ตอนที่ 3 บ้านที่ไม่มีใครรอ
เสียงประตูบ้านเปิดออกช้าๆ ดารัญถอดรองเท้าคู่สวยของเธอวางไว้ที่เดิม มองไปยังโถงบ้านที่มืดเกือบครึ่ง มีเพียงแสงไฟสีอุ่นจากโคมในห้องนั่งเล่นที่แม่บ้านเปิดทิ้งไว้ให้
เธอเดินเข้าไปอย่างรู้ทาง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา สองทุ่มครึ่งแล้วและเขายังไม่กลับมา
เธอไม่แปลกใจเลย ในหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาได้กินข้าวเย็นด้วยกันแค่สองวันเท่านั้น และนั่นก็แค่บังเอิญที่เขาว่าง ไม่ใช่ตั้งใจ
“คุณดารัญกลับมาแล้วเหรอคะ” เสียงทักจากแม่บ้านวัยกลางคนที่เดินออกมาจากครัวพร้อมผ้ากันเปื้อน
“กลับมาแล้วค่ะพี่วาด” ดารัญยิ้มบาง พยักหน้า
“วันนี้พี่วาดไม่กลับบ้านเหรอคะ” เธอถามแม่บ้านที่บางวันก็กลับบ้าน บางวันก็พักที่บ้านหลังนี้
“ไม่ได้กลับค่ะ พอดีช่วงนี้สามีพี่เข้ากะปกติ พี่ไม่ต้องไปนอนเป็นเพื่อนลูกแล้ว” บุญวาดวัยสี่สิบกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
“เอ่อ คุณวินโทรมาบอกว่ากลับดึกเหมือนเดิมค่ะ เห็นว่าเคลียร์งานไม่เสร็จ” คำว่า เคลียร์งาน กลายเป็นเหตุผลที่เธอได้ยินจนชินชา
ดารัญพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบน บ้านหลังนี้มันว่างเปล่าเหลือเกินเสียงนาฬิกาติดผนังยังเดินต่อไปทุกวินาที แต่เวลาของเธอกลับรู้สึกเหมือนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม
************************
ธาวินทร์กลับมาบ้านตอนเกือบตีหนึ่ง เสียงเปิดประตูเบาๆ ไม่ได้ทำให้หญิงสาวตื่น เพราะเธอยังไม่นอน
ดารัญนอนนิ่งหันหลังให้ ประสานมือไว้ใต้หมอน
ลมหายใจพยายามสม่ำเสมอแม้หัวใจจะเต้นแรงอยู่ทุกจังหวะ
การแสร้งหลับสำหรับเธอ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเธอทำมันมาตลอดสามปี เธอเคยนอนหันหลังให้เขาแบบนี้บ่อยจนมันกลายเป็นนิสัย ไม่ใช่เพราะงอน ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะไม่รู้จะมองหน้าคนที่ไม่เคยมองเธอด้วยหัวใจได้อย่างไร
เสียงฝีเท้าของเขาเดินผ่านปลายเตียง เสียงเสื้อสูทที่ถูกโยนพาดเก้าอี้ และแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเบาๆ
เธอข่มใจไว้ไม่ลืมตา จนกระทั่งได้ยินเสียงเขารับสาย พร้อมน้ำเสียงที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ฮัลโหล ลูกพีช”
ลูกพีช... สิริพิชญ์ ชื่อที่แทงลึกเข้าไปในอก เธอไม่จำเป็นต้องลืมตาก็รู้ว่าเขากำลังยิ้ม และหัวใจเขากำลังเต้น
“จริงเหรอ กลับมาเร็วขนาดนั้นเลย ผมดีใจมากเลยนะ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ เสียงนั้นอ่อนโยนจนเธอไม่อยากเชื่อว่านี่คือเสียงเดียวกันกับคนที่เคยพูดคุยกับเธอ
“ไว้ถึงแล้วโทรหานะ เดี๋ยวฉันไปรับเอง” เสียงสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น แต่คำพูดของเขาก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาดีใจมาก... ที่เธอกำลังกลับมา
ดารัญหลับตาแน่น น้ำตาที่เก็บไว้ในร่องหัวใจค่อยๆ ซึมออกมาช้าๆ เปียกหมอนโดยไม่มีเสียงสะอื้น
เธอเคยคิดว่าแค่ความดีจะชนะทุกอย่าง เคยหวังว่าสักวันเขาจะหันกลับมามอง เคยเชื่อในคำพูดของพ่อแม่ว่าอยู่ด้วยกันไป เดี๋ยวก็รักกันเอง
แต่วันนี้... เธอรู้แล้วว่า มันไม่จริงเลย
เขาไม่เคยมองเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะสายตาและหัวใจของเขาไม่เคยมีเธออยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก
และบางทีมันก็คงถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะยอมแพ้ให้กับความรักครั้งนี้ และปล่อยตัวเองออกมาจากฝันลวงที่ไม่มีวันกลายเป็นจริง
************************
เช้าวันนั้น ดารัญตื่นขึ้นเร็วกว่าทุกวัน ทั้งที่ทั้งคืนแทบไม่ได้นอนเลย
เธอลุกขึ้นจากเตียงที่ยังอุ่นเพียงครึ่งด้าน จัดหมอนพับผ้าห่มให้เรียบร้อยเหมือนที่เคยทำมาโดยตลอด มือที่เคยมั่นคง กลับสั่นน้อยๆ อย่างควบคุมไม่อยู่
เธอเดินลงไปเตรียมอาหารเช้า ทั้งที่ไม่มีเรี่ยวแรง
เสียงน้ำเดือดบนเตา เสียงหม้อแกงที่เดือดปุดๆ กลิ่นข้าวต้มที่เคยหอมกลับเหมือนชวนคลื่นไส้ แต่เธอยังทำต่อไป เพราะยังอยากยึดหน้าที่ภรรยาไว้ให้เหมือนเดิมแม้เพียงเวลาที่เหลือน้อย
ในใจเธอมีเสียงตะโกนดังอยู่เงียบๆ ว่ามันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด เขาอาจจะมีเหตุผล บางทีเขาอาจจะรักเธออยู่ เพียงแค่ไม่แสดงออก
เธอภาวนาให้ชีวิตตัวเองเหมือนในละครที่นางเอกเข้าใจผิดคิดไปเองว่าพระเอกไม่รัก ที่วันหนึ่งเขาจะยื่นมือมากอดเธอแล้วบอกว่า ขอโทษที่ปล่อยให้เธอรอ
แต่เมื่อเขาลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร สิ่งที่เธอเห็นคือ แววตาคู่นั้น สายตาที่ไม่หลบเลี่ยง แต่ก็ไม่อบอุ่น
ธาวินทร์เงียบไปครู่หนึ่งขณะตักข้าวต้ม แล้วพูดเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงสุขุมที่ไม่ต่างจากทุกวัน
“เย็นนี้หลังเลิกงานฉันมีเรื่องมีเรื่องอยากคุยกับเธอหน่อยนะ”
แค่นั้นประโยคธรรมดา แต่ดารัญกลับรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองหล่นลงไปอยู่ใต้ฝ่าเท้า มือที่ถือช้อนถึงกับหยุดกลางอากาศ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบไม่เหลือเสียงอื่นอีก
เพราะเธอรู้ว่าคำพูดนั้นไม่ใช่คำสารภาพรัก
ไม่ใช่คำสัญญาว่าจะเริ่มต้นใหม่ แต่เป็นคำเตือนล่วงหน้าว่า ความจริงอันโหดร้าย กำลังจะมาถึง
หลังจากเขาพูดประโยคนั้นจบ อาหารเช้าที่แสนอุ่น กลับเย็นชืดทันตา
ดารัญก้มหน้าลง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
เธอกลัว... กลัวสิ่งที่เขากำลังจะบอกในเย็นนี้ กลัวว่าทุกอย่างที่เธอก่อร่างสร้างขึ้นมาในสามปี จะถูกเขาทำลายลงในพริบตา
แต่ในความกลัวนั้น ยังมีเสียงของหัวใจตัวเองแทรกขึ้นมาเบาๆ
‘ได้โปรดอย่าให้มันเป็นอย่างที่ฉันคิดเลย’
เธอไม่ใช่ผู้หญิงเข้มแข็งอย่างในละครที่จะยิ้มรับทุกความผิดหวังแล้วเดินจากไปอย่างสง่างาม เธอแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่รักผู้ชายคนหนึ่งอย่างสุดหัวใจ
ดารัญไม่เคยอยากเปลี่ยนใคร เธอไม่เคยมองหาความรักจากที่อื่น เพราะตั้งแต่ในคืนแรกที่เขาแตะต้องเธอ แม้มันจะไร้ซึ่งความอ่อนโยน แต่หัวใจของเธอก็เริ่มผูกพันกับเขาทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว
จะมีผู้หญิงคนไหน อยากมีสามีหลายคนกันล่ะ
เธอแค่อยากรักคนเดียวไปตลอดชีวิต แค่อยากเป็นผู้หญิงของเขาเพียงคนเดียว และแค่อยากให้เขาหันกลับมารักเธอสักนิด แม้แค่เศษเสี้ยวของใจ
แม้สามปีที่ผ่านมา เธอจะไม่ได้อะไรจากเขาเลย
นอกจากสถานะภรรยาที่ไม่มีทะเบียนสมรสค้ำประกัน และร่างกายที่เขาแตะต้องเพียงเพื่อระบายความใคร่ในบางคืน แต่เธอก็ยังเลือกที่จะอยู่เพราะรัก มันไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น
ในเช้าวันนั้น เธอพยายามฝืนยิ้ม พยายามบอกตัวเองว่ามันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด แต่หัวใจกลับเต้นระรัวอย่างหวาดกลัว
เพราะลึกๆ แล้ว เธอรู้ดีว่าเมื่อคนรักเก่ากลับมา ผู้หญิงอย่างเธอที่เป็นเพียงตัวแทนก็ไม่มีวันชนะความทรงจำของรักแรก ที่เขาเฝ้ารอเสมอมา
************************