ขอพิชิตใจตัวร้าย (ตอนที่4)
“ทำไมไม่หลบ” เขาเอ่ยนำ้เสียงตำหนิ
“ขอโทษนะครับพี่” ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบกลับร่างสูง เด็กที่ตะโกนให้เธอหลบลูกบาสเมื่อกี้วิ่งมาเก็บลูกบาสพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษเราทั้งสอง
“ไม่หรอกที่หลังระวังกว่านี้นะ” ไพรินเอ่ยกลับไป
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำพูดเธอก่อนจะวิ่งกลับไปที่สนามบาสไพรินหันไปสบสายตากับคนที่ช่วยเธอไว้
แอบดีใจที่อย่างน้อยพี่เพลิงก็ช่วยบังไว้ไม่ได้เมินเธอ
“ขอบคุณนะคะ” เธอเอ่ยตอบร่างสูงเสียงอ่อนจากเมื่อกี้ยังขึ้นเสียงใส่เขาไปอยู่หยกๆพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ชายหนุ่มดูจะแปลกบางครั้งทำเป็นไม่สนใจใยดีเธอแต่บางทีก็ใจดีด้วยขึ้นมาซะง่ายๆ
พอคิดขึ้นมาแล้วเธอก็รู้สึกไม่อยากให้เขามีจุดจบแบบในนิยายโดนพระเอกยิงตายโทษฐานทำผิดกฎหมายและลักพาตัวนางเอก แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเริ่มทำสิ่งไม่ดีรึยัง
จำเนื้อหาในนิยายไม่ได้ละเอียดด้วยสิ
เธอไม่อยากให้มันสายเกินไปจนแก้ไขอะไรไม่ได้อีก...
“ขวัญเสียรึไง”หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองเผลอทำสีหน้าเศร้าขึ้นมาให้เขาคิดไปแบบนั้นรึเปล่า
“น่าจะใช่มั่งค่ะ วันนี้รินตกใจไปหลายรอบเลย”
ไพรินตอบกลับเพลิงกัลป์ก่อนจะเข้าสู่ห้วงความคิดตัวเองอีกรอบ
คิดดูแล้วถ้าเขาเริ่มเข้าสู่ด้านมืดไปแล้วจริงๆเธอจะมีพลังมากพอฉุดรั้งเขาขึ้นมาได้บ้างไหมหรือเธอควรจะไปขอร้องนางเอกของเรื่องที่เขารักสุดหัวใจให้ช่วยเตือนสติเขาแทนดี...?
ไม่ว่าจะทางไหนนางร้ายอย่างเธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมากเลยสินะ
บ้าน
ไพรินเอาเรื่องของเพลิงกัลป์กลับมาคิดหญิงสาวเดินวนรอบห้องนอนอย่างใจอยู่ไม่สุขเธอไม่รู้ว่าอีกคนตอนนี้คิดอะไรอยู่และไปข้องเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมายรึยัง
เพลิงกัลป์เหมือนจะไปยุ่งกับการค้าวาอุธเถื่อนไปจนถึงยาเสพติตมันน่ากลัวมากสำหรับเธอตอนแรกชายหนุ่มก็ทำธุรกิจที่ขาวสะอาดแต่เพราะเหตุผลที่นักเขียนบอกว่าเขาอยากจะแข่งกับบริษัทคู่แข่งของพระเอกการทำธุรกิจด้านมืดทำให้บริษัทสามารถเติบโตและมีอิทธิพลใหญ่คอยช่วยเหลือและอีกเหตุผลหนึ่ง
เหมือนจะถูกใครสักคนบีบบังคับด้วย? แต่เหตุผลหลักๆที่เขียนบอกไว้คือเขาอยากจะเอาชนะพระเอก
แค่เพราะความอยากเอาชนะและอยากครอบครองนางเอกมันทำให้เขามีจุดจบที่น่าเศร้าตัวนางร้ายอย่างไพรินเองตอนจบในนิยายเธอจะทำร้ายนางเอกโดยการเอานำ้กรดสาดให้ใบหน้าเสียโฉมแต่เป็นเธอซะเองที่พลาดท่าให้แผนของตัวเองจนหน้าของเธอเสียโฉมแทนต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานไปตลอดซีวิต
มันเป็นตอนจบแสนเศร้าสำหรับทั้งตัวร้ายและนางร้ายของเรื่องแต่มันก็เกิดจากผลการกระทำของเจ้าตัวไม่ใช่ใครอื่น
แต่เมื่อเธอเปลี่ยนตอนจบของไพรินได้แล้วเธอก็จะเปลี่ยนตอนจบของเพลิงกัลป์เหมือนกัน...!
เมื่อเขารักนางเอกได้เธอจะทำให้เขาหันมารักเธอแทนได้เช่นกัน!
เมื่อเขาเข้าไปยุ่งกับสิ่งไม่ดีได้เธอก็จะดึงเขาออกมาให้ได้เช่นกัน!
เธอหวังเอาไว้แล้วตั้งแต่มาติดอยู่ในร่างนี้ เธอไม่ยอมให้คนที่เธอรักต้องมีจุดจบที่เลวร้ายเด็ดขาด
ทำขนาดนี้ขอให้พระเจ้าทรงเมตตาช่วยให้เธอทำสำเร็จด้วยเถอะ...
“เฮ้อ ว่าแต่จะทำยังไงดี” คิดสิ! อย่ามืดแปดด้านแบบนี้!!
ถ้ายังจะมารอแค่โอกาสให้ได้เจอหน้าเขาเธอคงพิชิตใจเขาไม่ได้แน่
เดี่ยวสิ!
มันยังมีทางนี้อยู่...!
“ปลาเห็นคุณพ่อไหม” เอ่ยเสียงร้อนรนถามปลาที่เดินผ่านมาพอดีเธอไปที่ห้องนอนแล้วก็ยังไม่เจอ
“คุณท่านอยู่ห้องทำงานค่ะ” สามทุ่มกว่าแล้วคุณพ่อยังเคลียร์งานไม่เสร็จอีกหรอ
“ขอบใจมาก”
ไพรินพาตัวเองเดินมาที่ห้องทำงานคุณพ่อทันที
“คุณพ่อยังไม่เสร็จอีกหรอคะ” เธอเดินเข้าไปใกล้มองดูเอกสารสีขาวที่กองอยู่มากมายตรงหน้าท่าน
“รินหรอ มาตั้งแต่ตอนไหนพ่อไม่เห็นได้ยินเสียง”
“รินเห็นประตูเปิดไว้อยู่เลยเดินเข้ามาน่ะค่ะ” มือเหี่ยวย่นถอดแว่นสายตาที่ใส่มาเป็นชั่วโมงออกไป
“พ่อคงลืมปิดตอนขึ้นไปเอาเอกสารที่ห้องนอนว่าแต่รินมาหาพ่อทำไม”
“คุณพ่อเสร็จงานแล้วหรอค่ะรินนวดให้ไหม”
“ไม่ละลูก ตกลงเรามีอะไร”
เธอส่งยิ้มให้คุณพ่อก่อนจะกลั้นใจเอ่ย “ที่คุณพ่อบอกให้รินไปฝึกงานกับพี่วายุรินขอไม่ไปได้ไหมค่ะ” ชายวัยใกล้ชราพอฟังแบบนี้แล้วก็คิดว่าลูกสาวของตัวเองคงจะเป็นนิสัยเดิมๆเขาคงเลี้ยงแบบตามใจเกินไปอีกฝ่ายชินกับการได้รับมากกว่าจะหามา
จะโทษใครก็ไม่ได้
ตัวเองเป็นคนเลี้ยงมากับมือ
“พ่ออยากให้เราได้ใช้สิ่งที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์”
“ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะ รินแค่อยากจะเปลี่ยนคนสอนงานริน”
“ลูกอยากให้พ่อสอนงานเราแทน” ตำแหน่งท่านประธานใหญ่อย่างเขาแค่เวลาจะกินข้าวยังหาได้ยากเลยไพรินรักวายุมาตั้งแต่เด็กเขาอุตส่าห์หาทางให้ลูกสาวได้ใกล้ชิดกับคนที่ชอบแต่กลับปฏิเสธมาแบบนี้
ไม่ใช่ว่าวายุได้มาทำอะไรให้ลูกสาวเขาหรือเปล่า?
แบบนี้คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้
“เปล่าค่ะรินรู้ว่าคุณพ่อยุ่งมาก” ร่างบางเดินมากอดแขนคุณพ่อก่อนใบหน้าหวานจะซบลงที่ไหลอย่างออดอ้อน
“รินแค่อยากจะไปฝึกงานกับพี่เพลิง” ชื่อของบุคคลที่เขาคิดว่าไม่น่าจะได้ยินออกมาจากปากของลูกสาวทำเอาคนเป็นพ่อนึกสงสัย
จริงอยู่ว่าไพรินกับเพลิงกัลป์รู้จักกันตั้งแต่เด็กแต่เขาไม่เคยเห็นไพรินจะสนใจอะไรเพลิงกัลป์เลยสักครั้งหนึ่ง
“ทำไมละลูก”
“รินเอ่อ” ซวยแล้วเธอลืมคิดเหตุผลเอาไว้
“รินว่าบริษัทของพี่เพลิงน่าสนใจดีค่ะ” บริษัทของวายุกับของเพลิงกัลป์ก็ทำธุระกิจเหมือนๆกันเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์มันจะมีอะไรให้น่าสนขนาดนั้นเลยรึไง...?
เอาเถอะ เพลิงกัลป์เขาก็เห็นมาตั้งแต่เด็กเหมือนกับวายุอีกอย่างถ้าลูกสาวเขาต้องการแบบนั้นทำไมคนเป็นพ่อจะให้ไม่ได้
“อีกไม่กี่วันเพลิงกัลป์จะมาที่นี้เดี่ยวพ่อจะคุยให้” หญิงสาวยิ้มอย่างดีใจกับคำตอบตกลงของคนเป็นพ่อ
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
“แต่ลูกต้องไปบอกวายุเองนะว่าจะให้เพลิงกัลป์สอนงานแทน” คำพูดของท่านทำเอาเธอนิ่งค้าง
เธอลืมอีกคนไปเสียสนิท...
“แต่ยังไงคุณพ่อก็จะให้รินไปฝึกงานกับพี่เพลิงใช่ไหมค่ะ”
“พ่อต้องดูก่อนว่ายังไงเพลิงกัลป์จะยอมไหมแล้ววายุจะว่ายังไง” เขาพอจะรู้อยู่บ้างว่าตอนนี้เพลิงกัลป์กับวายุมองหน้ากันไม่ติดไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจแต่มันพ่วงเรื่องผู้หญิงอยู่ด้วย
วายุจะว่ายังไงนะหรอ? เธอเชื่อเลยว่าถ้าบอกอีกคนอาจจะไม่ยอมให้เธอไปแน่เพราะยังไงวายุก็รักไพรินเหมือนน้องสาวแท้ๆอยู่ในตอนนี้และเขาคงไม่อยากจะให้ไพรินไปยุ่งอะไรกับศัตรูของตัวเอง
แล้วแบบนี้มันจะราบรื่นดีไหมเธอเองก็กังวลในใจรู้สึกคิดหนักขึ้นมาอยู่
.
.
.
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงที่โซฟาภายในบ้านของตนเองใบหน้าหล่อดูไม่ผ่อนคลายและเหนื่อยอยู่ไม่น้อยกับงานในแต่ละวันและเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดใจ
เรื่องของหญิงสาวตัวเล็ก ลานิล...
เขาไม่ชอบใจที่หญิงสาวอยู่ใกล้ชิดกับวายุแต่จะให้ไปแย่งเธอมาเขาก็ทำไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับสายตาที่มองมาอย่างหวาดกลัวนั้น
“ฮึ”เพลิงกัลป์อยู่ๆก็เผลอหลุดขำขึ้นมากับตัวเองริมฝีปากยกยิ้มที่มุมปากเมื่ออยู่ๆภาพของหญิงสาวร่างบางเจ้าของใบหน้าหวานที่เดี่ยวนี้มักจะวนเวียนมายุ่งกับเขาอยู่บ่อยๆโดยที่แทบจะเฉยชาใส่กันทุกครั้ง
น่าแปลกที่เขารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าอีกคนขึ้นมา...
