บทที่ 18 กรรมนั้นคืนสนอง 1/3
เหอฮูหยินถอยหลังมาหนึ่งก้าวยืนมองอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งเสี่ยวฮัวกลับมาพร้อมบ่าวไพร่ที่มีถังน้ำอยู่ในมือ จึงได้มีคำสั่งให้สาดน้ำเย็นเข้าไป และแยกคนออกจากกันโดยเร็วที่สุด
“พวกเจ้าสาดน้ำเย็นให้คนเหล่านี้ได้สติ จับตัวบ่าวพวกนั้นแยกไปมัดไว้ต่างหาก ฟางซื่อเจ้าไปนำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้คุณหนูทั้งสองที”
“ขอรับ /เจ้าค่ะ”
ซ่า ซ่า กรี๊ดดด แค่ก ๆ ๆ “อืมมม พวกเจ้าเป็นใครถึงมาขัดขวางเวลาความสุขของข้า อ่า ข้ายังไม่พอพวกเจ้าต้องปรนนิบัติข้าให้มากกว่านี้ อื้อออ” เซิ่งฟางเอินแม้จะถูกสาดด้วยน้ำเย็นจนเปียกไปทั่วร่าง แต่ฤทธิ์ยายังคงไม่หมดไปในทันที
หลีเยียนหรานก็เช่นกันนางพยายามสะบัดตัว เพื่อให้พ้นจากการเกาะกุมของผู้เป็นมารดา “ซี้ดดด นี่ปล่อยข้านะ ข้าต้องการบุรุษเท่านั้นมิใช่สตรีเช่นเจ้าที่ไม่มีแท่งหยก”
“เจ้าพูดอันใดออกมารู้ตัวหรือไม่ นี่มันเกิดอะไรกับพวกเจ้ากันแน่”
ชุนเพ่ยสาวใช้ของลู่ฮูหยินกระซิบบอกเจ้านาย เพราะยามนี้มีฮูหยินจากตระกูลขุนนางที่รับรู้เรื่องนี้จำนวนมาก “ฮูหยินเจ้าคะบ่าวว่ารีบพาคุณหนูกลับจวนก่อนเถิด หากนายท่านทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ บ่าวเกรงว่าฮูหยินกับคุณหนูจะรับโทสะของนายท่านไม่ไหวนะเจ้าคะ”
“เจ้าพูดถูกชุนเพ่ย”
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน หยางเฟิ่งเซียนจึงกระซิบบอกกับมารดาซึ่งคล้ายกับที่ชุนเพ่ยคิดไว้ “ท่านแม่เจ้าคะ เพื่อช่วยท่านย่าเหอมิให้รู้สึกเสียหน้าในวันนี้ เราเตรียมรถม้าส่งพวกนางกลับจวนเถิดเจ้าค่ะ”
“อืม แม่ก็คิดว่าควรเป็นเช่นที่เจ้าว่า เพราะเหล่าฮูหยินที่ตามมาล้วนเห็นอย่างชัดเจน พวกนางจะไม่แอบนินทาจนบ่าวไพร่ในจวน นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปพูดต่อนอกจวนได้หรือ”
ซูอันยกยิ้มร้ายอย่างรู้ทันพร้อมบุตรสาว ก่อนจะเดินขึ้นไปบอกกับเหอฮูหยินที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับ “ท่านป้าเจ้าคะ ข้าว่าจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบ ๆ เถิด ให้บ่าวไพร่ไปเตรียมรถม้าไว้ยังประตูข้าง เพื่อพาคุณหนูทั้งสองกลับจวนโดยเร็ว ลู่ฮูหยินและเจี่ยงฮูหยินจะได้ตามท่านหมอมาตรวจบุตรสาว ขืนปล่อยไว้เช่นนี้พวกนางอาจเป็นอันตรายได้นะเจ้าคะ”
“นั่นสินะ ยาปลุกกำหนัดถือว่ามีพิษอยู่เช่นกัน ฮูหยินทั้งสองข้าจะให้คนเตรียมรถม้าไว้ที่ประตูข้าง ท่านจะได้พาบุตรสาวกลับจวนอย่างเงียบ ๆ และตามท่านหมอมาตรวจรักษาพวกนาง ส่วนสามีของพวกท่านข้าจะให้คนไปแจ้งทีหลัง ประเดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บุตรสาวพวกท่านเสียก่อนนะค่อยไปขึ้นรถม้า”
“ขอบคุณเหอฮูหยินที่เข้าใจพวกข้า ขออภัยที่บุตรสาวของข้าทำเรื่องน่าอับอายในจวนของท่าน ไว้นางหายดีข้าจะพามาขอขมาท่านเอง” แม้จะรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึก ๆ แต่ลู่ฮูหยินกลับพูดตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น
“ข้าก็เช่นกัน ขออภัยเหอฮูหยินจริง ๆ หากหรานเอ๋อร์ดีขึ้น จะพานางมากราบขอขมาท่านที่จวนแน่นอน”
โหรวฮูหยินที่อยากมาร่วมเป็นพยาน หลังจากได้เห็นเรื่องราวกับตาตนเองแล้ว จึงแอบสะกิดฮูหยินคนอื่น ๆ เพื่อกลับออกไปโดยอ้างถึงเหล่าสามีของตนว่าจะเกิดความสงสัย ที่พวกนางหายมาด้วยกันทั้งหมด แต่ความจริงนางอยากพูดเรื่องของเซิ่งฟางเอินกับหลีเยียนหรานเท่านั้น
“เหอฮูหยินในเมื่อท่านต้องอยู่จัดการที่นี่ เช่นนั้นพวกข้ากลับไปรอท่านที่เรือนหน้าดีกว่า หากเหล่าบุรุษสังเกตเห็นอาจเกิดความสงสัยเอาได้ ว่าฮูหยินทั้งหลายหายไปที่ใด”
ฮูหยินของใต้เท้าเสี่ยวที่คันปากอยากนินทา ก็รีบเอ่ยขึ้นเพราะเห็นด้วยกับโหรวฮูหยิน “ใช่เจ้าค่ะเหอฮูหยิน ท่านก็รู้ว่าพวกบุรุษมักมีข้อสงสัยกับพวกเราได้ทุกเรื่อง”
เหอฮูหยินไม่เข้าใจคนเหล่านี้ได้อย่างไร เรื่องเช่นนี้มิใช่ว่านางไม่เคยพานพบมาก่อนเสียเมื่อไหร่กัน “ขออภัยทุกท่านที่ต้องพบเจอเรื่องนี้ในจวนของข้า พวกท่านกลับไปรอข้าที่เรือนหน้าก่อนเถิด ข้าจะให้บ่าวไพร่นำสุราชั้นดีและอาหารเลิศรสไปเพิ่มเพื่อเป็นการขอโทษนะ”
หยางเฟิ่งเซียนได้จังหวะที่จะปลีกตัวไปจากที่นี่ นางจึงเอ่ยกับมารดาด้วยเสียงที่ดังพอสมควร “ท่านแม่ลูกขอกลับไปพร้อมฮูหยินทุกท่านนะเจ้าคะ ป่านนี้พวกพี่ชายคงรอลูกอยู่นาน หากยังไม่กลับไปเกรงว่าพวกเขาจะมาตามหาด้วยตนเองเจ้าค่ะ”
ซูอันย่อมรู้ทันว่าบุตรสาวอยากกลับไปหาพี่ชายเพราะอะไร “ไปเถิด และอย่าได้พากันไปซุกซนที่ใดอีกล่ะ บอกญาติผู้พี่ของเจ้าว่ารอพบแม่อยู่ที่นั่น”
“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”
ซูอันกำชับบุตสาวเสร็จก็หันมาช่วยเหอฮูหยิน เพื่อส่งสตรีจากสองตระกูลกลับจวนของพวกนาง ส่วนหยางเฟิ่งเซียนที่เดินรั้งท้ายของกลุ่มฮูหยิน ก็เดินกลับไปอย่างสง่าผ่าเผยแต่ใบหน้าที่งดงาม กลับปรากฏความสาแก่ใจอยู่ในดวงตาหงส์คู่งาม ผู้อื่นไม่รู้แต่เหล่าพี่ชายย่อมรู้ว่า แผนซ้อนแผนของพวกตนสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย
ทางด้านใต้เท้าเซิ่งกับใต้เท้าหลีต้องขอตัวกลับจวน เมื่อมีบ่าวไพร่มาแจ้งว่าฮูหยินของตนพาบุตรสาวกลับไปก่อน และต้องการให้ใต้เท้าสองรีบตามไปโดยเร็ว เนื่องจากฮูหยินของทั้งสองมีเรื่องสำคัญต้องการหารือ พวกเขารู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลก ๆ กับคำพูดที่ได้ฟัง แต่ยังคิดไม่ออกว่าเป็นเรื่องอันใดกันแน่ แต่เมื่อได้รู้ใต้เท้าทั้งสองแทบอยากสังหารบุตรสาวของตนทันที