8 ความหวังดีของว่าที่ลูกเลี้ยง
ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้วที่เจโรมพยายามจะทำให้บิดาและศศิภัทรยกเลิกงานแต่งงานแต่ดูเหมือนแผนของขามันจะดำเนินไปค่อนข้างช้า
ตอนนี้เหมือนแพรเข้าไปทำงานที่บริษัทของคุณอนันต์แต่ความสัมพันธ์ของบิดาและว่าที่เจ้าสาวยังไม่สั่นคลอนเลย คนของชายหนุ่มรายงานว่าศศิภัทรกับบิดาของเขาไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะมาทานข้าวที่บ้าน
วันนี้ก็เหมือนเช่นเดิมสาธิตโทรศัพท์มาบอกเขาว่าเย็นนี้บิดานัดศศิภัทรมาที่บ้านเพื่อคุยรายละเอียดเรื่องงานแต่งที่เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น
เจโรมรีบเคลียร์งานและขับรถไปยังบ้านของบิดาโดยไม่สนว่าจะได้รับเชิญหรือไม่
“ทำอะไรอยู่เหรอครับพ่อ”
“เจโรม นึกยังไงมาหาพ่อได้ล่ะ พ่อนึกว่ากลับสิงคโปร์ไปแล้วนะ”
“รู้สึกว่าพ่ออยากให้ผมรีบกลับจังเลยนะครับ ไม่อยากให้ผมอยู่ร่วมงานแต่งงานเหรอ”
“ปกติพ่อเห็นมาทำงานไม่กี่วันก็กลับ”
“อย่าเพิ่งเบื่อผมเลย ผมคงอยู่อีกไม่กี่วันหรอกครับ ที่มาวันนี้ก็แค่อยากจะมากินข้าวกับพ่อสักมื้อ” เขาคุยกับบิดาขณะที่สายตาก็มองไปรอบๆ บ้านและยังไม่เห็นแม้แต่เงาของศศิภัทร
“แกหิวหรือยังล่ะเจโรม”
“ไม่เท่าไหร่ครับ พ่อล่ะ”
“ถ้ายังไม่หิวก็รออีกหน่อยนะ”
“ได้สิ ว่าแต่รออะไรครับพ่อนัดใครมาหรือเปล่าถ้าเป็นนัดสำคัญจะให้ผมกลับก่อนก็ได้นะครับ ผมไม่อยากให้พ่อเสียงาน” เขาทำทีเป็นเกรงใจ
“พ่อมีนัดสำคัญแต่ไม่ใช่เรื่องงานหรอก”
“สำหรับพ่อแล้วเรื่องงานสำคัญที่สุดไม่ใช่เหรอครับ หรือตอนนี้มีอะไรที่สำคัญกว่างาน”
“ความสุขในบั้นปลายของชีวิตคือสิ่งที่สำคัญสำหรับพ่อในตอนนี้”
“แล้วความสุขที่ว่าคืออะไรเหรอ”
“หนูซีซีไงล่ะ นั่นไงพูดถึงก็มาเลย” คุณอนันต์ยิ้มเมื่อเห็นว่าที่ภรรยาเดินเข้ามาในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะคุณอา อ้าว...คุณเจโรมก็อยู่ด้วยเหรอคะ สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มหวานทักทายชายสองคนในห้องรับแขก
“สวัสดีครับคุณซีซี คุณคงไม่ว่าอะไรนะครับถ้าเย็นนี้ผมจะทานข้าวกับคุณและพ่อด้วย”
“ฉันจะว่าอะไรล่ะคะ”
“หนูซีซีหิวหรือยังล่ะ”
“หิวแล้วค่ะ คุณอาล่ะคะ ซีซีขอโทษนะคะที่ให้รอนาน” ศศิภัทรเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ คุณอนันต์แล้วทำเสียงอ้อน
“ไม่เป็นไร วันนี้เหนื่อยไหม”
“นิดหน่อยค่ะ”
“อาไม่อยากให้ซีซีไปทำงานเลย”
“ซีซียังสนุกกับงานค่ะ มันเหนื่อยก็จริงแต่พอได้พักก็หายเหนื่อย”
“แต่หลังแต่งงานอาอยากให้ซีซีลาออกมาเป็นดูแลอา มาเป็นแม่บ้าน อาจะให้เงินเดือนมากกว่าโรงพยาบาลห้าเท่าตกลงไหม”
“ไม่ต้องให้เงินเดือนซีซีหรอกค่ะ ซีซีเต็มใจดูแลคุณอาอยู่แล้ว”
“ผมหิวแล้วไปทานข้าวก่อนดีไหมครับ” เจโรมพูดแทรกขึ้นเพราะรู้สึกขัดใจกับการแสดงออกของบิดา
ทุกคนย้ายไปที่โต๊ะอาหาร เจโรมจงใจเลือกนั่งตรงข้ามศศิภัทรเพื่อจะสังเกตการณ์ได้อย่างเต็มที่ อาหารอร่อยถูกปากแต่เจโรมไม่ได้สนใจเท่าไหร่
“พ่อครับช่วงนี้งานยุ่งไหม”
คำถามของลูกชายทำให้คุณอนันต์มองด้วยความแปลกใจเพราะปกติเจโรมไม่ค่อยสนใจงานของเขาเท่าไหร่
“ก็เรื่อยๆ นะ”
“คุณเหมือนแพรล่ะครับ เธอทำงานดีไหม”
“แกรู้ได้ยังไงว่าเหมือนแพรไปทำงานกับฉัน”
“ผมรู้ก็แล้วกันน่า ผมยังได้ยินมาด้วยว่าพ่อกับเธอสนิทกันมากและไปทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ” เจโรมพูดแล้วสังเกตท่าทางของศศิภัทรที่ดูไม่ทุกข์ร้อน ท่าทางเธอเย็นชาและอ่านยาก
“พ่อก็แค่ไปทานข้าวไม่มีอะไรมากกว่านั้น แกอย่าพูดให้ซีซีเข้าใจผิดสิเจโรม”
“คุณอาไปทานข้าวกับเธอเหรอคะ”
“ใช้จ้ะ อาไปทานข้าวกลางวันกับเธอเพราะอาเป็นคนชวนเธอมาทำงานช่วงแรกเธอยังไม่ค่อยมีเพื่อนร่วมงาน อาขอโทษนะที่ไม่เล่าเรื่องนี้ให้ซีซีฟัง อาคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญ” คุณอนันต์รีบแก้ตัว
“ถ้าคุณอาบอกว่าไม่สำคัญซีซีเชื่อคุณอาค่ะ ถึงแม้ซีซีจะไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้คุณอาแต่ก็เชื่อใจคุณอาค่ะ”
คำพูดของศศิภัทรทำให้เจโรมรู้สึกว่าแผนของเขามันคงไม่เข้าท่า ถึงแม้เหมือนแพรจะสนิทกับบิดาของตนมากแต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้ท่านเปลี่ยนใจ แต่มันกลับทำให้บิดามองผู้หญิงคนนี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมหลงใหล
“อาได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ ถึงอาจะสนิทกับผู้หญิงคนอื่นบ้างแต่สุดท้ายแล้วอาก็จะแต่งงานกับซีซี”
เจโรมมองไปที่ศศิภัทรเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวแต่ ไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงยิ้มและทำตัวปกติ
“คุณซีซีไม่หึงบ้างเหรอครับ”
“ทำไมฉันต้องหึงด้วยคะ”
“ก็ผู้หญิงทุกคนที่แต่งงานกับผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างพ่อของผมก็ต้องหึงเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าฉันเชื่อใจคุณอาค่ะ คุณอาคงไม่ทำให้ซีซีเสียใจใช่ไหมคะ” ศศิภัทรพูดพลางหันไปอ้อนคุณอนันต์ต่อ
“แน่นอน อาจะไม่ทำให้ซีซีเสียใจและงานแต่งของเราจะเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุดงานหนึ่งเลยทีเดียว”
คำพูดของคุณอนันต์ทำให้ศศิภัทรยิ้มอย่างพอใจที่แผนของเธอกำลังจะสำเร็จ
“ซีซีดีใจที่ได้ยินแบบนี้ค่ะ ซีซีก็อยากให้คนพูดถึงงานแต่งของเรา เสาร์นี้คุณอาว่างไหมคะ ซีซีอยากชวนคุณอาไปลองชุดค่ะ ทางร้านแจ้งว่าเขาแก้เขาเรียบร้อยแล้ว”
“สำหรับซีซีอาว่างเสมอแล้วพรีเวดดิ้งล่ะซีซีเลือกหรือยัง”
“ซีซีว่าถ่ายในสตูก็ได้ค่ะ คุณอาจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ศศิภัทรไม่อยากออกไปถ่ายที่อื่นเพราะกลัวเพื่อร่วมงานของเธอจะรู้เรื่องที่เธอกำลังจะแต่งงานมีแค่ตัวเธอและพิมพ์ดาวรู้กันแค่สองคน แม้กระทั่งมารดาของตนเองศศิภัทรก็ไม่ได้บอก และคุณอนันต์รู้แค่ว่าเธออยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
ศศิภัทรและคุณอนันต์พูดคุยกันราวกับว่าไม่เจโรมนั่งอยู่ด้วย ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดมากแต่ก็ทนนั่งจนมื้ออาหารจบลง
ทั้งสามคนย้ายกลับมานั่งที่ห้องรับแขกอีกพักใหญ่ศศิภัทรก็ขอตัวกลัว
คุณอนันต์บอกเด็กรับใช้ให้ไปเรียกคนขับรถแต่เจโรมกลับอาสาจะไปส่งศศิภัทรเอง
“ให้ผมไปส่งว่าที่เจ้าสาวของพ่อดีไหมครับ”
“แกไม่มีนัดที่ไหนเหรอ”
“ผมนัดเพื่อนกินเหล้าไว้ครับ แต่คิดว่าไปส่งว่าที่แม่เลี้ยงก็คงไม่เสียเวลาเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าเธอกลัวที่จะไปกับผม”
“มีอะไรต้องกลัวล่ะคะคุณเจโรม อีกไม่นานคุณก็จะเป็นลูกเลี้ยงของฉันแล้ว สนิทกันไว้ก็ดีค่ะ”
“พ่อฝากส่งเธอให้ถึงหอด้วยนะ”
“ได้ครับพ่อ”
“ซีซีไปก่อนนะคะคุณอาแล้วเจอกันวันเสาร์ค่ะ” หญิงสาวบอกลาคุณอนันต์แล้วเดินตามเจโรมมาที่รถทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
“ฉันเดาว่าคุณคงอยากคุยอะไรกับฉันคะ” ศศิภัทรถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากรั้วบ้านคุณอนันต์
“ผมก็แค่เป็นห่วงว่าที่แม่เลี้ยงของผม เลยอยากจะเตือนไว้”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องพ่อกับเหมือนแพร ผมเป็นผู้ชายด้วยกันผมดูออกนะ ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ”
“ขอบคุณที่เตือนนะคะ”