8 เซอร์ไพรส์
คุณวีพาฉันลงมาจากชั้นผู้บริหารโดยที่ไม่ต้องประจันหน้ากับท่านประธานใหญ่ได้สำเร็จ ฉันรู้สึกโล่งมากอย่างบอกไม่ถูก…โล่งในที่นี้มันไม่ใช่โล่งอกหรือโล่งใจหรอกนะ แต่มันเป็นโล่งโจ้งต่างหาก! อยากให้ลองนึกสภาพกันดู…ฉันใส่กระโปรงผ้าลูกฟูกที่ยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย แต่ข้างใน…มันว่างเปล่า เวลาที่เดินลมก็ตีเข้ามา…มันรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่หมอกจะรู้ตัวหรือยังว่ากางเกงในของฉันอยู่ในมือเขา!
“แกหายไปไหนมาวะ?” แล้วพอฉันเดินมาถึงโต๊ะทำงาน แอมเบอร์ที่กำลังวุ่นวายกับการช่วยคิวและฟางข้าวทำสไลด์สำหรับพรีเซนต์ก็ถามขึ้นมาทันที
“ไปทำธุระมาน่ะ…ทุกคนไม่ต้องเร่งทำสไลด์กันแล้วนะ ประชุมบ่ายนี้…เลื่อนออกไปเป็นมะรืนนี้เหมือนเดิมแล้ว”
“จริงดิ?”
“แต่นี่ก็กำลังจะเสร็จแล้วนะคะ” ฟางข้าวเงยหน้าขึ้นมามองฉัน
“พี่บอกว่าจะเลี้ยงเบียร์พวกเรา…อย่าเบี้ยวนะครับ” ส่วนคิวก็สนใจแต่เรื่องเบียร์
“อืม ไม่เบี้ยวหรอกน่ะ ถ้าใกล้เสร็จแล้วก็ทำให้เสร็จไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวพี่ตรวจงานเย็นนี้” ฉันบอกกับลูกทีมรุ่นน้องสองคนก่อนจะนั่งลง เตรียมทำงานของตัวเอง ขณะเดียวกันนั้นฉันก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมาที่ฉัน สายตาจับผิดของแอมเบอร์
“อยู่ๆทำไมคุณหมอกเลื่อนประชุมวะ?”
“ฮะ?”
“ฉันแค่แปลกใจ…ว่าทำไมอยู่ๆคุณหมอกเขาถึงเลื่อนประชุม”
“ไม่รู้สิ เขาอาจจะติดธุระก็ได้ เมื่อกี้ฉันเจอคุณ ไพลินเลขาคุณหมอก…เขาบอกฉันน่ะ”
“งั้นเหรอ?”
“ทุกคนครับ…” ในตอนนั้นคุณเอก ผอ.ฝ่ายการตลาดก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอบยิ้มประหลาด ฉันทำงานที่นี่มาห้าปี ประสบการณ์บอกฉันว่า…รอยยิ้มแบบนี้ของคุณเอก มันไม่ใช่รอยยิ้มปกติ มันบ่งบอกว่า…ต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่ๆ
“มีอะไรเหรอคะคุณเอก?” พี่แก้ว หัวหน้าทีมเอเอ่ยถาม
“ผมขอให้ทุกคนวางงานที่ทำอยู่ทั้งหมด แล้วตามผมไปที่ห้องประชุมแผนก ด่วนครับ” จบคำนั้นคุณเอกก็เดินออกไป ทิ้งให้พวกเราได้แต่หันมองหน้ากันอย่างงงๆ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะนับ?” พี่แก้วหันมาถามฉัน
“นับก็ไม่รู้ค่ะ” แล้วฉันก็ได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
พนักงานในฝ่ายการตลาดของเรา ถ้านับแบบคร่าวๆก็ราวๆสามสิบคน ตอนนี้พวกเรากำลังมารวมตัวกันที่ห้องประชุมใหญ่ของฝ่าย และทุกสายตาก็จับจ้องไปยังคุณเอก เพื่อรอฟังว่าที่เขาเรียกประชุมด่วนแบบนี้…มันมีเรื่องอะไรกัน
“ก่อนอื่น…ผมต้องขอบคุณทุกคน ที่ทำงานกันอย่างหนัก…และทำงานกันอย่างดีเยี่ยมมาตลอดเวลาที่ผมคุมฝ่ายการตลาดอยู่ ขอบคุณมากครับ” เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีหลังจากที่คุณเอกบอกออกมาแบบนั้น เพราะฟังยังไง…มันก็เหมือนที่เขากำลังจะประกาศลาออกยังไงก็ไม่รู้
“มีอะไรคะคุณเอก?” แล้วพี่แก้วก็คงนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว เพราะพวกเราทุกคนรู้ดี…ว่าคุณเอก ถึงเขาจะขี้เมา ถึงจะชอบลากพนักงานออกไปดื่มตอนเย็นวันศุกร์แล้วยาวถึงเสาร์เช้า แต่เขาก็เป็นนักการตลาดที่เก่งมากๆ เขามองขาดในทุกเรื่องและเขามีความเห็นอกเห็นใจพนักงานอย่างพวกเราอยู่เสมอ พูดง่ายๆว่าเขาคือหัวหน้าที่ดีมาก แน่นอน…ว่าถ้าเขาลาออกหรือโดนส่งย้ายไปที่อื่น พวกเราก็ไม่แน่ใจจริงๆว่าเจ้านายคนใหม่จะดีแบบเขาหรือเปล่า
“อย่างที่ทุกคนรู้ Ocean Group ของเรากำลังจะมีโปรเจคใหญ่กับเครือโรงแรมอมันดาริน ซึ่งก็คือคอมมูนิตี้มอล์ระดับเอเชีย แน่นอนว่าโปรเจคนี้…มันใหญ่มากๆ ทางเครือโรงแรมอมันดารินก็เลย…ยกทีมการตลาดของเขาเข้ามาดูแลเอง”
“หมายความว่ายังไงคะ?!” นี่เป็นคำถามของฉันเอง และมันเหมือนว่าฉันจะหัวร้อนจนลืมกดเสียงของตัวเองลง เลยทำให้ทุกคนหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว
“ก็หมายความว่าคุณไอริน ลูกสาวของคุณอังกูร ภรรยาของคุณหมอก…เจ้าของเครือโรงแรมอมันดาริน จะเข้ามาคุมฝ่ายการตลาดของโปรเจคใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น”
“พูดง่ายๆก็คือเรากำลังจะมีเจ้านายเพิ่มขึ้นอีกคน” พี่แก้วหันมามองหน้าฉัน ซึ่งในตอนนี้ฉันพูดอะไรไม่ออกทั้งนั้น เพราะทุกคนที่นี่…ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสักคนที่รู้! ว่าฉันเป็นลูกน้องให้ใครก็ได้ทั้งนั้น…แต่ต้องไม่ใช่คุณไอรินภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพี่หมอก!
“และคุณไอรินบอกผ่านผมมาว่าเขาจะขอแรงจากเราหนึ่งทีม…เพื่อไปดูแลการตลาดออนไลน์ให้โปรดเจคนี้โดยเฉพาะ”
“เหอะ!” ไม่อยากจะเชื่อเลย…มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าทีมฉันดูแลการตลาดฝั่งออนไลน์ ในเมื่อเขาเจาะจงมาแบบนี้…มีเหรอที่คุณเอกจะส่งทีมอื่นไป ยังไงเขาก็ต้องส่งทีมฉันไปอยู่แล้ว! ให้ตายเถอะ!
HI LIVING
มันเป็นเพราะฉันโกรธ…วันนี้ทั้งวัน ฉันเลยไม่โทรหาหรือส่งข้อความไปหาพี่หมอก และแน่นอนว่าพอเขาโทรมาฉันก็ไม่รับสายและไม่ตอบข้อความอะไรของเขาทั้งนั้น พอเลิกงานฉันก็ตรงดิ่งกลับมาคอนโดเพื่อหากางเกงในใส่…เตรียมจะออกไปดื่มกับทีมที่ เดอะ รูม เพราะฉันสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะเลี้ยงทีม ตอนนี้ฉันยังคิดอะไรไม่ออกเลย ฉันไม่อยากเป็นลูกน้องคุณไอริน…แค่แฟนของฉันต้องไปแต่งงานกับเขามันก็แย่มากแล้ว นี่ฉันยังต้องไปเป็นลูกน้องเขาอีกเหรอ?
หลังจากที่ได้กางเกงในตัวใหม่มาใส่…ฉันก็เปลี่ยนชุดจากเชิ้ตขาวกับกระโปรงลูกฟูก เปลี่ยนเป็นสายเดี่ยวสีดำกับกางเกงยีน แต่งหน้าทำผมใหม่เล็กน้อย พอลูกทีมส่งข้อความมาเร่งฉันก็รีบออกจากห้อง แต่ตอนที่กำลังเปิดประตู ฉันก็ได้เจอพี่หมอกที่เพิ่งมาถึงพอดี…เอาไงดี? ฉันยังโกรธอยู่เลย…ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับเขาด้วยซ้ำ
“ลืมอะไรเอาไว้หรือเปล่า?” พอเห็นฉัน เขาก็ยิ้มร่า ล้วงกางเกงในของฉันจากกระเป๋ากางเกงออกมาโชว์
“ไม่ตลกนะ! ทำไมไม่ยอมเอามาคืน?!” ฉันกระชากกางเกงในจากมือเขามาแล้วโยนมันลงพื้นที่มุมห้อง
“ก็…”
“นับต้องทำงาน ต้องเดินไปมา…ทั้งที่ไม่ได้ใส่กางเกงในด้วยซ้ำ!”
“ก็พี่โทรหา…ส่งข้อความหาแล้วด้วย แต่นับไม่รับสายพี่เลย แชทก็ไม่ตอบ”
“…” นั่นสินะ…
“แล้วจะให้พี่ลงไปหาที่แผนกได้เหรอ? นับบอกเอง…ว่าอยู่ออฟฟิศเราห้ามคุยกันถ้าไม่จำเป็น”
“ช่างมันเถอะ! เพราะถ้ามีใครจะมาแอบดูใต้กระโปรงนับ…เขาก็คงเห็นหมดแล้ว!”
“ทำไมต้องพูดแบบนั้น? แล้วนี่…จะออกไปไหน?”
“…” ไม่อยากจะเชื่อ นี่เขาสังเกตได้บ้างหรือเปล่านะว่าฉันกำลังหงุดหงิดเขา หงุดหงิดมากจนอยากจะกระชากหัวมากัด!
“พี่ซื้อแซลมอนมา…เดี๋ยวเรากินสเต็กกันนะ มื้อนี้พี่เข้าครัวเอง” เขาถาม แต่ก็ไม่รอฟังคำตอบ และดูเหมือนจะมองไม่ออกจริงๆว่าฉันกำลังของขึ้น เดินผ่านฉันไปที่ห้องครัวพร้อมกับถึงช้อปปิ้ง
“นับจะออกไปดื่มกับทีม…พี่หมอกกินไปคนเดียว” ฉันเดินตามเขามาที่ห้องครัว มองดูเขาด้วยที่ดูจะอารมณ์ดีจนน่ารำคาญ
“จะออกไปเมาอีกแล้วเหรอ? นี่จะต้องให้พี่ดุอีกแล้วใช่ไหม? พี่เคยบอกแล้วไง…ว่าพี่ไม่ชอบให้นับออกไปเมา” แล้วเขาที่กำลังเตรียมอาหารก็หันมาขมวดคิ้วมองหน้าฉัน รอยยิ้มหายไปแล้ว เหมือนว่ากำลังจะโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว
“ก็เพราะพี่หมอกบอกว่าจะเลื่อนประชุม! นับเลยต้องเร่งให้ทีมทำงาน…เพราะแบบนั้นก็เลยต้องออกไปเลี้ยงพวกเขา!”
“แล้วทำไมต้องขึ้นเสียง?”
“ก็เพราะว่านับโกรธ! นับโกรธมาก! แต่พี่หมอกมองไม่ออกด้วยซ้ำ! มันเลยยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาไง!”
“โกรธที่พี่ลืมคืนกางเกงในเหรอ?”
“พี่หมอก! ไม่ตลกนะ! เลิกกวนประสาทนับสักทีเถอะ!”
“งั้นนับก็บอกมาสิครับว่าโกรธอะไร…หืม? ไหนบอกมาสิ…โกรธอะไรพี่? แล้วที่โกรธนี่…โกรธจริงๆหรือแค่เพราะเมนส์ใกล้จะมา…” บทพอเขาจะรู้จักฉันดี ก็รู้ไปซะทุกอย่าง แต่พอไม่รู้…ก็ไม่รู้เลยจริงๆ เหมือนวกำลังแกล้งฉันยังไงก็ไม่รู้
“นับโกรธพี่หมอก…ไม่ใช่เพราะเมนส์ใกล้จะมา แต่นับจะไม่บอกหรอกว่าเรื่องอะไร! เพราะนับอยากให้พี่หมอกอยู่กับความสงสัยไปทั้งคืน!” เอาสิ…ฉันจะให้ทำเขาต้องทนอยู่กับความหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้บ้าง!
“นับ!” พอฉันเดินออกมาจากหน้าห้องครัว ก็ได้ยินเสียงพี่หมอกดังตามออกมา
“…” แต่ฉันจะไม่ตอบอะไรเขาทั้งนั้น
“นับ!”
เชอะ! ฉันรู้หรอกน่ะ…คบกันมาห้าปี วันไหนที่พี่หมอกลงทุนเข้าครัวทำอาหารอร่อยๆให้ฉันกิน วันนั้นคือวันที่เขาอยากจะกินฉันด้วย…พอเอาของอร่อยมาล่อฉันให้ตายใจ ก็จะทำเรื่องอย่างว่าทั้งคืน…คืนนี้ฉันจะปล่อยให้เขานอนเหงาไปคนเดียว! โทษฐานที่ปล่อยให้คุณไอริน…เข้ามาเป็นเจ้านายอีกคนของฉันไงล่ะ!
