค่ะ ไม่แพงเลยราคาถูกดี” ได้แต่ยิ้มแห้งไม่รู้จะหาเหตุผลมาแก้ตัวอย่างไรดีเขาถึงจะเชื่อ

“ต่อไปไม่ต้องเสียเงินกับเรื่องพวกนี้แล้วนะ ผลไม้ในป่ามีเยอะแยะเราไปเก็บมาไว้กินเองก็ได้” แม้จะพูดไปเช่นนั้น ทว่าใบหน้ายามกัดผลไม้ในจานเข้าปากมันช่างดูมีความสุข เขารู้ดีที่หนิงหลันพูดมาล้วนแต่ไม่ใช่เรื่องจริง ผลไม้ป่าน่ะไม่ลูกใหญ่หวานกรอบน่ากินขนาดนี้หรอกนะ ส่วนมากลูกจะเล็กและมีรสเปรี้ยว

“ข้าอยากไปหาของป่า ท่านพาข้าไปบ้างสิ” เมื่อพูดถึงเรื่องเข้าป่าหนิงหลันตาลุกวาวทันที ชีวิตในโลกก่อนนางเคยอ่านนิยายทะลุมิติแล้วเข้าป่าหาของป่าน่าสนุก เคยคิดว่าถ้าได้ลองทำเหมือนนางเอกนิยายสักครั้งคงจะดี มันจะเหมือนในนิยายที่นางเคยอ่านหรือไม่ แม้จะมีห้วงมิติวิเศษที่มีทุกอย่างแล้วก็จริง แต่ความรู้สึกมันต่างกันนี่นา

“ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเราเข้าป่าแล้วลูกเล่า นางยังเด็กเราเอาไปด้วยไม่ได้หรอกนะ”

“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าเอาไปฝากท่านลุงเหลียงไว้ก่อน ขากลับค่อยไปรับเอินเอินกลับบ้านพร้อมกัน”

“อืม เช่นนั้นพรุ่งนี้เราก็ออกแต่เช้าจะได้ไม่ร้อนมาก ฮืม... น้ำนี่อะไรกันหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ มีกลิ่นหอมของชาด้วย” ทันทีที่ยกน้ำขึ้นจิบรสชาติที่สัมผัสได้ช่างถูกใจเขานัก ไม่รู้เลยว่าชาทำออกมาให้มีรสชาติแบบนี้ได้ ปกติจะมีรสชาติขมเล็กน้อยไปจนถึงขมมากและเฝื่อน แต่นี่ไม่มีรสขมเลยสักนิด

“เรียกว่าชามะนาวเจ้าค่ะ ช่วยให้สดชื่นและชุ่มคออร่อยด้วย” หนิงหลันยิ้มแฉ่งดีใจที่สามีกินทุกอย่างที่นางทำให้อย่างเอร็ดอร่อย

“เราปลูกมะนาวเพิ่มอีกสักอย่างดีหรือไม่ ข้าจะได้กินชามะนาวทุกวัน”

“ตามใจท่านเลยเจ้าค่ะ” หรือนางจะลองทำชาไข่มุกดีนะ ที่นี่จะต้องไม่มีแน่

หลังจากพักหายเหนื่อย สองสามีภรรยาช่วยกันนำต้นกล้าผักลงแปลงที่เตรียมเอาไว้ ดีที่วันนี้แดดไม่แรงเท่าไรนัก จึงทำงานได้เรื่อย ๆ หนิงหลันคิดไปถึงผักที่นางปลูกโตวันโตคืนแล้วนำไปขาย มันช่างรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ถึงตอนนั้นนางก็จะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างต่าง ๆ นานา เพื่อใช้แก้ตัวในยามใช้เงิน

มีงานเท่ากับมีเงิน

ไคเฉิงเห็นว่าหนิงหลันมีความสุขกับแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตัวเขาเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย ขออย่าให้มีเหตุอะไรเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์พวกเขาเลย ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี หวังว่าหลังจากนี้สองปี....

จริงสินะ สัญญาสองปีนั่น จากที่เอาแต่นั่งยิ้มลอบมองใบหน้างามของภรรยา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกเขายังมีสัญญาสองปีเจ้าปัญหา จากที่นั่งยิ้มกลับกลายเป็นยับยู่พานทำให้จิตใจขุ่นมัว ไคเฉิงลุกเดินหนีไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาหนิงหลันได้แต่มองด้วยความมึนงง

“เป็นอะไรของเขา เมื่อครู่ยังดี ๆ อยู่เลย”

หลังจากใจเย็นลงจึงรู้ตัวว่าตนเองทำตัวไม่ดี ไคเฉิงจึงคิดจะกลับไปขอโทษและช่วยภรรยาทำงานต่อ ทว่าเขากลับพบเข้ากับบางอย่างที่ตั้งตระหง่านอยู่หลังบ้าน

โอ่งใบใหญ่ขนาดห้าคนโอบวางเรียงกันถึงห้าใบ เห็นคราแรกก็ถึงกับอ้าปากค้างเขาไม่เคยเห็นโอ่งที่ไหนจะใหญ่โตถึงเพียงนี้ ที่สำคัญอยู่มาสามวันเขายังไม่เคยเห็นมันเลยสักครั้ง มันมาอยู่ตรงนี้แต่เมื่อใด เจ้าตัวเดินวนไปวนมาหลายรอบ แตะตรงนั้นเคาะตรงนี้ด้วยความสงสัยและมึนงง

“ข้าวานท่านลุงเหลียงช่วยหาช่างปั้นทำให้น่ะเจ้าค่ะ เขาเพิ่งเอามาส่งให้เมื่อตอนเช้าตรู่ ข้าเห็นท่านหลับสบายก็เลยไม่อยากปลุก” หลังจากวันที่บุตรสาวร้องไห้งอแงจะนอนพร้อมกับพ่อและแม่ให้ พวกเขาจึงยกเลิกการแยกห้องนอน กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง

“อ๋อ เป็นเช่นนั้นนี่เอง แล้วน้ำ...” เรื่องแปลก ๆ พวกนี้เขาควรจะชินมันได้แล้ว ทว่าความสงสัยมันทำให้เขาอดที่จะแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้ แต่ครั้นจะถามอีกดูเหมือนภรรยาจะรู้ทัน เขาจึงได้แต่รีบหุบปากลงทันทีเมื่อเจอกับสายตาดุ เป็นสัญญาณบอกห้ามไม่ให้เขาถามอีก

“ข้าจ้างคนตักน้ำเต็มแล้วเจ้าค่ะ ท่านเอาถังน้ำมารองตรงนี้สิเจ้าคะ จากนั้นหมุนก๊อกน้ำไปอีกด้าน น้ำก็จะออกมาเองเจ้าค่ะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว” ชายหนุ่มรีบไปนำถังมารองน้ำ ทำตามหญิงสาวบอกทุกขั้นตอน รู้ได้เลยว่ามันทั้งสะดวกสบายไม่ต้องปีนขึ้นไปตักน้ำให้ลำบาก แค่เปิดก๊อกน้ำ น้ำด้านในก็ไหลออกมาอย่างง่ายดาย

การรดน้ำผักไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ช่วยร่นระยะเวลาในการทำงานไปได้มาก แต่ละวันใช้น้ำไปมากทีเดียว ไคเฉิงคิดแล้วว่าหากเขาตักน้ำมาเติมไว้ทุกวัน น้ำในโอ่งจะได้มีใช้ไม่ขาด แต่ก็ต้องผิดคาดเมื่อทุกเช้าที่เขามารดน้ำผัก น้ำเต็มโอ่งทุกวันไม่มีวันไหนเลยที่เขาต้องไปตักน้ำเลยสักครั้ง นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เขาอยากรู้ หนิงหลันนางทำอย่างไรให้น้ำเต็มโอ่งทุกวัน

“ใช้ไปตั้งครึ่งหนึ่งแล้วมิใช่หรือ เหตุใดน้ำถึงกลับมาเต็มอีกเล่า” ชายหนุ่มเดินวนรอบโอ่งอยู่นานสองนาน เขาพยายามหาสิ่งของที่ทำให้น้ำกลับมาเต็มอีกครั้ง ทว่ามันกลับไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลยสักอย่าง ได้แต่คิดอย่างขำ ๆ กับตนเอง สงสัยอาหลันของเขาจะเป็นผู้วิเศษกระมัง

“ท่านหาอะไรอยู่หรือเจ้าคะ” หนิงหลันนำผลไม้และน้ำมาให้สามีที่สวนหลังบ้าน แต่เมื่อมาถึงนางก็เห็นเขาเอาแต่เดินสำรวจอยู่ข้างโอ่งน้ำ

“ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่ามันใช้ประโยชน์ได้ดีน่ะ”

“ข้าเอาของว่างมาให้เจ้าค่ะ” สองวันมานี่รั่วเอินไม่สบายตัวร้อนจึงไม่ได้เข้าป่าตามที่ตกลงกันไว้

ไคเฉิงรีบล้างมือให้สะอาด ก่อนจะนั่งลงบนแคร่กินผลไม้อย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นหนิงหลันได้เดินสำรวจแปลงผัก แค่ลงดินได้สองวันผักพวกนี้โตเร็วกว่าปกติถึงสองเท่า นี่คงเป็นผลจากน้ำแร่ที่นำมารดผักทุกวันสินะ ถ้าหากเป็นในห้วงมิติ ใช้เวลาแค่สามวันก็ได้กินผลของมันไปแล้ว

“แงงงงง”

เสียงของเจ้าก้อนดังออกมาจากข้างในบ้าน ทำเอาทั้งพ่อและแม่ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน

“เจ้าพักเถอะ สงสัยฉี่เต็มผ้าอ้อมกระมัง เดี๋ยวข้าไปดูลูกเอง” อาการไข้ของรั่วเอินไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว อีกทั้งตั้งแต่ลูกไม่สบายภรรยาแทบไม่ได้หลับได้นอน เป็นเขาเองที่ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำสวน หากมีอะไรช่วยแบ่งเบาได้เขาก็อยากจะทำ

เรื่องดูแลลูกเรียกได้ว่าไคเฉิงยืนหนึ่งไว้ใจได้ เขาทำเป็นตั้งแต่อาบน้ำไปจนถึงกล่อมนอน แม้แต่ผ้าอ้อมรวมไปถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ของนางเป็นเขาที่ซักให้ ห้ามอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง หนิงหลันได้แต่ปล่อยให้เขาดูแลรั่วเอินได้ไม่ต้องเป็นห่วงแต่อย่างใด

ด้านไคเฉิงเมื่อเข้ามาถึงห้องนอนก็พบว่าบุตรสาวกำลังเกาะขอบเตียง นางร้องไห้งอแงน้ำหูน้ำตาอาบแก้ม ยิ่งได้เห็นหน้าบิดาน้ำตาที่ว่าก็เหมือนจะสั่งให้หยุดได้ทันที

“เอินเอินของพ่อเป็นอะไรหืม” ชายหนุ่มตรงเข้าไปอุ้มบุตรสาวจากเตียงเด็ก เขาวางรั่วเอินลงบนเตียงใหญ่พร้อมกับเปิดผ้าอ้อมออก เพื่อดูว่าเจ้าก้อนปล่อยของเสียทำให้ไม่สบายตัวหรือไม่

และก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริง เมื่อหลักฐานและกลิ่นโชยเข้าจมูกเต็ม ๆ ทำเอาไคเฉิงปิดจมูกแทบไม่ทัน

“แอ้ อั๊ยยย” เด็กน้อยยิ้มแฉ่ง รู้สึกพอใจไม่น้อยเมื่อเห็นใบหน้ายับยู่ของบิดา มิหนำซ้ำนางยังปล่อยเสียงลากยาวออกมาอย่างไม่รู้สึกอาย

ปู๊ดดดดด

“ตัวแค่นี้หัดรู้จักแกล้งแล้วหรือ”

“อู้วววว” รั่วเอินหัวเราะคิกคัก ถูกอกถูกใจกับคำพูดของบิดาเหลือเกิน

ไคเฉิงจัดการทำความสะอาดจนเรียบร้อย ก่อนจะนำผ้าอ้อมไปซักและตากให้แห้ง เขาจึงกลับมาหาบุตรสาวอีกครั้ง คิดว่าจะพาเจ้าเด็กดื้อออกไปรับลมข้างนอกสักหน่อย อุดอู้อยู่แต่ในบ้านหลายวันเกรงว่าเด็กน้อยจะเบื่อ

ทว่าในขณะกำลังจะอุ้มเจ้าตัวน้อยออกไปด้านนอก เขากลับนึกอะไรบางอย่างได้ ชายหนุ่มจึงวางรั่วเอินไว้ที่เดิม ก่อนจะเดินตรงไปหาตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ เขาควานหากระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาแล้วยัดมันเข้าไว้ในอกเสื้ออย่างรวดเร็ว เก็บของทุกอย่างให้เหมือนเดิม พร้อมกับปิดตู้ให้เรียบร้อย เขามั่นใจว่าหนิงหลันไม่มีทางรู้

“เอินเอินเราออกไปหาท่านแม่กันเถอะ”

ชายหนุ่มหาโอกาสเหมาะในตอนที่ภรรยาเผลอ ฉวยโอกาสในตอนที่นางเอาแต่สนใจบุตรสาว เขารีบนำกระดาษแผ่นนั้นออกมาฉีกมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วนำมันฝังกลบลงหลุมผักไปเสีย

“แสลงใจข้านัก ลงไปเป็นปุ๋ยเถอะ” สัญญาสองปีอะไรนั่นไม่มีหรอก มีแต่สัญญาชั่วชีวิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel