ข่มรักเมียแต่ง

101.0K · จบแล้ว
Kids room
50
บท
83.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หลังจากส่งบ่าวสาวเข้าหอตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศไทย ซึ่งต่อจากธรรมเนียมประเทศญี่ปุ่น จึงเหลือเพียงฮัททสึและมีนาอยู่ในห้องด้วยกันสองคน “ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย “มีนาพึมพำถามตัวเองอยู่บนเตียงใหญ่ด้วยความกระวนกระวาย หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำจนรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว ซึ่งฮัททสึหนีเข้าห้องน้ำตั้งแต่เข้ามาแล้ว แกร๊ก ~~ ระหว่างนั้นบานประตูห้องน้ำก็เปิดออก พลันให้หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งตัวโหยงตกใจกับเสียง แล้วหันขวับมองด้านหลังโดยอัตโนมัติ ก็เจอกับร่างสูงของฮัททสึที่ยืนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนสีดำ เซตผมหน้าม้าขึ้นอย่างหล่อเหลาเตรียมตัวออกไปเที่ยว ทั้งที่เป็นคืนเข้าหอของตัวเองแท้ ๆ “มองทำไม!? “เจ้าของใบหน้าหล่อตะคอกถามอย่างไม่สบอารมณ์ ครั้นสบเข้ากับนัยน์ตาคู่งามที่ฉายแววหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด “เปล่าค่ะ” ฟิ้ววว ~ แหวนแต่งงานถูกชายหนุ่มโยนมากลางเตียงใหญ่ “ฉันให้ เผื่อเธอจะได้เอาไปขายแลกเป็นเศษเงิน” “ฉันไม่ได้ต้องการ! “มีนาอึ้งอยู่สักพักก่อนจะดันตัวลุกโต้เถียงอย่างไม่พอใจ ยามที่ถูกเขาพูดเชิงดูถูก “แล้วแต่มึงดิ “ฮัททสึไหวไหล่ ก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจท่าทางของหญิงสาว ทำเอามีนาถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ในหัวอยากจะฟาดคนปากหมาหยาบคายด้วยรองเท้าแตะซะเต็มประดา

นิยายรักแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆดราม่ามาเฟีย18+นิยายปัจจุบันแต่งงานก่อนรักโรแมนติก

ตอนที่ 1 บทนำ

บทนำ

หนึ่งปีที่แล้ว

“ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนนอกจาก เมจิแฟนผม! “ชายหนุ่มโพล่งขึ้นเสียงดุดัน ใบหน้าอันหล่อเหลาฉายแววเกรี้ยวโกรธ นัยน์ตาตาคมกริบจ้องผู้เป็นพ่อตาเขม็ง

“แต่แกต้องแต่งกับลูกสาวของคุณทัศ เขามีพระคุณกับครอบครัวเรา!”

“ฮึ ๆ มีพระคุณ? “เจ้าของใบหน้าหล่อแค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมาอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนอารมณ์ ตามด้วยประโยคอันร้ายกาจ “แต่ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ จนต้องเอาลูกสาวมาเร่ขายเพื่อชดใช้แทนเนี่ยนะ ยัยเด็กนั่นก็คงระริกระรี้อยากแต่งงานกับผมจนตัวสั่น ถึงได้ยอมพ่อตัวเองเอาง่าย ๆ”

“หุบปากเน่า ๆ ของแกซะ! ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูมีนา ถ้าแกยังดื้อด้านทุกอย่างที่เป็นของแกหรือแม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้น ฉันจะทำลายมันทิ้งให้หมด แกเองก็รู้จักนิสัยฉันดีนะ..เพราะฉะนั้นก็คิดเอาเองว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง! “ชายวัยกลางคนยื่นคำขาดด้วยถ้อยคำข่มขู่ และเมื่อจบประโยค จึงเดินหนีไปทันที ปล่อยให้ลูกชายได้ไตร่ตรองถามไถ่ตัวเอง

ฮัททสึ กำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดนูนขึ้นมา พลางกัดกรามดังกรอด~ จนเห็นเป็นสันกรามเด่นชัด อารมณ์เดือดดาลภายในใจปะทุหนักกว่าเดิมเมื่อฟังประโยคของผู้เป็นพ่อ หัวใจแกร่งบีบรัดแน่นจวนปวดหนึบ ยามที่ต้องห่างเหินจากคนรัก หนำซ้ำยังถูกบังคับแต่งงานกับเด็กที่มีอายุเพียงสิบเจ็ดปี คราวนี้คงจนมุมแล้วจริง ๆ หากผู้เป็นพ่อไม่ใช้คนรักเข้ามาต่อรองก็อย่าหวังว่าตนจะยอม

“…”

…….

วันแต่งงาน (ประเทศญี่ปุ่น)

“อึก~ฮื้ออ~ “หญิงสาวในชุดแต่งงานชิโรมุคุสีขาว สวมกอดผู้เป็นแม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก อยู่ในห้องรับรองบ้านของฝ่ายเจ้าบ่าว “นา..ไม่อยากแต่งงาน..อึก~~ “

“แม่ขอโทษนะลูกที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย “ฝ่ามือหยาบของผู้เป็นแม่ลูบหลังปลอบประโลมลูกสาว ด้วยหัวใจที่แทบแตกสลาย ยามเห็นหัวแก้วหัวแหวนต้องเจ็บปวดร้องไห้เพราะต้องฝืนใจ “ลูกสาวของแม่เก่งอยู่แล้วเนอะ แม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นนะลูกรัก “สองมือประคองใบหน้าหวานที่เลอะเปรอะเปื้อนด้วยเม็ดน้ำตาขึ้นมา พลางใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน

แกร๊ก ~~

ขณะเดียวกันบานประตูก็ผลักเข้ามาพร้อมกับร่างใหญ่ของชายวัยกลางคน “หยุดร้องได้แล้วยัยมีนาพิธีงานแต่งใกล้เริ่มแล้ว “

“ไม่ร้องแล้วนะลูก”

หญิงสาวพยักหน้าให้ผู้เป็นแม่อย่างเข้าใจ แววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง จากนั้นเธอจึงเดินคล้องแขนผู้เป็นพ่อเข้ามาในพื้นที่แท่นบูชาหน้าบ้านฝ่ายชาย เพื่อทำตามขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ณ สถานที่ตรงนี้ ไม่มีแขกคนอื่นร่วมด้วย มีเพียงเหล่าลูกน้องที่ยืนเฝ้าตามจุดบริเวณบ้าน เพราะงานถูกจัดขึ้นเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากเจ้าสาวยังอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ จึงยังไม่ต้องการจัดให้งานเอิกเกริก

“แกไปรับน้องมานั่ง “เมื่อลูกชายยังนิ่งเฉยเอาแต่นั่งทำหน้าเคร่งขรึมไร้อารมณ์ ผู้เป็นพ่อจึงเดินเข้ามากระซิบสั่ง

ฮัททสึ ไม่ตอบแต่ดันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง สาวเท้าเข้าหาเจ้าสาวด้วยท่าทางขึงขัง แววตาคมจ้องมองหญิงสาวตาเขม็ง พลางกัดฟันแน่นข่มอารมณ์จนเห็นสันกรามปูดนูนชัดเจน แม้ว่าเธอคนนั้นจะสวยน่ารักมากแค่ไหนก็ตาม แต่กลับไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มหลงใหลได้เลยแม้แต่น้อย

หมับ !

“อ๊ะ! “มือใหญ่กระชากต้นแขนเล็กออกจากท่อนแขนแกร่งของชายวัยกลางคนแล้วบีบรัดอย่างแรง จนหญิงสาวต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบราวกับกระดูกจะแตกหัก พึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกในงานแต่ง ชายหนุ่มก็แสดงท่าทางป่าเถื่อน โดยไม่สนใจสายตาของใครหลายคู่ที่จ้องมองมา

ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวหนักกว่าเดิม เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาดุดันคู่นั้น จนเผลอรอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอโดยอัตโนมัติ หนำซ้ำดวงตาสุกใสยังเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาจวนจะหลั่งไหลออกมาเต็มที

“เจ็บไหมลูก “ทัศเอ่ยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่สามารถต่อว่าลูกชายของเจ้าหนี้ได้ แม้ภายในใจจะเจ็บแค้นแทนลูกสาวมากเพียงใดก็ตาม

มีนาไม่ได้ตอบสิ่งใดเพียงแต่ก้มหน้าหลบสายตาผู้เป็นพ่อเท่านั้น

“แม่ง! “ฮัททสึ สบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างรำคาญ ทั้งที่มือใหญ่ยังบีบต้นแขนของหญิงสาวแน่น “ทำตัวน่าสงสารอยู่ได้ว่ะ รำคาญสัส!”

“แกอย่ามาทำตัวต่ำทรามนะไอ้ฮัท! “คาทสึทนไม่ไหว รีบเร่งเข้ามาปรามลูกชายตัวดี

ฮัททสึ ดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วปล่อยมือออกจากต้นแขนหญิงสาว โดยไม่ตอบโต้ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินตรงไปที่หน้าแท่นพิธีเช่นเดิม คาทสึจึงส่ายหัวเอือมระอา

“ขอโทษคุณทัศ คุณปรีดา แล้วก็หนูมีนาด้วยนะครับ”

“ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ เจ้าฮัทคงเครียดเรื่องงานด้วยน่ะค่ะ “จีร่าแก้ต่างให้ลูกชายต่อจากสามีด้วยความเกรงใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นลูกหนี้ก็ตาม แต่พวกเขาก็เคยช่วยชีวิตเธอและสามีเมื่อหลายปีก่อนครั้งไปคุมงามที่บริษัทประเทศไทย

“ผมเข้าใจครับ”

“หนูมีนาไม่เป็นอะไรนะลูก”

“ค่ะ “มีนาตอบรับอย่างสุภาพ ทั้งที่ภายในใจเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและสิ้นหวัง ไม่ทันได้ใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นก็ต้องมีสามีเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่อายุสิบเจ็ดปี หนำซ้ำยังต้องมารับมือกับสามี ที่ดูท่าทีเขาคงเกลียดและไม่ชอบเธอมากเช่นกัน ดูจากการกระทำรวมถึงวาจาเมื่อสักครู่

เวลาต่อมา ~~

เมื่อทำพิธีข้างต้นเสร็จเรียบร้อยจึงดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย ที่ทั้งคู่ต้องสวมแหวนแต่งงานให้กัน

“ฮัททสึหยิบแหวนในกล่องใส่ให้น้องสิลูก “ จีน่าบอกเจ้าลูกชาย เมื่อฮัททสึเอาแต่นั่งทำหน้าถมึงทึงบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจอย่างเปิดเผย แต่ก็ยอมหยิบแหวนจากกล่องตามคำของผู้เป็นแม่

กรึก !

มีนานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อถูกมือใหญ่กระชากมือเพื่อสวมแหวน หนำซ้ำยังบีบแน่นราวกับต้องการให้แหลกละเอียด เธอได้แต่ข่มอาการเหล่านั้นไว้แล้วเงยหน้าจ้องคนใจร้ายอย่างเกลียดชัง โดยที่อีกคนไม่แม้จะชายตามองมาที่เธอ

“มีนาสวมแหวนให้พี่เลยลูก “ปรีดาบอกลูกสาว

มีนาหยิบแหวนและสวมให้ ฮัททสึ ก่อนจะจิกเล็บลงหลังมือเพื่อเป็นการเอาคืน ทำให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นจ้องเขม็งส่งสายตาอำมหิตมาให้ราวกับจะกินเลือกกินเนื้อ แต่เธอก็ไม่สนใจเลือกที่จะเบือนหน้าหนีแทน

หลังจากจบสิ้นพิธีตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ทุกคนจึงเข้ามารวมตัวกันอยู่ในห้องอาหารเพื่อพูดคุยกันตามประสา

“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับ เมื่อไหร่ที่หนูมีนาอายุครบสิบแปดปี ผมจะให้ทั้งสองย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเดียวกันที่ประเทศไทย หลังจากที่เจ้าฮัทไปรับตำแหน่งประธานบริษัทที่นู่น “คาทสึย้ำข้อตกลงอีกครั้งกับครอบครัวอีกฝ่าย ซึ่งครอบครัวของพวกเขาต่างก็พูดภาษาไทยกันได้อย่างคล่องแคล่ว

ในขณะที่ลูกชายและลูกสะใภ้เอาแต่นั่งอยู่เงียบ ๆ ไม่มีใครหยิบจับอาหารตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งสีหน้าทั้งคู่อมทุกข์ไม่ต่างกัน

“ครับคุณคาทสึ “ทัศตอบรับ

“ครับ ระหว่างนี้ผมจะให้เจ้าฮัททสึรับตำแหน่งรองประธานที่นี่หนึ่งปี รอจนกว่าหนูมีนาจะอายุครบ ผมจะส่งตัวเจ้าลูกชายผมไปที่เมืองไทยทันทีครับ “คาทสึอธิบายต่อ

“สำหรับผมยังไงก็ได้ครับ ตามที่ตกลงกันไว้เลย”

“ค่ะจี..ว่าเรามาทานข้าวกันดีกว่าค่ะ “ภรรยาของคาทสึเอ่ยขึ้นทุกคนจึงพยักหน้ารับ “ฮัทลูกตักอาหารให้น้องสิคะ”

ฮัททสึตักอาหารให้ภรรยาตัวเองที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างไม่เต็มใจ

มีนาระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างอ่อนจิตอ่อนใจ พยายามกล้ำกลืนฝืนทนยอมจำนนกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ เธอต้องเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อตัวเองและครอบครัว

เวลาต่อมา ~~

หลังจากส่งบ่าวสาวเข้าหอตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศไทย ซึ่งต่อจากธรรมเนียมประเทศญี่ปุ่น จึงเหลือเพียงฮัททสึและมีนาอยู่ในห้องด้วยกันสองคน

“ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย “มีนาพึมพำถามตัวเองอยู่บนเตียงใหญ่ด้วยความกระวนกระวาย หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำจนรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว ซึ่งฮัททสึหนีเข้าห้องน้ำตั้งแต่เข้ามาแล้ว

แกร๊ก ~~

ระหว่างนั้นบานประตูห้องน้ำก็เปิดออก พลันให้หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งตัวโหยงตกใจกับเสียง แล้วหันขวับมองด้านหลังโดยอัตโนมัติ ก็เจอกับร่างสูงของฮัททสึที่ยืนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนสีดำ เซตผมหน้าม้าขึ้นอย่างหล่อเหลาเตรียมตัวออกไปเที่ยว ทั้งที่เป็นคืนเข้าหอของตัวเองแท้ ๆ

“มองทำไม!? “เจ้าของใบหน้าหล่อตะคอกถามอย่างไม่สบอารมณ์ ครั้นสบเข้ากับนัยน์ตาคู่งามที่ฉายแววหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด

“เปล่าค่ะ”

ฟิ้ววว ~

แหวนแต่งงานถูกชายหนุ่มโยนมากลางเตียงใหญ่ “ฉันให้ เผื่อเธอจะได้เอาไปขายแลกเป็นเศษเงิน”

“ฉันไม่ได้ต้องการ! “มีนาอึ้งอยู่สักพักก่อนจะดันตัวลุกโต้เถียงอย่างไม่พอใจ ยามที่ถูกเขาพูดเชิงดูถูก

“แล้วแต่มึงดิ “ฮัททสึไหวไหล่ ก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจท่าทางของหญิงสาว ทำเอามีนาถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ในหัวอยากจะฟาดคนปากหมาหยาบคายด้วยรองเท้าแตะซะเต็มประดา