บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

“ข้าหารถม้าแล้วบังเอิญไปเจอเขาค่ะ”

“อ้อเพราะงั้นพี่เจียฮุ่ยก็เลยขอตามเรามาด้วยสินะ คิก”

กุ้ยเฟยเซียนยกยิ้มขำออกมาเมื่อเห็นว่ามีคนเสียอาการ หวังฟางได้แต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้หน้าคนที่นั่งข้าง ๆ

“เขาบอกว่ากลัวไม่ได้พบข้าอีกเจ้าค่ะคุณหนู”

“โห ถ้าอย่างนั้นพี่จะทิ้งพี่เจียฮุ่ยไม่ได้แล้วนะ พี่หวังฟางเขาหนีตามพี่มาขนาดนี้แล้ว”

“โถ่ คุณหนูอย่าล้อข้าเลยนะเจ้าคะ”

หวังฟางทำตัวไม่ถูกเมื่อโดนอีกคนล้อ จนตอนนี้เธอหน้าแดงเถือกไปหมดแล้ว

“ก็ได้ ๆ ข้าไม่ล้อพี่แล้วล่ะ ขอบคุณพี่มากนะที่พี่ไม่ทิ้งข้า”

หญิงสาวกอดเข้าไปที่เอวบางของคนที่นั่งข้าง ๆ อย่างซึ้งใจ หากไม่มีพี่หวังฟางแล้วชีวิตนี้เธอก็คงจะไม่มีใครอีกแล้ว

“ชีวิตของข้าก็มีแต่คุณหนูเท่านั้นไม่มีใครแล้วเจ้าค่ะ”

หวังฟางกอดตอบคนอ่อนวัยกว่าด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ต้องหน้าแดงอีกครั้งเมื่ออีกคนพูดขึ้นมา

“ยังเหลือคนข้างนอกอีกคนนึงนะพี่ คิก”

หลังจากเดินทางมาถึงที่เมืองหลวงของฉางอันก็เป็นเวลาเย็นย่ำ เจียฮุ่ยที่ค่อนข้างจะคุ้นชินกับเมืองหลวงพาหญิงสาว

ทั้งสองเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเพื่อที่จะได้พักก่อนจะออกเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้เพราะตอนนี้มืดค่ำแล้วหากเดินทางไปก็อาจจะไม่ปลอดภัย

“ขอบคุณพี่เจียฮุ่ยมากนะที่มาส่งพวกข้า”

กุ้ยเฟยเซียนพูดขึ้นมาหลังจากที่ทั้งสามคนนั่งกินข้าวด้วยกันสักพัก โดยที่ชายหน้านิ่งก็คีบอาหารให้พี่หวังฟางเป็นระยะแม้จะไม่พูดอะไรก็ตาม

“ข้าไม่ได้มาส่งขอรับคุณหนู ข้าจะไปอยู่กับพวกท่านเลย”

“ว่าไงนะ!”

หญิงสาวผู้ร่วมโต๊ะทั้งสองคนหันไปมองหน้าคนพูดด้วยความตกใจ ดวงตาสองคู่เบิกกว้างอย่างลืมตัว

“ข้าจะไปหางานทำที่ต้าฮวาง ขอข้าไปอยู่ด้วยนะขอรับ”

“เอ่อ ถ้าพี่คิดดีแล้วก็ตามใจข้าไม่เดือดร้อนอะไรหรอกดีเสียอีกจะได้มีคนคอยดูแลพวกข้า เนาะพี่หวังฟาง”

กุ้ยเฟยเซียนพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้นเมื่อเห็นหวังฟางนิ่งอึ้งไปแล้ว ท้ายประโยคหันไปถามคนข้างตัวที่มองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ

“เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้นสิ ข้าตัวคนเดียวจะไปที่ใดก็ได้ อีกอย่างพวกเจ้าเป็นหญิงสองคนจะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองตามลำพังมันอันตราย”

“ใช่ ๆ ความคิดพี่เจียฮุ่ยเข้าท่ามาก อะ พี่หวังฟางกินเป็ดย่างชิ้นนี้นะ”

หญิงสาวเห็นแววบรรยากาศมาคุมาแต่ไกล สงสัยงานนี้จะมีคนต้องเลือดตกยางออกจึงรีบคีบเป็ดย่างในจานตรงหน้าวางลงบนข้าวต้มของหวังฟาง พยายามจะดึงความสนใจของเธอกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ผล คุณหนูกุ้ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

คืนนั้นหวังฟางไปคุยกับเจียฮุ่ยที่นอนเฝ้ารถม้าอีกครั้ง ผ่านไปสักพักเธอก็ขึ้นมาบนห้องด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ กุ้ยเฟยเซียนที่นั่งรออยู่เห็นเข้าก็รีบเข้าไปหาด้วยความตกใจ

“ทะเลาะกันหรือพี่หวังฟาง”

“เปล่าเจ้าค่ะ”

“อ้าวแล้วพี่ร้องไห้ทำไมล่ะ”

“ข้าแค่ซึ้งใจเจ้าค่ะ ไม่คิดเลยว่าเจียฮุ่ยจะจริงใจกับข้าขนาดนี้”

“โถ่ ก็นึกว่าเรื่องอะไร พี่ไม่ต้องคิดมากนะถ้าไปถึงที่ต้าฮวางก็พักอยู่ด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ พี่เจียฮุ่ยก็จะได้ช่วยดูแลพวกเราได้ไง ถ้าพวกพี่อยากจะแต่งงานกันข้าก็จะช่วยจัดให้”

“ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเจ้าค่ะคุณหนู”

“บอกไว้ก่อนไงป้องกันพวกพี่ทิ้งข้า ฮ่า ๆ ”

หลังจากพูดคุยเรื่องของเจียฮุ่ยจนเข้าใจกันแล้วทั้งสองคนก็รีบเข้านอนพักเอาแรงทันที เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกันต่อ เพราะต้าฮวางนั้นอยู่ไปจนสุดขอบทางเหนือของฉางอันเลยก็ว่าได้

“เดี๋ยวข้าอยู่ที่วัดนี้รอนะ พวกพี่ไปซื้อของที่ตลาดกันเถอะ ข้าอยากขอพรสักหน่อย”

“คุณหนูดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ”

“ไม่ต้องห่วงข้าหรอกน่า”

กุ้ยเฟยเซียนส่งยิ้มให้หวังฟางและเจียฮุ่ยที่มองมาอย่างเป็นกังวล เพราะทั้งสองคนจะต้องเข้าไปซื้อของในตลาดเพื่อเป็นเสบียงในการเดินทางต่อ ด้วยความที่เธออยากให้ทั้งสองได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้าง จึงแยกออกมารออยู่ที่วัดนี้โดยให้เหตุผลว่าอยากจะไหว้พระขอพร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel