บท
ตั้งค่า

บทที่ 26 ท่านแม่มีศัตรูคิดขโมยสูตรการทอผ้าไหม 1/2

หยางซิวหรงมิได้ตอบมารดาแต่เขากลับมองไปที่น้องสาว เพื่อยกหน้าที่การตัดสินใจเรื่องนี้ให้กับนาง และแน่นอนว่าหยางเฟิ่งเซียนไม่มีทางปฏิเสธ

“ลูกกับพี่ใหญ่จะเดินทางไปแคว้นหนานหยาง และลงมือจัดการกับตระกูลฉีด้วยตนเองเจ้าค่ะ เพราะพี่เสวี่ยหลินคงต้องรับผิดชอบด้านทหาร ส่วนการค้าผ้าไหมก็ต้องฝากพี่เหยาเหวิน ช่วยดูแลแทนพวกเราสองคนไปก่อนนะเจ้าคะ”

หยางไท่หมิงได้ยินว่าบุตรสาวคนงาม ต้องการเดินทางไปแคว้นหนานหยางก็คิดเอ่ยห้าม แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าบุตรสาวมีนิสัยเหมือนมารดามากเพียงใด

“แต่ว่าเซียนเอ๋อร์เรื่องนี้มันอันตรายเกินไปหรือไม่ลูกพ่อ หากอีกฝ่ายมีอำนาจและกำลังคนมากกว่า พวกเจ้าจะหลบหนีกลับมาได้อย่างไร พ่อว่า...”

“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านอย่าลืมการสังหารคนของข้า ที่เกิดขึ้นในแคว้นหยวนซิ่งในยามนั้นสิเจ้าคะ”

[ใช่ ๆ ๆ นายท่านจะดูถูกอาวุธที่จีจี้หามาไม่ได้นะ ลองมีใครกล้าลงมือกับคุณชายและคุณหนูของจีจี้ดูสิ ทั้งแคว้นจีจี้จะส่งระเบิดให้คุณหนูทำลายให้ราบก็ยังได้นะ หึ]

“อ้อ พี่ลืมไปได้อย่างไรนะ หากมีอาวุธร้ายแรงเหล่านั้นของอันอัน พวกลูก ๆ ย่อมไม่ถูกจัดการได้โดยง่าย แต่ถึงอย่างไรพวกลูกสองคนก็ต้องระวังตัว คิดการอันใดควรรอบคอบให้มาก เข้าใจหรือไม่”

ซูอันพูดเรื่องกิจการของตระกูลจินกับบุตรทั้งสอง จนฉุกคิดขึ้นได้เรื่องเครื่องมือสื่อสารทางไกล แม้จะมั่นใจในฝีมือทั้งสองคน แต่ความเป็นห่วงย่อมของบิดามารดาย่อมเป็นเรื่องปกติ

“เรื่องการค้าพวกลูกไม่ต้องห่วงแม่จะช่วยดูแลให้ชั่วคราว เพราะอีกไม่กี่วันพี่เหยาเหวินของพวกเจ้า จะได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งขุนนางจากฝ่าบาทแล้ว จะให้มาคอยดูแลเรื่องการค้าคงไม่เหมาะนัก

ถึงแม่จะอนุญาตให้พวกลูกไปแคว้นหนานหยางได้ แต่แม่ก็ยังเป็นห่วงพวกเจ้าอยู่ดี ประเดี๋ยวแม่ลองถามจีจี้ดูสักหน่อย ว่ามีอุปกรณ์ไว้ติดต่อสื่อสารระยะไกลหรือไม่ จีจี้เจ้าคงได้ยินเรื่องที่ข้าพูดแล้ว ลองค้นหาให้ข้าว่ามีสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้บางไหม”

[นายหญิงจีจี้เตรียมไว้ตั้งแต่ได้ยินท่านพูดประโยคแรกแล้วเจ้าค่ะ นั่นก็คือป้ายหยกขนาดเล็กปุ่มตรงกลางเป็นอำพันสีแดง มีไว้กดเพื่อพูดคุยผ่านหยกสื่อสาร ไม่ว่าจะอยู่ไกลถึงต่างแคว้นก็สามารถพูดคุยได้ตลอดเวลา หากคุณชายกับคุณหนูมีเรื่องอยากปรึกษากับนายหญิง ย่อมใช้วิธีตามที่จีจี้บอกไปเจ้าค่ะ]

จีจี้ไม่พูดเปล่าแต่ส่งป้ายหยกสื่อสารออกมาบนโต๊ะ เพื่อเป็นการยืนยันว่านี่คืออุปกรณ์สื่อสารที่ตนหามาได้ เมื่อหยางเฟิ่งเซียนหยิบขึ้นมาถือไว้หนึ่งชิ้น ส่วนอีกชิ้นอยู่ในมือของซูอัน จากนั้นจึงได้ทดลองพูดคุยผ่านป้ายหยกต่อหน้าทุกคน

“เซียนเอ๋อร์ ๆ”

“ว้าววว ท่านแม่นี่มันวิเศษเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ผู้ช่วยของท่านแม่ช่างเก่งกาจยิ่งนัก หากมีเจ้าสิ่งนี้พวกท่านก็ไม่ต้องทนคิดถึงลูกกับพี่ใหญ่แล้วนะเจ้าคะ”

หยางซิวหรงกับคนสองพี่น้องตระกูลฟง ยังอดตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ แม้ก่อนหน้าจะได้รับแหวนมิติกันไปแล้วก็ตาม แต่ครั้งนี้ย่อมแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

ซูอันยื่นป้ายหยกในมือของตนให้บุตรชาย และไม่ลืมกำชับเรื่องการดูแลน้องสาวของเขา “อาหรงเจ้ารับไปสิ วันนี้พวกลูกเตรียมสัมภาระให้เรียบร้อยเสีย พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางแต่เช้า จัดการทุกอย่างได้เร็วย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด”

“ขอรับท่านแม่ ท่านไม่ต้องห่วงลูกจะดูแลน้องเล็กให้ดีที่สุด เมื่อจัดการตระกูลฉีแล้วจะรีบเดินทางกลับทันทีขอรับ” หยางซิวหรงรับปากมารดาอย่างหนักแน่น แต่ภายในใจเขารู้ดีว่าน้องสาวไม่ชอบให้ปกป้อง

ส่วนหลานชายทั้งสองมีหรือซูอันจะปล่อยให้น้อยใจ ในเมื่อญาติผู้น้องมีพวกเขาสองคนย่อมต้องมีด้วยเช่นกัน พอท่านน้าของตนยื่นป้ายหยกสื่อสารมาตรงหน้า ดวงตาสองคู่เปล่งประกายด้วยความดีใจอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณท่านน้าขอรับ /ขอบคุณท่านน้าที่เข้าใจพวกข้าขอรับ”

หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องของแคว้นหนานหยาง การแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนจึงตามมา ซึ่งหยางไท่หมิงจะทำตามที่ซูอันบอกกับตน เพื่อขอให้ฮ่องเต้มีพระวินิจฉัยเรื่องชายแดนด้วยพระองค์เอง

“เอาล่ะ อาหรงกับเซียนเอ๋อร์กลับไปเตรียมสัมภาระ ส่วนพ่อกับอาหลินจะรีบไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท แล้วก็เจ้าอาเหวินรีบกลับไปบอกท่านปู่ รวมถึงบิดาของเจ้าให้ตามเข้าวังหลวงโดยเร็วน้าเขยจะรออยู่ที่นั่น”

“ขอรับท่านพ่อ / เจ้าค่ะท่านพ่อ /ขอรับท่านน้าเขย /ข้าทราบแล้วขอรับท่านน้าเขย”

หยางเฟิ่งเซียนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเกือบลืมเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง ยังดีที่เพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าวและหันมาหาบิดามารดา “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกเกือบลืมไปเสียสนิทเรื่องที่ลูกกับพี่ชาย ช่วยกันจับตัวคนของตระกูลฉีไว้ได้ รบกวนท่านพ่อนำตัวพวกเขาไปขังไว้ หรือจะพาไปเข้าเฝ้าเสด็จปู่เพื่อยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยก็ได้เจ้าค่ะ”

พรึบ! ตุบ พรึบ! ตุบ

“เหตุใดทุกคนถึงได้หมดสติเช่นนี้ล่ะลูก?” หยางไท่หมิงเอ่ยถามบุตรสาว เมื่อเห็นหวนเจิงกับลูกน้องถูกปล่อยออกจากมิติ แต่ทั้งหมดกับสลบไสลทุกคนเสียอย่างนั้น

“แหะ ๆ ๆ ลูกให้พี่ชายทุบให้สลบก่อนเก็บพวกเขาเข้ามิติเจ้าค่ะ เพราะพวกลูกไม่รู้จะเอาตัวกลับมาได้อย่างไร จึงนึกถึงแหวนมิติของท่านแม่ที่มอบให้เจ้าค่ะ”

“อืม ดีแล้วที่ลูกยังคิดหาทางออกได้ พวกลูกไปจัดการเรื่องของตนต่อเถิด ส่วนคนพวกนี้เดี๋ยวพ่อให้อู๋ซูกับอู๋ซวนจัดการเอง”

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ”

หยางไท่หมิงหันไปส่งยิ้มบางให้ฮูหยินคนงาม และหันไปทางคนสนิทอย่างอู๋ซูที่ทำตามคำสั่งโดยไม่ต้องรอ จากนั้นหยางไท่หมิงจึงเดินตามบุตรหลานของตนออกไป

สองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญไม่น้อย การเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อหารือในเบื้องต้นย่อมสำคัญไม่แพ้กัน จะได้มีแผนการสำรองรับมือกับพวกขุนนางกังฉิน ที่จ้องหากินกับเงินทองของกองทัพได้ทันการณ์
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel