บท
ตั้งค่า

ขอพิชิตใจตัวร้าย (ตอนที่3)

ปลาแอบมองดูห้องครัวที่ตอนนี้เหมือนเธอจะเห็นภาพสนามรบกลายๆฉายออกมาหญิงสาวมองดูคุณหนูของตนเองที่กำลังวุ่นอยู่ในครัว

“คุณหนู...” เธอเอ่ยเรียกชื่อคนหนูเสียงแผ่วดวงหน้าหวานของไพรินพอได้ยินเสียงของเธอก็หันมาพร้อมกับแววตาสดใส

“ปลามีอะไร”

“คุณหนูกำลังทำอะไรอยู่หรอคะ” ปลาเดินเข้าไปใกล้คุณหนู สายตาลอบมองสถานที่ห้องครัวที่ดูจะเละเทะอยู่ไม่น้อย

“เห็นเตาอบนะก็เลยนึกอยากจะทำขนม”. ไพรินเอ่ยเสียงฟังดูร่าเริงริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มสดใสจนปลาต้องยิ้มตอบคุณหนูกลับไป

“ขนมอะไรเหรอคะ”

“บราวน์นี่ นี้ใกล้จะเสร็จแล้วนะเหลือเอาเข้าเตาอบ” ปลาเห็นคุณหนูที่ถือถาดที่ใส่เนื้อขนมอยู่อยากจะเอ่ยถามอยู่ว่าได้ชั่งตวงอะไรหรือเปล่าแต่พอดูสีหน้าคุณหนูที่ดูจะตั้งใจทำมากๆแล้วเธอควรเงียบเอาไว้ดีกว่า

เห็นสีหน้าตั้งอกตั้งใจทำแล้วครั้นจะเอ่ยถามก็กลัวจะไปทำให้อารมณ์คุณหนูไม่ดี

.

.

.

“ลองชิมดูสิ” ปลาอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูจนอบขนมเสร็จมองดูแล้วหน้าตาดูไม่เหมือนบราวน์นี่เลยสักนิดถ้าจะเหมือนคงมีแค่สีดำของขนมอย่างเดียวเท่านั้น

“ชิมหรอคะ” เธอเอ่ยถามคุณหนูเสียงดูจะสั่นๆ

“ใช่ถึงหน้าตาจะดูใช้ไม่ได้ไปสักหน่อยแต่มันไม่ได้เลวร้ายเลยนะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คุณหนูยังไม่หยิบไปชิมเลยสักชิ้นเดียวแต่ให้เธอชิมก่อนแบบนี้เรียกมัน...

เรียกว่าเป็นหนูทดลองรสชาติรึเปล่ากันละเนี้ย...?

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เธอก็ยอมหยิบมันมาชิมเข้าปากไปอยู่ดี

ไพรินตาประกายอย่างมีความหวังเมื่อปลากัดก้อนบราน์นี่ที่เธอทำเอาเข้าปากกำลังลุ้นว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไงเพราะรู้สึกเสียใจกับหน้าตาขนมไปแล้ว

“อร่อยคะคุณหนู” หญิงสาวอยากจะเชื่ออีกคนพูดอยู่นะแต่พอเห็นหน้าตาที่ดูออกว่าฝืนแล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองเบาๆ

“กินอีกสิ” เธอนึกอยากจะแกล้งอีกคน เห็นสีหน้าเหวอพอเธอพูดจบแล้วอยากจะหัวเราะรั่ว

“ก็พอจะรู้หละนะว่าคงไม่อร่อย. แต่ขอบใจนะที่อุตส่าห์กินให้”

“เอ่อมันแค่ขมไปเองนะคะคุณหนู” ขมหรือไหม้เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันอบมั่วๆไปแบบนั้นสูตรอะไรก็ไม่มีนึกอยากจะทำก็นึกเอาจากที่เคยทำเมื่อตอนก่อนโน้นเอา

“ไม่ต้องมาปลอบเลย” เธอพูดนำ้เสียงขี้เล่นก่อนจะหันไปคว้ากล่องพลาสติกใสหยิบบราวน์นี่ที่เหลือใส่กล่องลงไป

นึกเสียดายอุตส่าห์ยืนหลังคดหลังแข็งทำจะทิ้งลงถังขยะก็ยังไงอยู่เอาไปให้นกหรือสัตว์อะไรสักตัวลองชิมดูถ้ามันไม่กินให้จริงๆก็คงต้องทิ้งไป มือเรียวหยิบมาชิมดูชิ้นหนึ่งกัดเข้าไปยังไม่ทันได้เคี้ยวก็สัมผัสได้ถึงรสขมแบบที่ไม่ใช่รสของชาติของช็อคโกแล็ต

เธอคงอบมันนานมากเกินไปจนมันได้รสขมไหม้นิดๆออกมา

“ปลาฝากทำความสะอาดครัวหน่อยนะ เดี่ยวกลับมาจะซื้อขนมมาฝาก”

“ได้ค่ะ คุณหนูจะไปไหนหรอคะ”

“ออกไปสูดอากาศนะ”

ไพรินมาที่สวนสาธารณะเล็กๆของหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกมาไกลจากบ้านของเธออยู่พอสมควรเธอเคยขับรถหลงมาเจอที่นี้เห็นสุนัขจรจัดหลายตัวที่น่าสงสารอยู่อย่างเร่ร่อน. หญิงสาวลงจากรถพร้อมกล่องบราวน์นี่ของตนเองและถุงอาหารสุนัขที่ก่อนจะมาพึ่งไปซื้อ

โฮ่งๆๆ

เห็นเขาว่ากันว่าพวกสัตว์รู้ว่าใครใจดีก็จะวิ่งเข้ามาหาพอเธอเดินเข้าไปใกล้ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงเห่าพร้อมกับหางที่ส่ายไปมาดุ๊กดิ๊กของพวกมัน

“มานี่มาลองชิมขนมให้หน่อย”ไพรินเปิดกล่องขนมตัวเองหยิบมันออกมาให้ตัวใจกล้าตัวแรกมันทำทีเข้ามาดมขนมเธอก่อนจะงับมันเข้าปากดีใจที่มันยอมกินให้ได้ไม่นานความรู้สึกผิดหวังก็เข้ามาแทนที่เจ้าตูบมันคายขนมที่ทำเธอออกจากปากอย่างไม่แยแส

ดูสิขนาดน้องหมายังไม่กินเลย

เศร้าใจกับตัวเองชะมัด...

“งั้นกินอาหารเม็ดเลยแล้วกัน”

หญิงสาวพอเทให้สุนัขเสร็จเธอก็ยืนดูพวกมันเพราะถ้าเกิดกินเสร็จจะได้เก็บกวาดเศษไปมันจะได้ไม่สร้างความสกปรกให้พื้นที่ตรงนี้ได้เธอมองดูสุนัขหลายๆตัวตรงหน้าของตัวเองแล้วได้แต่ยิ้ม

เธอเคยบอกกับตัวเองไว้ว่าถ้าวันไหนมีเงินเยอะๆมากแล้วจะช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์ที่เดือดร้อน และตอนนี้เธอก็มีมันมากพอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้

ตึก...ตึก

เสียงเท้าใคร...!?

หญิงสาวเผยสีหน้าระแวงเมื่อหูเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของคนดังใกล้เข้ามาจากด้านหลังเธอตัดสินใจหันไปมองว่าเป็นใครแต่เมื่อหันไปอีกคนก็มายืนอยู่ใกล้เธอมากแล้ว ผู้มาใหม่สูงจนเธออยู่ในระยะที่เห็นแค่ปลายคางอีกฝ่ายหญิงสาวตกใจตามสัญชาตญาณของคนที่พึงมีจนสะดุ้งตัวเดินถอยอย่างเร็วจนขาพันกัน

เธอกำลังจะสะดุดขาตัวเองล้มหงายหลัง!

!!!

“เหวออ” ดวงตาเหมือนลูกแมวเบิกกว้างมือเรียวคว้าสิ่งยึดเหนี่ยวใกล้ตัวอัตโนมัติเธอจับหมับได้เขาที่ไหล่ของอีกคนเพื่อเป็นสิ่งยึดเกาะไม่ให้ตัวเองล้ม เอวบางของเธอสัมผัสได้ถึงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ตกลงไปนอนเล่นกับพื้น

หญิงสาวไล่สายตามองคนตรงหน้าก่อนจะกระพริบตาปริบๆหัวใจเริ่มจะพองโตขึ้นมา

“พี่เพลิง” เธอเอ่ยชื่ออีกคนเสียงหวานใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวกับสถานการณ์ของเราสองคนตอนนี้ที่ดูเหมือนจะกำลังกอดกันอยู่

ไม่คิดว่าจะได้เจอเขาวันนี้ นึกว่าอีกห้าวันอย่างอีกคนบอกไว้ซะอีก

“ซุ่มซ่าม” ชายหนุ่มเอ่ยทักด้วยประโยคด่าแต่หญิงสาวยิ้มรับเขาผละตัวเองจากเอวเธอและถอยเว้นระยะห่าง

“รินแค่ตกใจก็พี่เพลิงมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงกันเลย”

“มาทำอะไรไกลขนาดนี้” เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับเธอก่อน ไพรินมองชายหนุ่มหน้าหล่อที่ยังทำตัวนิ่งเฉยใส่เธอเหมือนเดิมวันนี้อีกคนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เป็นชุดที่ดูธรรมดาแต่คนสวมกลับทำให้มันไม่ธรรมดา

เขาดูหล่อมากอย่างว่าละหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดีไปหมด

“รินมาให้อาหารน้องหมาค่ะ”

“ฮึ” เสียงหัวเราะในรำคอของเพลิงกับดังขึ้นให้เธอได้ยิน

“พี่เพลิงหัวเราะทำไม” หญิงสาวเอ่ยถามสายตาของเธอสบเข้ากับดวงตาสีนิลของชายหนุ่ม

“แปลกดี”แปลกดี...งั้นหรอ

อะไรกัน..!?

เขาเห็นเธอทำเรื่องดีๆแล้วว่าแปลกดีอย่างงั้นหรอ...

มุมดีๆเธอก็มีเถอะ

เธอทำหน้ามุ่ยกับประโยคที่เหมือนจะหลอกด่าตัวเองอยู่กลายๆ

“รินไม่ใช่คนใจร้ายซักหน่อย” ถึงเธอจะเป็นตัวร้ายแต่ใช่ว่าจะร้ายไปหมดทุกอย่าง

ในสายตาของเขาเห็นเธอโหดเหี้ยมขนาดนั้นรึไง...!?

“อือ” เพลิงกัลป์ตอบรับคำพูดของเธอใบหน้าหล่อทอดมองไปทางด้านหน้าไม่ได้เอ่ยอะไรมาอีก เธอเลือกจะยืนอยู่เงียบๆลอบมองใบหน้าเรียบเฉยและดวงตาคมกริบที่อ่านไม่ออกนั้น

ชายหนุ่มข้างตัวเธอมองดูวิวข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเหมือนตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง

“พี่เพลิงมาทำอะไรแถวนี้คะ”เธอเอ่ยถามเขาเมื่อผ่านไปได้สักพัก

“มาสูดอากาศ” เขาพูดจบประโยคหญิงสาวก็เผลอหลุดหัวเราะเบาๆกับตัวเอง ประโยคเมื่อกี้เธอพึ่งจะพูดมันไปก่อนออกจากบ้าน

ไพรินไม่ได้ถามอะไรเขาไปอีกทั้งสองยืนอยู่ข้างกันด้วยความเงียบ สายตาของเธอมองสุนัขหลายตัวที่กำลังกินอาหารเม็ดที่เธอให้จนหมด แล้วก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องไปตามเก็บเศษอาหารที่กินเหลือ

หญิงสาวลอบมองคนข้างกายเป็นระยะอีกคนเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเองอีกครั้งเขานิ่งเงียบสายตาทอดยาวอย่างเหม่อลอย

เป็นอีกมุมของเขาที่เธอพึ่งจะได้เห็น สัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยวยังไงไม่รู้แผ่ออกมา

เขารู้สึกยังไงบ้างนะภายในใจของเขากำลังเศร้าอยู่หรือเปล่า?

“พี่เพลิงลองชิมขนมให้รินได้ไหม” หญิงสาวนึกถึงขนมของตัวเองที่ทำขึ้นเธอชักอยากจะเห็นสีหน้าของอีกคนตอนได้ลองชิมขนมของเธอ

อยากจะรู้นักว่าจะยังคงทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิมไหม

มือเรียวหยิบกล่องขนมขึ้นมาเปิดฝากล่องออกแล้วยื่นไปตรงหน้าร่างสูงดวงตาสีนิลมองที่กล่องขนมของเธอเขายังนิ่งไม่ได้หยิบไปชิมอย่างที่เธอบอก

“แน่ใจว่าใช่ขนม?” นำ้เสียงที่ดูไม่เชื่อว่าไอ้ที่อยู่ในกล่องคือขนมทำเอาคิ้วของหญิงสาวกระตุกขึ้นอย่างหัวเสีย

ยังไม่ทันได้ชิมเลยมันเลยเขาก็ตัดสินไปซะแล้ว ใจร้ายสมกับเป็นตัวร้ายจริงๆ!

อยากรู้นักถ้าเป็นแม่นางเอกทำเขาจะว่ายังไง...!!

ถึงจะพูดย่างงั้นเพลิงกัลป์ก็ยอมยื่นไปหยิบขนมของหญิงสาวมาชิม เขาเอามันเข้าปากแวบแรกที่สัมผัสได้ไม่ได้ผิดไปจากที่คิดเอาไว้

ดูหน้าตาก็รู้ว่ารสชาติจะออกมาเป็นยังไงชายหนุ่มกลืนมันลงท้องไปจนหมดก่อนจะเอ่ยกับใบหน้าหวานที่มองด้วยสีหน้าดูจะลุ้นนั้น

“ไม่ได้เรื่อง” นึกว่าแค่นิสัยจะร้ายเธอพึ่งรู้ว่าปากของพ่อตัวร้ายก็ร้ายไม่แพ้นิสัยเจ้าตัว

ไม่ได้เรื่อง... เขาไม่ได้ถนอมนำ้ใจเธอสักนิด

“รินยืนทำตั้งหลายชั่วโมง” เธอเถียงเขากลับให้รู้ถึงความพยายามของตัวเธอ

“แต่รสชาติก็ไม่ได้เรื่อง” เพลิงกัลป์พูดเสริมต่อประโยคที่เธอพูดทำเอาหญิงสาวแสดงสีหน้าบึ้งใส่เขากลับไปทันที

ไม่ได้เรื่อง...คำที่สองแล้วนะ! คำแรกเธอยังพอทนได้

“รินคงทำแย่มากจริงๆ!” รู้สึกว่าตัวเองจะอารมณ์ขึ้นเร็วไปหน่อยแต่พอได้ยินคำพูดที่ดูไม่รู้สึกรู้สาความรู้สึกเธอแล้วมันก็หงุดหงิดขึ้นมา

เขาเรียกงอนสินะอาการแบบนี้แต่เธอคงไม่ถูกร่างสูงง้อหรอกเอาไว้หายงอนเองเมื่อไหร่เธอจะกลับมาทำตัวปกติใส่เขาเหมือนเดิมเอง

ไพรินหันตัวหนีอีกคนไปทางด้านหลังเตรียมจะเดินออกไปจากตรงนี้หนีหน้าชายหนุ่มไปอย่างไม่คิดจะเอ่ยลา แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไกลเสียงตกใจจากที่ไหนสักแห่งก็ดังขึ้นมา

“ระวังครับ!!” สายตาเธอมองดูลูกบาสที่กำลังพุ่งตรงมาหาตัวเธออย่างเร็ว

ลืมไปเลยว่าแถวนี้ใกล้กับสนามบาส!

เธอหลับตาปี๋จะหลบหนีจะอะไรก็คิดไม่ทันมันใกล้เข้ามาเร็วมากได้แต่ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง พระเจ้า!วันนี้มันวันซวยของเธอรึไง

ตุบ!

หญิงสาวได้ยินเสียงลูกบาสที่ตกลงสู่พื้นแต่ตัวเธอไม่ได้รู้สึกถึงแรงปะทะอะไรเลยดวงตาเธอลืมขึ้นมองอย่างฉงนสิ่งที่เห็นตรงหน้าตัวเองคือเพลิงกัลป์ที่ยืนบังตัวเธอเอาไว้อยู่

“ทำไมไม่หลบ” เขาเอ่ยนำ้เสียงตำหนิ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel