บท
ตั้งค่า

11: สตรีบ้า(น้ำลาย) [1]

บัดนี้ไป๋เหลียนกำลังเผชิญกับเรื่องน่ารำคาญใจ เมื่อยามเดินผ่านคนในหมู่บ้านเป็นต้องจับกลุ่มนินทา เริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าของร่างถึงได้ทำเช่นนั้นกับหลี่มู่กวา คงเพราะอยากจะหนีไปให้พ้นจากคนเหล่านี้กระมัง ถึงเลือกเดินทางผิดไปชั่วขณะ

คนอย่างหลี่มู่กวาฆ่าได้หยามไม่ได้ กล้าได้กล้าเสีย หากเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเขาสามารถจัดการได้อย่างไม่ลังเล เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นางชื่นชอบ เพราะสิ่งที่บรรยายเกี่ยวกับตัวเขาล้วนเป็นสิ่งที่นางได้แค่คิด แต่ไม่เคยได้ทำมันจริง ๆ ทำงานเป็นลูกจ้างก็ได้แต่ก้มหัวยอมรับ ทั้งที่บางครั้งคนที่ผิดไม่ใช่ตนเอง

เพราะเขาเป็นคนเช่นนี้อย่างไรเล่า นางถึงได้ชอบตัวละครนี้เป็นที่สุด คิดแล้วก็ช่างน่าเศร้าเหตุใดนางไม่เข้ามาอยู่ในร่างนี้เร็วขึ้นสักหนึ่งเค่อนะ บางทีนางอาจจะได้ตามจีบแทนที่จะต้องวิ่งหนีตายก็ได้

“คนหมู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ หน้าไม่อายเสียจริง”

“ก็นั่นน่ะสิ ติงเฉิงกับซูหนี่กำลังจะหมั้นกันแล้วแท้ ๆ รู้ทั้งรู้ก็ยังจะ... เฮ้อ!” เหลียงซูเหลือบมองไป๋เหลียนด้วยความชิงชัง บุตรสาวของนางต้องว้าวุ่นใจ กลัวจะถูกสตรีบ้าผู้นี้ตามตอแยว่าที่บุตรเขยไม่เลิก พานทำให้นางเองก็ไม่สบายใจไปด้วย

“เหลียงซูเจ้าต้องระวังไป๋เหลียนไว้ให้มากนะ ถึงขั้นหลอกว่าที่ลูกเขยเจ้าไปทำมิดีมิร้ายได้ครั้งหนึ่ง นางจะต้องทำอีกเป็นแน่”

“ข้าละเห็นใจเจ้าจริง ๆ นางไป๋ก็กระไร ตอนมีชีวิตอยู่ไม่รู้ว่าได้อบรมสั่งสอนบุตรสาวบ้างหรือไม่ เหตุใดถึงได้มีนิสัยน่ารังเกียจเช่นนี้”

คำพูดของเหล่าแม่บ้านทั้งหลายพูดคุยกันไป๋เหลียนได้ยินอย่างชัดเจน เดิมทีนางก็มิใช่ไป๋เหลียนใครจะพูดอะไรย่อมไม่มีความรู้สึก ทว่าคำพูดที่ลามปามพาดพิงไปถึงคนที่ตายไปแล้วนั้น มันไม่น่าให้อภัยและไม่ควรปล่อยผ่าน ทั้งเรื่องรักสามเส้านี้ก็มิใช่ความผิดของไป๋เหลียนคนเดียวเสียเมื่อไร

จุดเริ่มต้นมันคือสองคนนั้นต่างหาก ถ้าจะโทษก็ควรโทษบุรุษสิ ถ้าติงเฉิงไม่ให้ความหวังปลิ้นปล้อนพลิกลิ้นไปมา มีหรือจะเกิดเรื่องราววุ่นวายได้ถึงเพียงนี้ ถึงไม่มีไป๋เหลียนก็คงทำกับคนอื่นอยู่ดี อย่างไรก็คงแก้ไม่ได้เพราะนั่นคือสันดานมิใช่นิสัย

“นั่นเจ้าทำอะไรน่ะ”

หนึ่งในบรรดากลุ่มแม่บ้านเอ่ยถามสตรีรุ่นลูกด้วยความแปลกใจ ยามปกติไป๋เหลียนมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านหรือไม่ก็ก้มหน้ารีบเดินหนี ทว่าครั้งนี้แปลกนักนอกจากไม่หนี ยังทำท่าทางอะไรก็ไม่รู้ราวกับผีเข้า

“ข้ากำลังสวดมนต์แผ่เมตตาเจ้าค่ะ” ไม่พูดเปล่านางกลับพนมมือแล้วทำปากพึมพำ กล่าวบทสวดแผ่เมตตาบทแล้วบทเล่า ไม่เพียงเท่านั้นในบางช่วงนางยังเป่าลมอย่างแรงใส่เหล่าแม่บ้านตรงหน้า ทั้งลมทั้งน้ำลายกระเซ็นไปทั่ว

“ว้าย! หยุดเดี๋ยวนี้นะนังเด็กบ้า” นางเหลียงซูถึงกับยกแขนเสื้อขึ้นปิดหน้า ทำท่าทางรังเกียจเป็นหนักหนา

“สกปรกนัก ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”

“พ่นน้ำลายออกมาได้ ไม่เห็นหรือไงมันโดนคนอื่นน่ะ”

เหล่าสตรีแม่บ้านต่างพากันตำหนิไป๋เหลียน นับวันก็ยิ่งทำตัวน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่เห็นใจเพราะเหลือตัวคนเดียวพ่อแม่ตายหมด จะให้ผู้นำหมู่บ้านขับไล่ออกไปจากหมู่บ้านเสียให้เข็ด สร้างแต่ความเดือดร้อนให้ผู้อื่นดีนัก

“เอ้า! ข้าก็แผ่เมตตาให้แล้วนะ เหตุใดยังไม่ไปอีก หรือบุญที่ให้ยังไม่พอเช่นนั้นต้องสวดให้มากหน่อย” ไป๋เหลียนยกมือขึ้นพนมอีกครั้ง ก่อนจะพ่นลมใส่มนุษย์ป้าทั้งสี่แรง ๆ คราวนี้ทั้งน้ำลายทั้งลมกระจายออกไปเต็มที่ ทำเอาเหล่าแม่บ้านทั้งหลายเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน หนีกระจายหลบไปคนละทาง

“หยุด พอ! ข้าบอกให้พอไงเล่า ช่างทำตัวไร้มารยาทนัก นังเด็กเหลือขอ ดีละถ้าเจ้ายังก่อความวุ่นวายไม่เกรงใจเช่นนี้อีก ข้าจะให้ท่านพี่ขับไล่เจ้าออกจากหมู่บ้าน คอยดูซิคนบ้าเช่นเจ้าจะไปอยู่ที่ไหนได้” นางเหลียงซูถึงกับตวาดใส่อีกฝ่ายอย่างเหลืออด นี่ไม่เท่ากับจงใจแกล้งกันหรอกหรือ อยากจะด่าให้หน้าหงายแต่คิดว่าด่าไปก็เท่านั้น นางจึงกระชับตะกร้าผักกำเสียจนเจ็บมือเพื่อข่มอารมณ์ไม่ให้ลงมือ ก่อนจะตัดใจสะบัดหน้าเดินหนีไปกลับบ้านเสียอย่างนั้น

เมื่อนางเหลียงซูเดินหนีไปเหล่าสหายมีหรือจะอยู่ต่อ ต่างพากันมองไป๋เหลียนพลางค้อนขวับวิ่งตามสหายไปติด ๆ

“อ้าว ไปแล้วหรือเจ้าคะ ข้ายังแผ่เมตตาไม่จบเลย สงสัยผลบุญที่ได้คงจะแรงรีบไปเชียว คิก คิก” ไป๋เหลียนหัวเราะคิกคักชอบใจเป็นการใหญ่ รู้จักข้าน้อยเกินไปเสียแล้ว จำเอาไว้ไป๋เหลียนคนนี้จะไม่ยอมให้รังแกได้อีก ไม่ต้องมาไล่ข้าหรอกอย่างไรเสียข้าก็ไม่อยู่ที่นี่รอความตายแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel