ตอนที่4 ผลตอบแทน
ช่วงสายๆ ของวันเวกัสกลับมาที่ห้องขังของพลับพลึงอีกครั้ง จานข้าวเปล่าถูกเขาปล่อยจากที่สูงจนบางส่วนกระเด็นหกจากจาน
เสียงจานกระทบกับพื้นทำให้พลับพลึงค่อยๆ ได้สติตื่นขึ้นมา พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ข้าวเปล่าและน้ำดื่ม
“กินซะ”
“.....” ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบกับดวงตาเย็นชาไร้เยื่อใย ก่อนจะก้มมองจานตรงหน้าอีกครั้งอย่างอดหวนนึกถึงอดีตไม่ได้
“กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ”
“พลับโตแล้วเถอะ”
“พี่เห็นแค่สองที่ที่พลับโต”
“ทะลึ่ง!”
“หึ! กินเข้าไป ของดีๆ มีประโยชน์ทั้งนั้น”
แล้วดูตอนนี้สิ ข้าวเปล่าไม่มีแม้แต่รสชาติน้ำปลาคลุกเลยด้วยซ้ำ อาหารที่เขาให้เธอมาตลอดตั้งแต่มาเป็นนักโทษของเขา แต่มันนับว่าเขาใจดีแล้วใช่ไหมที่ยังให้ข้าวเธอกิน ให้น้ำเธอดื่ม
“.....” เวกัสเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวใหม่มุมห้อง หยิบบุหรี่มาสูบพร้อมมองกดดันให้พลับพลึงทำตามคำสั่ง
“.....” มือบางขยับไปหยิบจานข้าวมาถือไว้ก่อนจะกินเหมือนทุกครั้ง
เธอหิวและต้องมีแรงเพื่อตัวเอง แม้มันจะฝืดคอ แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรตกถึงท้อง
ใช้เวลาไม่นานพลับพลึงก็จัดการข้าวเปล่าในจานจนหมด กระดกน้ำดื่มไปกว่าครึ่งขวด
เวกัสเห็นแบบนั้นก็ก้มกดโทรศัพท์ในมือตัวเองไม่กี่ที พร้อมกับโยนมันลงพื้นอย่างไม่กลัวจะเสียหาย ทำให้โทรศัพท์เครื่องหรูของเขาตกอยู่ตรงหน้าของพลับพลึง
“ดูสิ” คำบอกเล่าของเขาดังขึ้นพร้อมกับมุมปากกระตุกขึ้นเบาๆ แทบดูไม่ออก
พลับพลึงเห็นแบบนั้นก็หันเหความสนใจมาที่โทรศัพท์อีกครั้ง ยื่นมือไปหยิบมันมาดูหน้าจอที่สว่างอยู่ตั้งแต่แรก
“!” ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น
“ผลตอบแทนแรกเริ่ม” คนบนเก้าอี้ไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด ครั้งนี้ยกยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบังแล้วบอกเธอ
“พี่ทำอะไรแม่พลับ บอกมานะ!” พลับพลึงฝืนร่างกายที่หนักอึ้งของตัวเองยืนขึ้น ก้าวตรงไปหาเวกัสราวกับสัตว์ตัวน้อยกำลังคลุ้มคลั่ง ถามเขาอย่างต้องการคำตอบ
ภาพของแม่เธอนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
“ก็ยังไม่ตายไม่ใช่?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นถามโดยไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ไร้ความสำนึกผิด ไร้ท่าทางทุกข์ร้อนหรือกลัวความผิด
“พี่ทำอะไรแม่ บอกพลับมา!” มือบางกระชากคอเสื้อของเขาที่ตอนนี้ความสูงพอๆ กับเธอเพราะเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ กำคอเสื้อแน่นราวกับพร้อมซัดหมัดเล็กใส่หน้าของเขาตลอด
“.....” เวกัสยังไม่ตอบ ยกยิ้มขณะสบตากับเธอด้วยท่าทีที่ไม่ได้หวาดกลัวหรือหวั่นใจใดๆ เลยสักนิด
แต่แค่เธอมีแรงเดินก็นับว่าเก่งแล้ว จะเอาแรงที่ไหนมาทำร้ายเขาได้ หรือถ้าทำจริงจะสักแค่ไหนกัน
“บอกพลับมาเดี๋ยวนี้ ฮึก! แม่พลับอยู่ที่ไหน!!!” เธอกระชากคอเสื้อถามเขาเสียงสะอื้น ทุบหมัดลงอกแกร่งเต็มแรงตัวเอง
แต่กลับไม่สะเทือนให้เขาเจ็บเลยสักนิด
“จะรีบร้อนกลัวอะไรขนาดนั้น รอให้แม่เธอใกล้ตายก่อนแล้วค่อยโวยวายเสียน้ำตาก็ไม่สายไปหรอก” ครั้งนี้เวกัสลุกขึ้นยืน ปัดมือเล็กออกจากคอเสื้อของเขาอย่างง่ายดาย พูดกับเธออย่างไร้เยื่อใยราบกับคนไร้หัวใจ
“.....” พลับพลึงมองคนตรงหน้าทั้งน้ำตา มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เธอรู้ว่าอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่ได้คำตอบ สุดท้ายก็เลือกจะหมุนกายวิ่งเพื่อไปหาแม่ด้วยตัวเอง
หมับ!
“ปล่อย! บอกให้ปล่อย!!!” แต่เธอพึ่งวิ่งได้ไม่ถึงสามก้าวก็ถูกแขนแกร่งรั้งท้องแบนราบแล้วยกขึ้นอุ้มเดินเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของห้องอีกครั้ง ปล่อยเธอลงอย่างไม่เบานักจนอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัวล้มลงกับพื้น
แต่ตอนนี้เธอไม่รู้จักเจ็บแล้ว เธอรู้จักความกลัวเพียงอย่างเดียว อยากกลับไปหาแม่ให้สบายใจ อยากรู้ว่าแม่เป็นยังไงบ้าง พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นแต่เวกัสกลับขวางเธอไว้ไม่ให้ก้าวไปไหนได้
“หลีกไป! ฮึก! พลับจะไปหาแม่!” สองมือพยายามผลักดันเขาให้พ้นทาง แต่ไม่รู้เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงหรือว่าเขาพละกำลังมหาศาลกันแน่ เธอถึงทำอะไรเขาไม่ได้เลย
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอให้ฉันส่งแม่เธอเข้าไอซียูเหมือนเมียฉันเมื่อไหร่...”
“ฉันจะยอมปล่อยให้เธอเห็นร่างแม่เธอ”
