บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เหลียงชีเหนี่ยวผู้อ่อนหวาน

บทที่ 4

เหลียงชีเหนี่ยวผู้อ่อนหวาน

ดอกบัวขาว

“ละ...แล้วอาการของพี่สะใภ้เป็นอย่างไรบ้างหรือเจ้าคะพี่หย่วนเจ๋อ”

เหลียงชีเหนี่ยวเงยหน้าขึ้นจากแผงอกกว้าง ก่อนจะเอ่ยถามชายคนรักดั่งกำลังห่วงใยคนป่วยเหลือคณา

“นางเสียสติไปแล้ว นางอาละวาดและด่าทอพี่หยาบคาย”

แม้จะไม่อยากเล่าแต่ท้ายที่สุดหลี่หย่วนเจ๋อก็จำต้องเล่าออกมาอย่างเสียไม่ได้

“พะ...พี่สะใภ้กล้าด่าพี่หย่วนเจ๋ออย่างหยาบคายด้วยหรือเจ้าคะ นะ...เหนี่ยวเอ๋อร์คิดว่ามีแต่เหนี่ยวเอ๋อร์ที่ถูกพี่สะใภ้พูดจาหยาบคายเพราะเกลียดชังมาโดยตลอดเสียอีก”

หญิงสาวสุมไฟลงไป ทั้งที่แท้จริงแล้วฮูหยินหลี่ไม่เคยแม้แต่จะตะคอกใส่นางแม้เพียงครึ่งค่ำ คนที่โง่เช่นนั้นนะหรือจะหาญกล้าต่อปากต่อคำกับนางได้

หลี่หย่วนเจ๋อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาแต่งงานกับฟางหรงมาสามปีแต่กลับไม่รู้จักนิสัยใจคอของผู้เป็นภรรยาเลย นี่สินะนิสัยลูกพ่อค้าร้านตลาด ต่ำช้าไร้การศึกษา แตกต่างจากเหลียงชีเหนี่ยวซึ่งเป็นบุตรสาวที่เกิดจากขุนนาง แม้จะอาภัพสูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่สายเลือดที่ดีก็ทำให้ชีเหนี่ยวเติบโตมาอย่างงดงามดุจดอกไม้แรกแย้มในฤดูใบไม้ผลิ

“ดูท่าแล้วล้มป่วยครั้งนี้คงทำให้สมองของนางได้รับการกระทบกระเทือน หากนางยังไม่หายจากอาการคลุ้มคลั่งพี่อาจต้องขังนางไว้ที่เรือนร้าง”

“โถว...พี่สะใภ้ช่างอาภัพและน่าสงสาร เหนี่ยวเอ๋อร์รู้สึกเศร้าใจเหลือเกินเจ้าค่ะ”

แสร้งสะอื้นซุกหน้าเข้าหาแผงอกเพื่อซ่อนรอยยิ้มร้ายของตนเอาไว้ เพราะอีกไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของนางก็จะกลับคืนสู่นางอีกครั้ง

ว่าแล้วนางต้องไปยั่วยุนังชั้นต่ำฟางหรงเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อที่มันจะได้ถูกขังที่เรือนร้างเร็วขึ้นไปอีก อีกทั้งนางยังได้เรียกร้องความสงสารจากท่านอาและพี่หย่วนเจ๋อ นับว่ายิงธนูนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยทีเดียว

“น้ำแกงโอสถมาแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน”

เสียงของซื่อมู่ทำให้สตรีที่จมจ่อมสู่ห้วงภวังค์แห่งความแค้นเงยหน้าขึ้น ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยช้ำที่ข้างแก้มและข้อมือ

ไม่ต้องถามก็เดาได้ไม่ยากเลย ว่าซื่อมู่คงถูกคนครัวของสกุลหลี่รังแกมา ทุกครั้งที่ซื่อมู่ต้องการวัตถุดิบดีๆ มาปรุงอาหารให้ผู้เป็นนายก็มักจะถูกทำร้ายตบตีเช่นนี้เสมอๆ ชาติก่อนนางจึงขอร้องไม่ให้ซื่อมู่ทำอาหารมีค่ามีราคาอีกเพื่อป้องกันการถูกข่มเหงรังแก

ทว่าชาตินี้นางจะไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว

“เจ็บหรือไม่อามู่”

มือเรียวซีดขาวยื่นไปสัมผัสแก้มของซื่อมู่ ดวงตาของฮูหยินฟางหรงแวววับด้วยความแค้นเคือง

“บ่าวชินเสียแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน”

ซื่อมู่ตอบพลางฉีกยิ้มกว้างด้วยไม่อยากให้เจ้านายต้องเป็นห่วงตนไปมากกว่านี้ เพราะทุกครั้งที่เจ้านายพยายามจะปกป้องนาง ตัวเจ้านายเองก็จะตกเป็นเป้าให้คุณหนูเหลียงและฮูหยินผู้เฒ่าหลี่โจมตีถากถางเรื่อยมา

“ความคุ้นชินนี้ของอามู่ทำให้ข้าเจ็บปวดนัก ใครที่มันทำอะไรกับเจ้าไว้ ข้าจะเอาคืนแทนเจ้าเป็นร้อยเท่าพันเท่า อามู่...ข้าสัญญา!”

แววตาของเจ้านายสาวทำให้ซื่อมู่รู้สึกหวาดหวั่น วิธีการพูดจาที่เคร่งเครียดดั่งคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ดวงตาที่กร้านกระด้างดั่งมองเห็นความทุกข์ยากนานา ช่างแตกต่างจากเจ้านายสาวที่นางรู้จักเสียเหลือเกิน

แม้ซื่อมู่จะแปลกใจและไม่คุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของเจ้านายสาว แต่ก็รู้สึกอุ่นวาบขึ้นที่กลางอกอย่างน่าประหลาด อีกทั้งยังนึกดีใจที่เจ้านายของนางเลือกที่จะรักและปกป้องตนเองบ้างแล้ว

“แค่ฮูหยินใส่ใจ บ่าวก็มีความสุขมากแล้วเจ้าค่ะ”

ดวงตาของฮูหยินหลี่หม่นแสงลง ยิ่งสาวใช้เจียมเนื้อเจียมตัวมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งสงสารและเจ็บใจที่ไม่อาจปกป้องคนของตนได้

“ดื่มน้ำแกงโอสถก่อนเถอะเจ้าค่ะฮูหยิน ประเดี๋ยวจะเย็นชืดเสียก่อน”

“อืม ขอบใจนะอามู่”

ฟางหรงตั้งใจดื่มน้ำแกงจนหมดถ้วย เพื่อหมายฟื้นฟูร่างกายให้มีเรี่ยวแรง คิดจะแก้แค้นมีสมองอย่างเดียวเห็นจะไม่ได้ แต่ต้องมีพละกำลังด้วย โดยเฉพาะแรงมือแรงตีน!

เตรียมพร้อมตั้งรับนังดอกบัวข้าวที่คงกำลังใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว

“พี่สะใภ้...”

สิ้นสุดการคาดคะเน เสียงหวานเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก็ดังขึ้น ร่างบอบบางอรชรก้าวย่างเข้ามาอย่างเชื่องช้างดงาม เดินเข้ามาทั้งนายทั้งบ่าวโดยไม่คิดจะเคาะประตูขออนุญาต ฉายชัดว่าไม่ได้ให้การเคารพเจ้าของเรือนดั่งที่ปากว่า

ฮูหยินหลี่ฟางหรงแทบไม่ต้องหันไปมองด้วยจำเสียงหวานสดใสนี้ได้เป็นอย่างดี นางเพียงหยักยิ้มที่มุมปาก พลางคิดในใจว่า...

‘รีบเร่มาเร็วเช่นนี้ คงจะมาตรวจดูด้วยตาตนเองว่าข้าเป็นบ้าจริงหรือไม่สินะ’

“ได้ยินว่าพี่สะใภ้ฟื้นจากไข้แล้ว เหนี่ยวเอ๋อร์จึงได้ตั้งใจเคี่ยวน้ำแกงโอสถมาให้เจ้าค่ะ สมุนไพรที่ใช้เคี่ยวกับเนื้อปลาทะเลหายากนี้เป็นสมุนไพรราคาแพงยิ่งนัก ฤทธิ์ของมันน่าจะช่วยพี่สะใภ้ฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี”

เหลียงชีเหนี่ยวเอื้อนเอ่ยอย่างใส่ใจ ทั้งที่แท้จริงแล้วนี่เป็นน้ำแกงปลาที่เหลือค้างคืนหาได้ผ่านการเคี่ยวกรำอย่างที่อวดอ้างสรรพคุณแต่อย่างใด

“จริงเจ้าค่ะฮูหยิน คุณหนูเหลียงใส่ใจกับน้ำแกงโอสถถ้วยนี้เหลือเกิน”

สาวใช้คนสนิทของเหลียงชีเหนี่ยวรีบสมทบทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel