บทที่ 2.2
“เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” คุณหญิงมุกดาย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้ววางกระดาษใบหนึ่งตรงหน้าลักษณ์นันท์
“ไปกรอกตัวเลขได้ตามใจชอบ ต้องการเท่าไรก็เอาไป ถือเสียว่าเป็นค่าแรงค่าเสียเวลาที่เธออยู่กับลูกชายฉัน”
ลักษณ์นันท์นิ่งไม่ตอบโต้หรือเคลื่อนไหวสิ่งใดแม้แต่น้อย เช็คที่วางอยู่ก็ไม่มีการหยิบขึ้นมาดู ยิ่งทำให้คุณหญิงมุกดาโมโหจนต้องตวาดถามซ้ำอีกครั้งว่า
“เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
“เข้าใจค่ะ” น้ำเสียงที่ตอบแผ่วเบาเหลือเกิน
ลักษณ์นันท์พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา แม้ว่าในใจจะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม
“เข้าใจแล้วทำไมไม่หยิบเช็คไป หรือว่ายังไม่พอต้องการอะไรอีกว่ามาเลย ฉันให้ได้ทุกอย่างขอแค่เธอออกไปจากชีวิตตาเพชร”
“ลักษณ์ไม่ต้องการอะไรแล้วค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตามจริง
“ลักษณ์ขอแค่เวลาได้บอกคุณเพชรเองได้ไหมคะ”
“เธอจะเรียกร้องอะไรจากลูกชายฉันอีก ฉันต้องการให้เธอไปให้เร็วที่สุด เดี๋ยวนี้ได้ยิ่งดี แล้วถ้าเธอยังดื้อดึงหรือบอกตาเพชรให้มามีปัญหากับฉันล่ะก็ ฉันบอกเลยนะว่าเธอคิดผิด”
“ลักษณ์ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นค่ะ เพียงแต่อยากขอบคุณและบอกลาคุณเพชรแค่นั้น”
“ไม่เห็นจำเป็น” หญิงวัยกลางคนยักไหล่เบาๆ
“เรื่องของเธอกับตาเพชรก็แค่เรื่องอย่างว่า ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีความผูกพันอะไรเลยสักนิด หรือว่าเธอมีปัญหาอะไร” สายตาคมจ้องมองราวกับจะค้นหา
“ลักษณ์แค่อยากลาคุณเพชรเท่านั้นค่ะ” หญิงสาวยืนยันคำเดิม
“ถ้างั้นฉันจะบอกให้ เธอรับเช็คนี้แล้วรีบไปเก็บของซะ หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะไม่เห็นเธอที่คอนโดลูกชายฉันอีกนะ ถ้าไม่อยากนั้นล่ะก็ อย่าหาว่าฉันใจร้าย” พูดจบคุณหญิงมุกดาก็ลุกขึ้นก้าวเดินออกไป แต่แล้วนางก็หยุดชะงักเหมือนคิดอะไรออกหันมาพูดกับหญิงสาวต่อว่า
“ตัวเลขในเช็คฉันอนุญาตให้เธอคิดค่าเสียหายได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอตาเพชร แล้วถ้าเธอต้องการจะไปตั้งตัวเริ่มต้นใหม่ ฉันก็ยินดีจะช่วยสนับสนุนเต็มที่ กรอกตัวเลขได้ตามที่อยากได้รับรองว่าเงินเข้าบัญชีครบทุกบาททุกสตางค์แน่ และฉันหวังว่าระหว่างเธอกับลูกชายฉันจะไม่ได้พบกันอีกตลอดชีวิตนี้นะ”
เสียงฝีเท้าที่เดินจากไปเหมือนมีดที่กรีดลงหัวใจลักษณ์นันท์อย่างช้าๆ หญิงสาวปล่อยโฮลั่นอย่างสุดกลั้น น้ำตาพรั่งพรูไหลออกมาไม่ขาดสาย รู้สึกเหมือนจะขาดใจอย่างไรอย่างนั้น หมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ
“ลักษณ์”
พชรหอมแก้มสาวฟอดใหญ่ก่อนที่เธอจะลงจากรถ ส่วนเขาต้องไปกินข้าวกับลูกค้าต่อ เย็นนี้จึงกลับบ้านพร้อมกัน และแวะมาส่งลักษณ์นันท์ที่หน้าห้างสรรพสินค้าใกล้คอนโดก่อน เพราะหญิงสาวต้องการจะซื้อของใช้บางอย่าง
“คืนนี้อาจจะกลับดึกหน่อยนะ”
“ค่ะ” ลักษณ์นันท์ส่งยิ้มให้เหมือนเคย
หนังสัปดาห์ผ่านไปนับจากวันที่พบคุณหญิงมุกดา ลักษณ์นันท์พยายามคิดหาทางออกว่าจะจัดการเรื่องของตนอย่างไร แต่จนแล้วจนรอดก็ยอมรับว่าไม่อาจตัดใจจากพชรได้จริงๆ
“ซื้อของเสร็จถึงคอนโดแล้วไลน์บอกฉันด้วยนะ”
“ค่ะ คุณเพชรไม่ต้องห่วงนะคะ เดินกลับแค่นี้สบายมาก”
“แล้วเจอกัน” เขาส่งยิ้มกลับมาให้แล้วประตูรถก็ค่อยๆ ปิดเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ลักษณ์นันท์มองจนลับสายตาเหมือนเช่นทุกครั้ง
ลักษณ์นันท์ซื้อของในห้างสรรพสินค้าตามปกติ แต่วันนี้เธอรู้สึกแปลกเหมือนว่ามีใครเดินตามด้านหลังตลอด แต่เมื่อหันไปก็พบว่าไม่มีใครเป็นผู้คนที่มาเดินห้างตามปกติ
เมื่อซื้อของได้ครบตามที่ต้องการแล้ว ลักษณ์นันท์ก็ใช้ทางลัดเดินกลับไปที่คอนโด เกือบจะถึงด้านหน้าคอนโดอีกไม่กี่ก้าวๆ จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งสวนทางมากระชากกระเป๋าถือของเธอไป
ลักษณ์นันท์ยื้อกระเป๋าไว้ตนตัวเองล้มลงที่ฟุตบาท เสียงเป่านกหวีดของยามที่หน้าคอนโดดังขึ้น ชายที่ดึงกระเป๋าไว้ทีแรกปล่อยอย่างง่ายดายแต่ก่อนจะจากไป ได้ทิ้งท้ายคำพูดที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกกลัวจับใจขึ้นมาทันทีว่า
“นี่คือคำเตือนจากคุณหญิง ถ้านานกว่านี้อาจไม่ใช่แค่กระเป๋า”
