บทที่ 5
กุ้ยเฟยเซียนใบหน้างามหมองเศร้า คราบน้ำตาถูกเช็ดออกไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ดวงตากลมโตแดงก่ำก็ยังบวมตุ่ย
นั่งเหม่ออยู่ที่ห้องโถงของเรือน ตอนนี้เธอรู้สึกสิ้นหวังเหลือเกินชีวิตเธอพึ่งจะเลยวัยปักปิ่นมาไม่นานของเธอจะต้องหมดสิ้นอิสรภาพแต่งงานเป็นอนุนายอำเภอเล่งตงหยุนจอมเจ้าชู้ผู้นั้นจริง ๆ อย่างนั้นหรือ
“เฮ้อ”
“คุณหนูกินข้าวก่อนเถิดเจ้าค่ะ”
หวังฟางเรียกคุณหนูของตัวเองเบา ๆ เมื่อได้เวลาของมื้อเที่ยงด้วยความเป็นห่วง เพราะหลังจากที่เจ้าตัวกลับมาจากพบเถ้าแก่กุ้ย หญิงสาวก็เอาแต่นั่งทอดถอนใจไม่หยุด
“ข้ากินไม่ลงหรอกที่หวังฟาง ท่านพ่อใจร้ายคิดจะให้ข้าแต่งงานกับนายอำเภอเล่ง ข้าจะทำอย่างไรดี”
“ข้าว่ากินข้าวก่อนเจ้าค่ะ เติมพลังสักหน่อยเผื่อเราจะคิดหาทางออกได้นะเจ้าคะ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
คนฟังได้ยินดังนั้นก็รีบกุลีกุจอยกสำรับมาวางไว้ที่โต๊ะอีกฝั่งหนึ่งของอีกคนทันทีราวกับกลัวว่าเจ้านายของตนจะเปลี่ยนใจ
กุ้ยเฟยเซียนคิดไม่ตก วิธีเดียวที่เธอคิดออกคือคงต้องหนีไม่อย่างนั้นก็คงต้องตายเท่านั้นถึงจะหนีการแต่งงานครั้งนี้ได้
ร่างบางของกุ้ยเฟยเซียนนั้นสมส่วน เป็นคนซ่อนรูปคนหนึ่ง อีกทั้งใบหน้าที่งามผุดผาดซึ่งถ่ายทอดความงามมาจากมารดาเต็ม ๆ ทำให้นายอำเภอเล่งตงหยุนที่บังเอิญเจอหญิงสาวเข้าระหว่างที่นางไปเดินตลาดเกิดต้องตาต้องใจอยากได้มาเป็นอนุทันที
ยามโหย่วมาเยือนทุกคนในบ้านสกุลกุ้ยเริ่มเข้าเรือนตัวเอง เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝนจึงไม่ค่อยนิยมออกไปไหนมาไหนกัน บ่าวชายเริ่มจุดคบตะเกียงให้สว่าง เพราะท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตั้งแต่ช่วงบ่ายนั้นทำให้วันนี้ค่ำเร็วกว่าปกติ
“เจ้าเอาขนมนี่ไปให้คุณหนูเจ็ด แล้วบอกว่าท่านพ่อฝากมาให้ เข้าใจไหม”
“เจ้าค่ะ”
น้ำเสียงกระซิบกระซาบของหญิงสาวสองคนดังมาจากมุมหนึ่งของเรือนฝ่ายในสกุลกุ้ย บ่าวที่ได้รับคำสั่งจากกุ้ยซูเจียวรีบนำขนมในถาดที่มีผ้าคลุมตรงไปยังเรือนของกุ้ยเฟยเซียนทันที
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกความสนใจจากกุ้ยเฟยเซียนที่นั่งอ่านตำราอยู่ในมุมหนึ่งให้หันไปมองด้วยความสงสัย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาหาเธอถึงเรือนแบบนี้
หวังฟางละมือจากการเย็บผ้านวมลุกขึ้นไปเปิดประตูเรือนก็พบว่าเป็นบ่าวจากเรือนหลักคนหนึ่ง
“มีอะไรรึ”
“เถ้าแก่กุ้ยสั่งให้เอาขนมมาให้คุณหนูเจ็ด”
“ขนมงั้นหรือ”
หญิงสาวรับถาดขนมที่ถูกผ้าคลุมไว้จากอีกคนมาก่อนจะลงดาลที่ประตูด้วยมือข้างเดียว ร่างสูงโปร่งของหวังฟางที่มองขนมในมือของตัวเองด้วยความฉงนฉงายเดินถือถาดขนมนั้นไปให้คุณหนูของตน
“ใครมาหรือ”
เสียงหวานเอ่ยถามหวังฟางเบา ๆ ขณะที่สายตาก็ยังไม่ละจากตำราตรงหน้า
“บ่าวเรือนหลักเจ้าค่ะ”
“หืม?”
กุ้ยเฟยเซียนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นถาดขนมที่หวังฟางเอาวางไว้ข้าง ๆ ตำราของตน
“บ่าวคนนั้นบอกว่าเถ้าแก่กุ้ยสั่งมาให้คุณหนูเจ้าค่ะ”
นั่นยิ่งทำให้กุ้ยเฟยเซียนยิ่งแปลกใจ มือบางรีบเปิดผ้าคลุมนั้นออกดูขนม ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ลูกเดือยต้มน้ำตาลอย่างนั้นรึ”
เถ้าแก่กุ้ยไม่เคยมอบอะไรให้เธอเลย ร่างบางรู้สึกทั้งแปลกใจทั้งดีใจ หรือว่านี่จะเป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะไม่ยอมแต่งงานกับนายอำเภอเล่งสินะถึงได้คิดจะทำดีกับเธอแบบนี้
“เถ้าแก่กุ้ยรู้ด้วยนะคะว่าคุณหนูชอบกินลูกเดือยต้มน้ำตาล”
“นั่นสิ”
ใบหน้าหวานแย้มยิ้มกว้างอย่างชอบใจ เก็บตำราเข้าที่ก่อนจะคว้าถ้วยลูกเดือยต้มน้ำตาลของโปรดของตนที่ยังอุ่น ๆ ขึ้นมาตักกินอย่างมีความสุข แท้จริงแล้วบิดาก็รักเธออยู่บ้างเขาใส่ใจถึงขนาดที่รู้ว่าเธอนั้นชอบกินอะไร คิดได้เท่านี้กุ้ยเฟยเซียนก็รู้สึกอุ่นไปทั้งหัวใจ
