บทที่ 9 ในที่สุดก็มีมิติเหมือนมารดา 1/1
ในวันที่ตระกูลฟงได้รับข่าวน่ายินดี เมื่อมีจอหงวนคนใหม่อยู่ในตระกูลแม่ทัพใหญ่ การหารือเรื่องงานเลี้ยงจึงเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน จินเยี่ยนหลิงกับแม่สามีช่วยกันทำงานไม่ให้ตกหล่น รายชื่อแขกที่เชิญมาร่วมงานได้มอบให้พ่อบ้านจัดการเป็นที่เรียบร้อย
มีเพียงหนังสือเชิญของตระกูลหยาง ที่สองพี่น้องฝาแฝดตระกูลฟงนำไปส่งด้วยตนเอง เพื่อเยี่ยมคารวะท่านน้ากับน้าเขย แต่สิ่งที่ทุกคนต่างรู้กันดีย่อมหนีไม่พ้นญาติผู้น้อง ไม่ว่าครั้งไหนทั้งสี่คนมักจะนั่งพูดคุยจนลืมเวลาได้เสมอ
“พวกเจ้าสองคนอย่าไปถึงงานเลี้ยงช้านักล่ะ พี่สั่งให้พ่อครัวทำอาหารที่พวกเจ้าชอบไว้หลายอย่าง ไปถึงช้าจะถูกคนอื่นแย่งกินจนหมดนะ”
“พี่เหยาเหวินท่านไม่ต้องห่วง ข้ากับพี่ใหญ่จะไปถึงเป็นคนแรกแน่นอนเจ้าค่ะ”
แต่หยางซิวหรงกลับคิดต่างกับน้องสาวเล็กน้อย “เซียนเอ๋อร์แน่ใจหรือว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่ไปถึง พี่กลับคิดว่าคงมีคุณหนูอีกหลายตระกูล ที่เร่งเร้าให้บิดามารดาพาไปร่วมงานแต่หัววัน เมื่อเจ้าไปถึงพวกนางก็เดินให้เกลื่อนจวนแล้วกระมัง”
“เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยกับอาหรงนะ นอกจากตระกูลที่เป็นมิตรกับท่านปู่แล้ว อย่างไรเสียพวกที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามจะไม่เชิญก็ไม่ได้ เพราะเป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนัก
ที่สำคัญอาจมีคุณหนูที่ไม่ชอบเซียนเอ๋อร์ของเรา พวกนางต้องแต่งกายด้วยเครื่องประดับราคาแพง เพื่อมาข่มความงามของน้องสาวพวกเราเป็นแน่” ฟงเสวี่ยหลินที่เคยเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านตามาบ้าง
ส่วนฟงเหยาเหวินกลับมีความเห็นไปอีกทาง “แต่ข้ากลับมองว่านอกจากการแต่งกายประชันความงาม คงมิใช่จุดหมายที่แท้จริงของพวกนางแน่นอน พวกเราควรระวังคุณหนูที่ตัวติดกันให้ดี ข้าคิดว่าพวกนางต้องมีแผนการมากลั่นแกล้งเซียนเอ๋อร์ ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายหากเกิดเรื่องกับเซียนเอ๋อร์ ย่อมเป็นเรื่องเล่าลือไปทั่วเมืองหลวงในชั่วข้ามคืน”
ป๊าบ! “ถูกต้องเจ้าค่ะพี่เหยาเหวิน ข้าก็คิดเรื่องนี้คล้ายกับท่านเช่นกัน การระวังตัวไว้ย่อมดีกว่าเพราะสามารถรับมือได้ทัน แต่ข้าจะเอาคืนพวกนางอย่างไรโดยไม่ให้ถูกตำหนิ ขอเวลาข้าคิดแผนการอีกสักหน่อย หากคิดออกแล้วจะรีบบอกพวกท่านทันทีเจ้าค่ะ”
หยางเฟิ่งเซียนเข้าใจสิ่งที่ฟงเหยาเหวินพูดอย่างรวดเร็ว ถึงตนจะอยู่นิ่ง ๆ แต่สตรีเหล่านั้นก็คิดลงมือกับนางอยู่ดี ดังนั้นนางย่อมทำตามปณิธานของตนเสียหน่อยแล้ว
“เอาเช่นนี้เถิด วันนี้พวกท่านกลับจวนไปกำชับกับพ่อบ้าน เพื่อจัดกำลังบ่าวไพร่ให้มากกว่าปกติ ในบริเวณที่สุ่มเสี่ยงกับการเกิดเรื่อง ส่วนแผนการของเซียนเอ๋อร์ค่อยให้หลี่เจินไปบอกพวกท่านทีหลังขอรับ” หยางหยางซิวหรงเสนอแผนการป้องกันเอาไว้อีกทางกับทุกคน
“ข้าเห็นด้วย /ข้าก็เห็นด้วย”
ฟงเสวี่ยหลินยอมรับแผนการของญาติผู้น้อง เมื่อการส่งหนังสือเชิญเสร็จสิ้นก็ถึงเวลากลับจวน พร้อมนำแผนการนี้ไปกำชับกับพ่อบ้านฟงอีกครั้ง “เช่นนั้นพวกพี่ต้องกลับจวนก่อนนะ จะได้จัดการเรื่องกำลังคนให้เรียบร้อย”
“ขอรับ /เจ้าค่ะ”
ญาติผู้น้องฝาแฝดเดินมาส่งญาติผู้พี่แค่หน้าเรือนใหญ่ เพราะทั้งสองไม่อยากให้หยางเฟิ่งเซียนต้องเดินไปถึงประตูจวน ภายหลังส่งญาติผู้พี่กลับออกไปแล้ว ด้านหลังของทั้งสองก็ปรากฏร่างของอวี้เหลียน เข้ามารายงานว่าเจ้านายของตนต้องการพบสองพี่น้องในยามนี้
“หือ อวี้เหลียนเจ้ามีอะไรกับพวกข้าสองคนเช่นนั้นหรือ”
“เรียนคุณชาย คุณหนู นายหญิงให้ข้ามาเชิญพวกท่านไปพบที่เรือนตอนนี้ขอรับ”
“อืม ขอบคุณเจ้ามากข้ากับน้องเล็กจะไปเดี๋ยวนี้”
หยางเฟิ่งเซียนทำท่าครุ่นคิดกับการไปพบมารดา ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ทั้งสองคนเฝ้ารอหรือไม่ เนื่องจากนางลองคำนวณเวลาดูแล้ว นี่ก็ครบสามวันตามที่จีจี้ได้บอกเอาไว้ “พี่ใหญ่ท่านว่าที่ท่านแม่ให้คนมาตามพวกเราสองคนไปพบ จะเกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันเอาไว้เมื่อวันก่อนหรือไม่เจ้าคะ”
“อาจใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ พวกเรารีบไปพบท่านแม่ก่อนเถิด ไปถึงคงจะรู้เองว่าใช่อย่างที่พวกเราคิดหรือไม่” หยางซิวหรงย่อมคิดไม่ต่างจากน้องสาว บางครั้งความคิดของพวกเขาก็คล้ายกันมากจนน่าตกใจ ถึงขั้นมองตาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกคนคิดจะทำสิ่งใด
“ไปเร็วเข้าพี่ใหญ่”
ซูอันที่ส่งอวี้เหลียนไปตามบุตรทั้งสองให้มาพบ กำลังนั่งรออย่างสบายใจไม่มีทีท่ากลัดกลุ้ม หรือเป็นกังวลอย่างที่มารดาผู้อื่นเป็นสักนิด จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้ามากกว่าสองคน ก็รู้แล้วว่าบุตรของตนมาถึงเรือนแล้วนั่นเอง
เสียงของหยางเฟิ่งเซียนดังขึ้นก่อนจะเปิดประตูเรือนของมารดา “ท่านแม่ข้ากับพี่ใหญ่มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านให้อวี้เหลียนไปตามพวกเรามาพบ มีเรื่องสำคัญอันใดอยากจะชี้แนะกับพวกเราหรือเจ้าคะ”
ซูอันมิได้ตอบบุตรสาวแต่หันไปสั่งการกับอวี้เหลียน “เจ้าเฝ้าด้านนอกไว้ให้ดีนะอวี้เหลียน ข้ามีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับลูก ๆ ของข้าสักประเดี๋ยว ใครกล้าไม่เชื่อฟังลงโทษทันที”
“ทราบแล้วขอรับนายหญิง”
เมื่ออวี้เหลียนปิดประตูเรือนจนสนิท และยืนถือดาบเฝ้าด้านหน้าอยู่เงียบ ๆ ซูอันถึงหันมาหาบุตรทั้งสองอีกครั้ง “เอาล่ะ ที่แม่เรียกพวกเจ้ามาพบในวันนี้ เพราะเรื่องที่รับปากเอาไว้จีจี้ทำสำเร็จแล้ว จีจี้ส่งของออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
[รับทราบเจ้าค่ะนายหญิง]
พรึบ! สิ้นเสียงคำสั่งของซูอันก็ปรากฏกล่องไม้เล็ก ๆ สี่ชิ้น และยังมีกล่องขนาดแตกต่างกันอีกสี่ชิ้นบนโต๊ะกลางห้อง หลังจากนั้นยังคงเป็นเสียงของจีจี้ ที่อธิบายว่าสิ่งของในกล่องไม้มีอะไรบ้าง