บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 กลับคืนสู่เจ้าของ

“ท่านหมอขอรับ ช่วยคุณชายข้าด้วยขอรับ” บ่าวทั้งสองเมื่อพาเจ้านายของตนเองมาถึงยังโรงหมอ พวกเขารีบแบกเจ้านายหนุ่มเข้าไปด้านในทันที พร้อมกับร้องเรียกหมอเสียงดังอย่างร้อนรน

ท่านหมอชราเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียก จึงได้รีบร้อนออกมาดู

“รีบๆ พาเข้ามาด้านในเลย นั่นเป็นอะไรมาหรือ” ท่านหมอสอบถามสาเหตุเบื้องต้น พร้อมกับรีบเดินไปเปิดประตูห้องพักผู้ป่วย

“ถูกงูกัดมาขอรับ ช่วยคุณชายข้าด้วยเถอะท่านหมอ” บ่าวชายร่างใหญ่โตผู้แบกเจ้านายหนุ่มเข้ามา พูดด้วยอาการเหนื่อยหอบ ภายในใจก็ยังเป็นกังวลอยู่ว่าผู้เป็นนายจะเป็นอะไรมากหรือไม่

“โอ้ พาคุณชายไปที่เตียงคนไข้ก่อน แล้วรู้หรือไม่ว่าเป็นงูชนิดใด” ท่านหมอรีบเตรียมอุปกรณ์การรักษาออกมาในทันที เมื่อทราบแล้วว่าคนไข้เป็นอะไรมา

“นี่ขอรับท่านหมอ” บ่าวชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน รีบนำงูชะตาขาดตัวนั้นออกมาให้ท่านหมอดู

หลังจากนั้นท่านหมอได้ตรวจชีพจร และเปิดเปลือกตาของผู้ป่วยดูอาการ ดูเหมือนว่าจะยังโชคดีอยู่มาก เมื่อตรวจอาการอย่างละเอียดแล้วพิษงูได้เจือจางไปมาก และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ดีมากเช่นกัน เขาเป็นหมอต้องชื่นชมในการรักษาเบื้องต้น ทั้งยังรอบคอบโดยการนำงูร้ายตัวนั้นมาด้วย ยิ่งทำให้ง่ายต่อการรักษาอีกด้วย

“เอาล่ะ ข้าจะฝังเข็มและให้ดื่มยาแก้พิษ จากนั้นให้คุณชายของพวกเจ้านอนพักสักชั่วยามก่อน ค่อยพากลับจวนก็แล้วกัน” เมื่อทำการรักษาเรียบร้อยท่านหมอได้สั่งให้ผู้ช่วย นำใบสั่งยาไปต้มตามที่เขียนให้มาให้คนไข้ดื่มแก้พิษโดยด่วน

“ขอบคุณขอรับท่านหมอ” บ่าวทั้งสองคน เมื่อได้ยินว่าคุณชายปลอดภัยแล้วก็ได้โล่งใจนัก หากว่านายท่านกับฮูหยินทราบเรื่อง พวกเขาต้องโดนโบยหลังลายแน่ โทษฐานดูแลคุณชายไม่ดีตามที่เจ้านายไว้วางใจ

“ไม่เป็นไร มันคือหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว” ในระหว่างที่กำลังเก็บอุปกรณ์การรักษาอยู่นั้น เหมือนว่าท่านหมอคุ้นหน้าคนไข้เหลือเกิน เหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จึงได้เอ่ยถามกับบ่าวสองคนที่เอาแต่นั่งเฝ้าข้างกายไม่ห่าง

“พวกเจ้าข้าขอถามได้หรือไม่ นายของพวกเจ้าเป็นใครหรือข้ารู้สึกคุ้นหน้าเหลือเกิน”

“คุณชายของพวกข้า มีนามว่าฮุ่ยหมิ่นเป็นนายอำเภอคนใหม่ ได้รับตำแหน่งมาประจำที่นี่เมื่อเดือนที่แล้วขอรับ” บ่าวชายผู้แบกคุณชายเป็นผู้ตอบท่านหมอ

“ไอ้หยา! ข้าว่าแล้วทำไมถึงได้คุ้นหน้าเหมือนเคยพบที่ใดมาก่อน” ท่านหมอถึงกับต้องตบเข่าดังฉาด พร้อมกับถามต่อ

“แล้วท่านนายอำเภอไปทำอันใดมา ถึงได้โดนงูกัดได้เล่า”

“คุณชายออกสำรวจพื้นที่และดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านขอรับ พวกข้าไปปลดเบากลับมาก็พบคุณชายโดนงูกัดแล้วขอรับ” พวกเขาทั้งสองรู้สึกผิดนัก หากไม่ปล่อยคุณชายไว้ก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้

“โอ้ เป็นเช่นนี้หรอกหรือ พวกเจ้าถือว่าทำได้ดีและรอบคอบนัก ที่รักษาเบื้องต้นได้ดีและยังนำงูตัวนั้นมาด้วย” โดยปกติชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่นัก หากถูกงูกัดก็จะตกใจและรีบมายังโรงหมอ กว่าจะรู้ว่าเป็นงูชนิดใด บางคนก็สิ้นใจก่อนด้วยพิษงูไปเสียแล้ว

“มิใช่พวกข้าหรอกขอรับท่านหมอ มีสตรีน้อยผู้หนึ่งช่วยไว้และให้พวกข้านำงูมาด้วย นางบอกว่าเผื่อเป็นประโยชน์ในการรักษาขอรับ” พวกตนซาบซึ้งในน้ำใจของสตรีน้อยผู้นั้น หากไม่ได้นางช่วยไว้เสียก่อนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าคุณชายจะเป็นเช่นไรบ้าง

“นางช่างเป็นสตรีที่น่าสนใจ ชาวบ้านธรรมดาคงจะไม่มีความรู้และความสามารถเช่นนี้” แม้แต่ท่านหมอก็ยังให้ความชื่นชมในความสามารถ หากชาวบ้านทั่วไปมีความรู้ในการรักษาเบื้องต้นก็จะช่วยอีกทาง

หลังจากที่ฮุ่ยหมิ่นได้พักฟื้นกว่าหนึ่งชั่วยาม ชายหนุ่มได้รู้สึกดีขึ้นมากจึงได้กลับจวนนายอำเภอ

จางฮุ่ยหมิ่นเป็นบุตรชายคนรองของตระกูลจาง ต้นตระกูลเป็นแม่ทัพใหญ่ดูแลปกป้องบ้านเมืองทุกรุ่น มีพี่ชายสืบทอดตำแหน่งแทนบิดา เดิมทีตัวเขาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นคอยถวายงานรับใช้ข้างกายองค์รัชทายาท

เพราะอำเภอฉงชิ่งขาดผู้ปกครองจึงส่งฮุ่ยหมิ่นมาดำรงตำแหน่งแทน จนกว่าจะหานายอำเภอคนใหม่ที่มีความสามารถมากพอ หากเมื่อเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถได้แล้ว ฮุ่ยหมิ่นจะถูกเรียกตัวกลับไปทำงานยังเมืองหลวงเช่นเดิม

“อาฉือ อาเปา พวกเจ้าไปสืบดูซิว่าแม่นางผู้นั้นเป็นใคร” ถึงอย่างไรเขาต้องขอบคุณ และตอบแทนผู้มีพระคุณให้ได้

“ขอรับคุณชาย” สองบ่าวได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนาย จึงได้รีบเร่งไปที่ว่าการอำเภอ เพื่อค้นรายชื่อในทะเบียนราษฎร์ ว่าแม่นางที่นายของพวกเขาให้ตามหาอยู่ที่ใด

ด้านลี่อินที่เดินออกมาพ้นจากแนวป่าแล้ว หญิงสาวได้นำของที่หาได้ไปเก็บที่กระท่อมหลังน้อยก่อน ล้างเนื้อล้างตัวให้เรียบร้อยก่อนจะไปรับบุตรสาวกลับบ้าน ป่านนี้เจ้าลูกหมีน้อยของนางคงจะงอแงร้องหาตนแล้ว

“เสี่ยวเหลียนแม่มาแล้ว” ลี่อินร้องเรียกเจ้าตัวน้อยมาแต่ไกล เมื่อเห็นว่าท่านป้าเจียงพานางออกมานั่งรออยู่ใต้ร่มไม้หน้าบ้าน คงจะออกมารอนางกระมังนั่งชะเง้อคอมองซะขนาดนั้น

“ยาย แม่” มือน้อยๆ ชี้มาทางมารดา เพื่อบอกให้ท่านยายเจียงรู้ว่าท่านแม่มาแล้ว ทั้งยังยิ้มจนเห็นฟันสองซี่ที่เพิ่งจะขึ้นอีกด้วย

“พอเจอหน้าแม่ลืมยายอย่างข้าเลยนะเสี่ยวเหลียน” ป้าเจียงเอ่ยหยอกเย้าเด็กน้อย พอเสี่ยวเหลียนได้อยู่ในอ้อมกอดมารดา ทั้งอ้อนทั้งหอมไม่สนใจนางอีกเลย

“ขอบคุณท่านป้ามากนะเจ้าคะ ที่ช่วยดูแลเสี่ยวเหลียนให้ข้า” ลี่อินโค้งตัวเล็กน้อย ขอบคุณที่ป้าเจียงช่วยดูแลบุตรสาวให้ระหว่างที่นางเข้าป่า

“ไม่เป็นไร เสี่ยวเหลียนก็เหมือนหลานข้าคนหนึ่ง” อยู่กับเสี่ยวเหลียนนางไม่เหงาเลยสนุกเสียด้วยซ้ำ

“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะท่านป้า” เมื่อเห็นว่ารบกวนท่านป้าเจียงมานานแล้ว หญิงสาวจึงได้ขอตัวลาท่านป้าเจียงจะได้พักผ่อนเสียที

พอกลับมาถึงกระท่อมหลังน้อย ลี่อินจึงจับเสี่ยวเหลียนอาบน้ำ ก่อนจะปล่อยให้นั่งเล่นรอนางทำอาหารมื้อเย็น วันนี้นางจะทำข้าวต้มใส่ไข่ก็พอเพราะนางก็เหนื่อยมาทั้งไว้แล้ว อยากจะรีบพักผ่อนเต็มที

เสี่ยวเหลียนเมื่อข้าวต้มไข่เข้าปากดูเหมือนว่าอาหารมื้อนี้จะถูกใจนางมาก เด็กน้อยอ้าปากรอให้มารดาป้อน พอไม่ทันใจมือน้อยๆ ก็จะคว้าช้อนจากมือมารดาให้ได้ เผลอแป๊บเดียวข้าวต้มไข่ในถ้วยก็หมดในที่สุด หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาให้กับความตะกละของบุตรสาว

ยามซวี (19.00-20.59 น.) เสี่ยวเหลียนหลับไปแล้วนางคงจะเล่นทั้งวันจนเหนื่อย เดาว่าระหว่างรอลี่อินเข้าป่าคงจะไม่ยอมนอนกลางวันเป็นแน่ วันนี้จึงไม่ต้องกล่อมเจ้าลูกหมีนอนให้ยาก กินอิ่มหนังท้องตึงรออาหารย่อยไม่นานเจ้าเด็กจอมตะกละก็ผล็อยหลับไป

ลี่อินที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเช่นกัน จึงได้ล้มตัวนอนแต่ในขณะพลิกตัวกลับมาอีกทาง สายตานางกลับเห็นแสงอะไรวิบวับอยู่ตรงมุมห้องพอดี จึงได้ลุกขึ้นไปดูด้วยความสงสัย

“นี่มัน มาได้อย่างไร” ลี่อินทั้งตกใจและแปลกใจในคราวเดียว แต่ที่แน่ๆ นางดีใจเสียมากกว่า

สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าร่างบางมันคือกระเป๋าเดินทางในโลกก่อน ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้

“โอ๊ยเจ็บ” ด้วยคิดว่าตนฝันไปจึงลองบิดแขนดู ปรากฏว่ามันเจ็บมากจนมั่นใจแล้วว่าคือเรื่องจริง

ลี่อินไม่รอช้า นางรีบปราดเข้าไปหากระเป๋าเดินทางใบโต รูดซิปกระเป๋าออกดูข้างในมีสิ่งของอยู่ครบเหมือนเดิมหรือไม่

“ขอบคุณสวรรค์อย่างน้อยท่านก็ไม่ได้ใจร้ายกับข้าเกินไป” หญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้า อย่างน้อยของทุกอย่างก็อยู่ครบ แม้ของด้านในบางอย่างจะนำมาใช้ประโยชน์กับภพนี้ไม่ค่อยได้ก็เถอะ

ภายในกระเป๋ามีทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋าเงิน และกระเป๋าเครื่องประดับจำพวกหยก ที่นางหาซื้อมาเพราะความชื่นชอบในความสวยของมัน และยังเป็นเครื่องประดับที่นิยมในจีนด้วย โสมที่ซื้อมาเพราะความสงสารก็ยังอยู่ครบ

ลี่อินรีบเปิดดูกระเป๋าเงินของตนดู ในโลกก่อนนางใช้เงินในการเที่ยวเยอะมาก จำได้ว่าเงินที่เหลือในกระเป๋าใบเล็กเหลือเงินสดเพียงหนึ่งพันบาท แต่ใจนางก็ไม่ได้ดีใจอะไรเพราะถึงมีเงินจำนวนนั้นแล้วอย่างไร มันก็ไม่สามารถนำมาใช้ในโลกมิตินี่ได้อยู่ดี

“แม่เจ้า” ลี่อินเผลอร้องเสียงดัง รีบเอามือยกขึ้นปิดปากเมื่อนึกได้ว่าบุตรสาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เกรงว่าจะรบกวนการนอนของเสี่ยวเหลียน

เงินจำนวนหนึ่งพันบาทภายในกระเป๋าตอนนั้น บัดนี้มันได้กลายเป็นตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงในโลกมิติที่นางมาอาศัยอยู่ ไม่ใช่ว่ามีแค่หนึ่งใบมันกลับมีเป็นปึก ลี่อินเจ้ารวยแล้วแบบนี้ตนกับเสี่ยวเหลียนก็ไม่ต้องอดตาย นางสามารถปรับปรุงบ้านใหม่ และยังซื้อที่จำนวนห้าหมู่ที่นางตัวนางอยากจะได้แล้ว

เป็นเช่นนี้นางก็ไม่ต้องทะลุมิติมาเพื่อสู้ชีวิตแล้ว นางทะลุมิติมาเพื่อรวยชัดๆ แต่ตอนนี้ลี่อินกำลังคิดไม่ตกว่า นางจะเก็บเจ้ากระเป๋าใบใหญ่นี่ไว้ที่ใด หากคนมาเห็นจะขโมยไปหรือไม่ ถ้ามันหายไปแล้วปรากฏออกมาตามใจนึกได้คงจะดี

แต่แล้วภาพตรงหน้าหญิงสาวกระเป๋าเดินทางใบนั้น ได้หายวับไปทันทีตามที่ใจนางต้องการ พอลี่อินอยากให้มันปรากฏออกมาก็เป็นไปตามที่นางนึกคิดจริงๆ

ด้วยความสงสัยหากว่ามันจะเป็นไปตามที่นางนึกคิดจริง หญิงสาวจึงได้ลองเอาเห็ดหลินจือแคระลงไปในกระเป๋า ที่เรียกว่าเห็ดหลินจือแคระก็เพราะว่ามันแห้งแกร็นจนเหลืออยู่นิดเดียว

ปรากฏว่ามันสามารถใส่ของจากโลกนี้เข้าไปได้อย่างที่คิดไว้จริงๆ อีกทั้งเห็ดหลินจือกลายเป็นสีเข้มขึ้น ดอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับว่ามันมีชีวิตใหม่อีกครั้ง และไม่ว่าลี่อินจะนำสิ่งใดมาใส่เข้าไปมันก็สามารถบรรจุได้โดยไม่รู้จักเต็ม

ของที่นำไปใส่ก็เพิ่มจำนวนมากอีกตามจำนวนของสิ่งของที่ใส่ไป มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ตัวนางที่เคยอ่านนิยายแนวทะลุมิติ แล้วคนที่ทะลุเข้าไปมีของวิเศษ ลี่อินได้แต่คิดมาตลอดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ มาวันนี้นางได้เจอกับตัวแล้วมันช่างวิเศษจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel