ปรารถนา ที่ 3 การปรากฏตัวของน้องสาวบุญธรรม
ปรารถนา ที่ 3
การปรากฏตัวของน้องสาวบุญธรรม
น้องสาวแสนรัก
“คุณหนูอย่าวิ่งเจ้าค่ะ เดี๋ยวหกล้ม! คุณหนู!”
จิงเหอและสาวใช้อีกสองคนวิ่งตามนายหญิงตัวน้อยของจวน บุตรสาวคนเล็กผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตระกูลหลี่ พลางหอบหายใจแรงเพราะวิ่งอย่างไรก็ตามไม่ทันเสียที
“ข้าไม่เหนื่อยเลย ข้าวิ่งได้เต็มฝีเท้า ข้าสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดโดยไม่อึดอัด ข้าชอบความรู้สึกที่สายลมเย็นปะทะใบหน้าข้าเหลือเกิน”
วิ่งพลางกางแขนออกราวกับนกน้อยที่เพิ่งได้รับอิสรภาพให้โผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างกายที่แข็งแรง วิ่งเร็วปราดเปรียว ปีนป่ายต้นไม้เก่งกาจราวกับบุรุษ แต่เหตุอันใดจู่ๆ นางจึงล้มป่วยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะค่อยๆ สูบผอมลงทุกปีๆ อย่างน่าหวาดหวั่น
“ท่านพ่อ!”
นางส่งเสียงหวานเอื้อนเอ่ยเรียกบิดาที่เพิ่งเดินลงจากรถม้า แน่นอนว่าทันทีที่ผู้เป็นบิดาได้ยินเสียงก็รีบละทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในมือ แล้วยอบกายลงเล็กน้อยกางแขนออกเพื่อรอรับบุตรสาวที่กำลังจะกระโจนเข้าหาอย่างรวดเร็ว
“ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลย”
“เจ้าตัวเล็กของพ่อ วันนี้ช่างปากหวานเสียจริง”
ประมุขหลี่หัวเราะร่วนอย่างถูกอกถูกใจ ด้วยความที่บุตรสาวคนเล็กช่างอ้อนช่างฉอเลาะ จึงทำให้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยชีวิตชีวา อีกทั้งยังคอยตามใจนางไปเสียทุกอย่าง
บางครั้งก็แอบหวั่นว่านางจะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจ ทว่ายิ่งเติบโตนางก็ยิ่งฉลาดแสนซน เป็นที่รักของทุกคนในจวน ไม่เคยแสดงกิริยามารยาทหยาบคายหรือดูถูกผู้ที่มีฐานะต่ำกว่าเลยสักครั้ง
นับว่าบุตรสาวคนเล็กเติบโตขึ้นอย่างดงามเลยทีเดียว
“คิดถึงท่านพ่อที่สุดเลย”
ซุกใบหน้าเล็กๆ ลงกับไหล่หนากว้างของบิดา ก่อนที่หยาดน้ำตาจะหยาดหยดออกมาพรั่งพรูราวกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า
“เจ้าตัวเล็กร้องไห้ทำไมกัน”
“ข้าคิดถึงท่านพ่อเจ้าค่ะ”
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเหยเกจากการร้องไห้จนสะอึกสะอื้น ประมุขหลี่จึงรีบอุ้มบุตรสาวขึ้นแนบอก ปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยให้หยุดร้องไห้
“พ่อขอโทษที่ครานี้ออกเดินทางไปเสียหลายวัน ต่อไปพ่อจะไม่จากเจ้าไปไหนนานๆ อีกแล้วนะ ดังนั้นอย่าร้องไห้เลย น้ำตาของเจ้าทำให้หัวใจของพ่อคนนี้เจ็บปวดยิ่งนัก”
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้น แล้วยื่นจมูกเชิดรั้นไปหอมแก้มบิดาฟอดใหญ่ ใบหน้าของนางซีดขาว ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก
ภาพศพของบิดา พี่ชาย และสามี นอนเรียงรายอยู่ในโลงศพยังคงจำติดตาไม่คลาย วันนั้นนางล้มทั้งยืนด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
แต่จะทำอย่างไรได้เล่า บิดาและพี่ชายของนางทำงานอยู่ฝ่ายกลาโหม เมื่อมีศึกสงครามติดพันหลายปี และไม่มีวี่แววว่าจะเอาชนะได้ ท่านทั้งสองจึงถูกเกณฑ์ออกไปรบ และไม่อาจมีชีวิตรอดกลับมาอีกเลย
ขนาดสามีของนางที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจที่สุด เป็นดั่งปีศาจร้ายกระหายสงคราม เขาก็ยังพ่ายแพ้จนไม่อาจเอาชีวิตรอดกลับมาจนทำให้ตระกูลต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของญาติผู้พี่ที่มีนิสัยโลภโมโทสัน
ย้อนกลับมาครานี้ นางต้องรู้ให้ได้ว่าเหตุใดกองทัพที่เกรียงไกรจึงได้พ่ายแพ้แก่ศึกในครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งไม่ให้บิดา พี่ชาย และสามีต้องเสียชีวิตเฉกเช่นในชาติก่อน
/ชื่อเอ๋อร์จะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ หากได้พบกับน้องบุญธรรม ข้าชักหนักใจเสียแล้วสิ นางเป็นบุตรสาวคนเล็กมาโดยตลอด อาจทำให้รู้สึกหวงแหนบิดา หวงแหนมารดา หวงแหนพี่ชาย อาจกลัวว่าจะถูกแย่งความรักไป ข้าต้องทำให้ชื่อเอ๋อร์เห็นว่าถึงอย่างไรข้าก็รักนางมากที่สุด นางจะได้คลายความกังวลลง/
คนตัวเล็กที่ยังซุกหน้าอยู่กับไหล่กว้างของบิดาถึงกับอมยิ้มเมื่อได้ยินความคิดของบิดาดังขึ้น
บิดาของข้าช่างแสนอ่อนโยนเหลือเกิน ท่านคิดถึงความรู้สึกของคนในครอบครัวเสมอ เป็นชายที่เหมาะสมยิ่งกับคำว่าสุภาพบุรุษ เป็นสามีที่ไม่มีอนุภรรยาจวนจึงร่มเย็นเป็นสุขไม่มีสงครามระภายใน และที่สำคัญเป็นบิดาที่ใจดีกับบุตรธิดาเรื่อยมา
