บทที่6 [นางร้าย หมดรัก]
หลังจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในวันนั้น เว่ยเว่ยก็ได้ถูกนำตัวส่งกลับมายังจวนสกุลหลี่ด้วยสภาพที่อ่อนแรงและมีเพียงลมหายใจที่รวยริน
การที่หัวชนเสาก็นับได้ว่าสร้างความบาดเจ็บได้มากในระดับหนึ่งแล้ว หากแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเว่ยเว่ยทรุดหนักลงไปอีก สิ่งนั้นก็คือฤทธิ์ของธูปราคะที่ยังคงค้างอยู่ภายในร่างกายของนางนั่นเอง
“ท่านแม่ทัพ! นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น เกิดสิ่งใดขึ้นกับบุตรสาวของข้า” เสนาบดีหลี่เอ่ยถามหลิวหยางด้วยความร้อนรน พร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปเพื่อประคองกอดร่างของเว่ยเว่ยที่ยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา
บุตรสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาถูกอุ้มกลับจวนมาในสภาพที่ไม่ได้สติเช่นนี้ หัวใจของคนเป็นพ่อเช่นเขาจะสงบนิ่งอยู่ได้อย่างไรกัน ความเจ็บปวดหรือความทรมานที่เว่ยเว่ยได้รับ เสนาบดีหลี่อยากที่จะรับสิ่งเหล่านั้นไว้แทนเสียเหลือเกิน
“ข้าจะอธิบายให้แก่ท่านในภายหลัง นำทางข้าไปที่เรือนของนางก่อนเถิด ข้าได้ให้คนไปตามหมอหลวงมาให้แล้ว” หลิวหยางกล่าว ก่อนที่เขาจะกระชับอ้อมกอดของตนเองกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนนี้ให้แนบกระชับมากยิ่งขึ้น
หลิวหยางเพิ่งรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วเว่ยเว่ยนั้นตัวเล็กและบอบบางมากเพียงใด เมื่อได้มีโอกาสได้ชิดใกล้กัน กลับเป็นช่วงเวลาที่เขาเกือบจะต้องสูญเสียนางไปแล้วเช่นนี้
‘เว่ยเว่ย ข้าขอโทษ ขอให้เจ้าตื่นขึ้นมาฟังคำขอโทษนี้จากข้าด้วยเถิด' หลิวหยางอ้อนวอนและเฝ้าภาวนาต่อสวรรค์ด้วยความรู้สึกผิดที่มีอยู่ภายในใจ
เป็นเพราะเขาที่ใช้ถ้อยคำทำร้ายจิตใจนางมากจนเกินไป แม้จะรู้ว่านางสำนึกผิดแล้ว แต่เขาก็ไม่หยุดที่จะเอ่ยวาจาซ้ำเติมนาง หลิวหยางอยากที่จะตีปากตนเองแรง ๆ สักร้อยสักพันครั้ง
ส่วนทางด้านเว่ยเว่ยนั้น ภายหลังจากที่ถูกนำตัวส่งกลับมายังจวนสกุลหลี่ นางก็นอนหมดสติไปนานถึงสองวันสองคืน เมื่อร่างนี้ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลี่เว่ยเว่ย สตรีผู้ที่มีนิสัยร้ายกาจของหลิวหยางก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว
เว่ยเว่ยตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำของตนเองในอีกชาติภพหนึ่ง ซึ่งชาติภพนั้น ก็คือตอนที่ดวงวิญญาณของเว่ยเว่ยได้เวียนว่ายไปเกิดในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนั่นเอง
ในช่วงที่ร่างของเว่ยเว่ยกำลังนอนหลับใหลอยู่นั้น ดวงวิญญาณของนางก็ได้ล่องลอยไปอยู่ในโลกหลังความตายอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย แม้ว่าเวลาบนโลกมนุษย์นี้ได้ผ่านไปเพียงแค่สองวัน หากแต่เว่ยเว่ยที่ตอนนั้นเป็นเพียงดวงวิญญาณกลับรู้สึกว่า เวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน นางเฝ้ามองความทรงจำตอนตนเองในชาติภพหนึ่งที่โผล่เข้ามา โดยภาพต่าง ๆ เหล่านั้นค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา จากที่นางยังเป็นเพียงเด็กสาวตัวน้อย เมื่อเวลาผ่านไป ภาพความทรงจำเหล่านั้นก็ได้พานางเดินทางมาสู่จุดสุดท้ายในชีวิต
นางเสียชีวิตด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้น เว่ยเว่ยรู้สึกเศร้าใจไม่น้อยที่ได้รู้ว่าชีวิตของนางในแต่ละครานั้นช่างแสนสั้นยิ่งนัก
ภายในความทรงจำใหม่ที่นางได้รับรู้มานั้น จึงทำให้เว่ยเว่ยได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วในภพนี้นางได้เกิดมาเป็นเพียงนางร้ายในนิยายเรื่องหนึ่งก็เท่านั้น โดยนิยายเรื่องนั้นก็คือ นิยายที่มีชื่อเรื่องว่า ดวงใจท่านเเม่ทัพนั่นเอง แต่น่าเสียดาย ที่นิยายเรื่องนั้นนักเขียนยังเขียนออกไม่จบ แต่ว่าชีวิตของนางในภพนั้นต้องสิ้นสุดลงไปเสียก่อน แม้นิยายเรื่องนั้นจะยังเขียนออกมาไม่จบ แต่เว่ยเว่ยก็พอที่จะรู้ได้ว่า ปลายทางของนางร้ายจะเป็นเช่นไร
ทุกอย่างคงจะจบลงอย่างมีความสุข หากว่าเว่ยเว่ยคือนางเอก และได้ครอบครองดวงใจของพระเอกอย่างหลิวหยาง หากแต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแท้ที่จริงแล้ว เว่ยเว่ยก็ได้รู้แล้วว่า ตนเองเป็นเพียงนางร้ายในนิยาย ไม่ใช่นางเอกที่เป็นเจ้าของดวงใจของพระเอกผู้เป็นแม่ทัพ
นางร้ายที่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรจุดจบก็มีเพียงความตายที่เฝ้ารออยู่ ความรักที่มีก็เป็นเพียงรักข้างเดียว นอกจากนี้แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่เว่ยเว่ยจะหมดสติไปนั้น ก็ทำให้นางตัดสินใจแล้วว่า นับจากนี้ นางจะไม่มีวันเดินตามเส้นทางเดิมที่ตนเองได้เคยวางเอาไว้อีกครั้งเป็นอันขาด
วาสนาที่ไม่ใช่ของนาง จะอย่างไรก็ไม่ควรที่ดื้อรั้นไขว่คว้ามาไว้เพื่อครอบครองเป็นของตนเอง
แม้จะเป็นคู่หมาย แต่ก็นางก็เป็นเพียงคู่หมายที่อีกฝ่ายมีใจชิงชังก็เท่านั้น สุดท้ายแล้วเว่ยเว่ยจึงคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่นางจะต้องปล่อยมือและคืนวาสนานี้ให้แก่ผู้ที่เป็นนางเอกของเรื่องอย่างแท้จริงเสียที
