บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“คุณแม่ครับ ผม เอ่อ”

น้ำเสียงคนที่พูดอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นสายตาคาดคั้นรอฟังคำตอบอย่างจะกินเลือดกินเนื้อของคนที่นั่งตรงข้ามด้วยแล้ว รวิชรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างไรบอกไม่ถูก

คำพูดที่กำลังจะออกจากปากมีผลกับบริษัททัวร์เล็กๆ ที่เพิ่งฟื้นจากพิษสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงของโลกเมื่อไม่นานมานี้

เขาต้องคิด คิด แล้วก็คิดให้หนักๆ ก่อนจะตอบอะไรออกมา

เพราะนั่นคือสิ่งที่บอกว่าบริษัทจะอยู่หรือไป

“ว่าไง ตกลงจะทำหรือไม่ทำ” คุณหญิงมุกดาถามเสียงเข้ม สายตาจับจ้องมองชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

นางเรียกรวิชมาพบในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญให้ช่วย หลังจากที่รอคำตอบจากลูกชายตัวดีมาร่วมเดือน ไม่มีทีท่าว่าพชรจะให้คำตอบที่พอใจได้ และนางก็รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไม่มีคำตอบนั้น

แต่มันก็ไม่ยากสำหรับคนอย่างคุณหญิงมุกดา

ที่อยากจะได้อะไร แล้วไม่มีคำว่า ไม่ได้!

“ว่าไง จะคิดอีกนานไหม” หญิงวัยกลางคนย้ำ

“คุณแม่ครับ เรื่องนี้ผมไม่อยากยุ่ง ให้ผมทำอย่างอื่นดีกว่า” รวิชแอบถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับเตรียมรับสภาพว่าจะได้คำตำหนิใดๆ กลับมา

“ได้ ถ้าเธอไม่ทำงั้นฉันจ้างคนมาจัดการเอง กลับไปได้แล้ว”

ผิดคาด ! ไม่มีคำต่อว่าใดๆ สักคำ

แถมท่าทีคุณหญิงมุกดาก็ไม่ได้มีความไม่พอใจใดๆ ทั้งนั้น ซ้ำยังเอ่ยปากว่าจะหาคนมาทำแทน ว่าแต่ใครกันที่จะมารับงานนี้

“คุณแม่จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรเหรอครับ” รวิชถามเสียงเบา อยากรู้เหมือนกันว่าคุณหญิงมุกดาจะมีแผนการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร

“ก็หาคนไปจัดการ ดูว่าเหตุการณ์อำนวยอย่างไร ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากทำรุนแรงนัก ถึงได้เรียกเธอมาให้ไปทำให้ แต่ถ้าเธอไม่ทำฉันก็คงต้องใช้วิธีที่ดุดันกว่านี้แล้ว”

“เอ่อ ดุดันในที่นี้ของคุณแม่คือ” รวิชเดาใจนางไม่ถูกจริงๆ

“ก็จัดการให้ไปพ้นหูพ้นตาซะ หรือไปจากชีวิตตาเพชรได้ยิ่งดี”

“คุณแม่หมายถึง” รวิชชักเริ่มใจคอไม่ดีแล้ว

คำกล่าวของคุณหญิงมุกดาฟังดูเหมือนจะจัดการให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเร็วๆ มากกว่าการประนีประนอมอย่างที่จะให้เขาทำ

“ก็ฉันจะให้เธอไปเจรจา แต่เธอบอกว่าไม่ทำ ฉันก็ไม่รู้จะหาใครไปพูดกับตาเพชรแล้วก็ผู้หญิงคนนั้น เพราะฉะนั้นฉันก็จะไม่มีการพูดจาใดๆ แต่จะจัดการให้ตัวปัญหาไปซะก็สิ้นเรื่องสิ้นราว”

“แต่ว่าสองคนนั้นตัวติดกันแทบตลอดเวลา แล้วจะมีทางไหนที่...”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง อาทิตย์หน้าตาเพชรจะมีลูกค้ารายใหญ่มาบริษัท แม่นั่นก็ต้องกลับคอนโดคนเดียวหลายวันแน่ นี่ก็เป็นโอกาสที่ฉันจะจัดการ” คุณหญิงมุกดาวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว

“คุณแม่ครับ ผมว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เอ่อ คือ ผมขออาสาเป็นคนไปคุยกับน้องลักษณ์เองดีไหมครับ” รวิชเปลี่ยนใจแล้ว

เมื่อรู้ว่าคุณหญิงมุกดาตัดสินใจใช้วิธีรุนแรงในการแยกลักษณ์นันท์ออกจากพชร ถึงแม้ว่ารวิชจะไม่อยากยุ่งก็ทำใจไม่ได้ เพราะพชรเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นมัธยม คบหาเป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้

ส่วนลักษณ์นันท์นั้น เขารู้จากพฤติกรรมของเพื่อนว่าสาวน้อยหน้าหวานคนนี้ คือผู้หญิงของพชร แต่รวิชไม่รู้ว่าที่มาที่ไปของการพบกันของทั้งสองเป็นเช่นไร เขาเคยพบลักษณ์นันท์บ้างในบางโอกาสที่นัดกินข้าวกับพชร แต่จะว่าไปลักษณ์นันท์ก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เพื่อนพามาให้รู้จัก

เช้าวันนี้คุณหญิงมุกดาโทรศัพท์ตามให้มาพบ โดยบอกว่ามีเรื่องจะขอให้ช่วย และเมื่อมาถึงสิ่งที่นางต้องการก็คือ อยากให้รวิชไปเจรจากับลักษณ์นันท์ ด้วยการเอาเงินฟาดหัวให้หญิงสาวไปจากชีวิตของเพื่อนรัก

ด้วยเหตุผลเดียวก็คือ คุณหญิงมุกดาต้องการให้ลูกชายแต่งงานกับคนที่ตนเลือก

แน่นอนว่ารวิชตกใจและไม่คิดว่านางจะรู้เรื่องนี้ของลูกชาย เพราะพชรบอกว่าเรื่องของลักษณ์นันท์ไม่มีใครรู้ ซ้ำคุณหญิงมุกดายังอ้างถึงเรื่องความช่วยเหลือ ที่เคยให้เงินก้อนโตมาหมุนตอนที่รวิชขยายกิจการเมื่อหลายปีก่อน

โดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียวเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนรักลูกชาย บุญคุณนี้ทำให้รวิชเกรงใจและจดจำในความช่วยเหลือนี้มาตลอด

“ตกลงว่าจะเป็นคนไปพูดกับแม่นั่นให้ ใช่ไหม” คุณหญิงมุกดาถามย้ำ

“ครับ ผมจะลองคุยกับน้องลักษณ์ดู แต่ไม่รับปากจะสำเร็จเพราะว่า...”

“ฉันให้เวลาเธอสามวัน ไปจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่ถ้าทำไม่ได้ฉันจะถือว่าการเจรจาประนีประนอมไม่ผ่าน ขั้นต่อไปก็คงต้องใช้ความรุนแรงแล้ว”

รวิชอึ้งพูดอะไรไม่ออก คุณหญิงมุกดาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วลุกขึ้นเดินออกไปทันที งานนี้เห็นทีว่าเขาจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป ไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นคนที่ทำให้ชีวิตเพื่อนไม่มีความสุขแน่ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel