ขอพิชิตใจตัวร้าย (ตอนที่2)
เช้าวันใหม่
“คุณพ่อไปไหนแต่เช้า” ไพรินหันไปถามป้าแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่
ร่างบางอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีนำ้เงินเข้มผ้ามันลื่นขัดผิวขาวของตนเองและกางเกงยีนส์รัดรูปผมยาววันนี้ถูกมัดรวมเป็นหางม้าดูสวยสง่าและเท่ไปพร้อมกัน
ป้าแม่บ้านลอบมองการแต่งตัวที่แปลกตาไปของคุณหนูเงียบๆ
“คุณท่านเห็นว่ามีเรื่องด่วนน่ะค่ะ” เธอพยักหน้ากับคำตอบที่ได้ ก่อนจะหันไปสนใจอาหารตรงหน้าตัวเองตักข้าวต้มในถ้วยเข้าปาก
“คุณหนูคะ”
“มีอะไร” ไพรินตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้ามองคนที่ถาม
“คือว่า...” ยังไม่ทันได้เอ่ยบอกคุณหนู
เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อนทำให้ทั้งสองหันไปมองทางต้นเสียง
“ตื่นก่อนเที่ยงเป็นด้วยเหรอเรา” นำ้เสียงยียวนทำให้เธอหันไปมองเห็นร่างสูงของคุณพระเอกกำลังยืนทำสีหน้าล้อเลียนมาให้อยู่
ออร่ากระแทกใส่ตาเต็มๆหล่อสมกับเป็นพระเอกของเรื่องจริง ...เธออดชมไม่ได้
ในนิยายไพรินและวายุเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าวายุเห็นไพรินเป็นน้องสาวแท้ๆของตนเองการปฎิบัติด้วยที่ดูสนิทสนมมันเลยทำให้ใจหญิงสาวพองโตเป็นน้องสาวที่คิดไม่ซื่อกับพี่ชายเพราะความอบอุ่นความขี้เล่นนั้นที่อีกคนมีให้
ฉากนี้มีเขียนไว้อยู่บอกถึงเหตุผลที่ไพรินตกหลุมรักพระเอกถึงจะมีอยู่น้อยนิดเพราะที่เธอได้อ่านมันเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ในนิยายมีแต่ฉากรักหวานจนดูเลี่ยนของพระนางเกือบจะทั้งหมด
ถ้าให้เธอเดาเนื้อเรื่องตอนนี้ไพรินน่าจะไม่ได้ไปตามรังควานแม่นางเอกแน่คุณพระเอกถึงยังทำไมดีด้วยอยู่ หญิงสาววางซ้อนข้าวต้มลงก่อนจะเอ่ยถาม
“พี่มาทำไม” วายุคิ้วกระตุกกับนำ้เสียงที่ปกติดูจะอ่อนหวานตอนนี้กลับเอ่ยเสียงแข็งกระด้างใส่เขา
รู้สึกว่ามันแปลกจริงๆอย่างที่คุณอาบอกไว้ว่าไพรินมีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม
“โกรธอะไรกันรึเปล่าเรา” เสียงทุ้มเอ่ยดูอ่อนลงวายุเดินมาหยุดข้างหญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเธอ
มือหนายกมือมาจับที่หัวของเธอวางเอาไว้ไม่ได้ลูบหรือทำอะไรพร้อมกับส่งสายตาที่ดูแคร์เธอไม่น้อยมาให้ด้วยดวงตาคมลึกนั้นมีอนุภาคสูงมากทีเดียว
ก็พอเข้าใจเจ้าของร่างคนเก่าละนะทำไมถึงไปหลงชอบเขาเข้าได้
“เปล่าค่ะ” เธอตอบพร้อมเอนหัวหนีสัมผัสวายุเองก็ยอมผละออกไป
“จริง?”
“จริงค่ะ” หญิงสาวทำเสียงหวานตอบเผยรอยยิ้มสดใสเสริมคำพูดตัวเอง
“เราพึ่งจะทานข้าว?” วายุมองถ้วยข้าวต้มที่ยังเหลืออยู่เต็มถ้วยของหญิงสาวดูเหมือนเขามาผิดจังหวะ
“รินพึ่งทานไปได้คำเดียว”
“เดี่ยวพี่รอ” เขาจะมารอเธอทำไม...?
“มารอรินทำไม”
“คุณอาไม่ได้บอกเราหรือไง” เธอถามเขา เขายังจะมาถามเธอกลับอีก
“ไม่ รินไม่เห็นจะรู้อะไร”
“ทานเสร็จแล้วพี่จะบอกแล้วกัน” ชายหนุ่มเดินออกไปเมื่อพูดจบประโยคปล่อยให้เธอคิ้วขมวดเข้าหากันนึกสงสัยจนทำให้รีบตักข้าวต้มเข้าปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่มีอารมณ์ของจะมาลีลานั่งกินช้าแล้ว
“ตกลงมีเรื่องอะไรหรอคะ” ไพรินนั่งลงโซฟาตัวใกล้กับชายหนุ่มแทนที่จะนั่งตัวเดียวกันที่ยังมีที่ว่างอยู่สำหรับโซฟาตัวยาววายุลอบจับสังเกตท่าทางที่เปลี่ยนไปของไพรินปกติอีกคนชอบมาอยู่ใกล้ชิดเขาจนหลายครั้งทำให้รำคาญใจ
“คุณอาให้พี่สอนงานเรา” สอนงานเธองั้นเหรอ?
ลืมไปเลยว่าไพรินเรียนจบมาแล้วแต่ใช้เวลาทิ้งไปเป็นสองปีไม่ยอมทำงานทำการอะไรเลยสักอย่างแต่พ่อของเธอก็คิดว่าลูกสาวอยากจะพักผ่อนก่อนแต่คงจะทนให้อยู่เรื่อยเปื่อยแบบนี้ไม่ไหวแล้วแน่ๆจึงให้วายุมาสอนงานให้เธอแบบนี้
รู้สึกว่ามันเป็นจะจุดเริ่มต้นเข้าเรื่องดราม่าไพรินไปฝึกงานกับวายุจนเจอกับนางเอกแล้วเห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ดูลึกซึ้งให้กันเกิดความอิจฉาขึ้นมาเลยเผยอารมณ์ร้ายออกมาจนใครๆก็เอือมระอากันไปหมด
“อย่าบอกพี่ว่าเราไม่พร้อมนะนี้มันสองปีเข้าให้แล้ว” ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบเขาก็พูดดักเธอเอาไว้ก่อน
“รินยังไม่พูดอะไรเลย”
“พี่รู้นิสัยเราไง” หึรู้จริงรึเปล่าเถอะ! พอไพรินทำตัวแย่ๆดันพูดว่า“พี่ไม่คิดเลยว่าเราจะเป็นคนแบบนี้“ ตวาดใส่หญิงสาวซะยกใหญ่จนคนฟังขวัญเสีย
“ถ้าคุณพ่ออยากให้รินทำรินก็จะทำ เริ่มวันนี้เลยรึเปล่าคะ”
“คุณอาบอกให้พี่มาอธิบายรายละเอียดให้เราก่อนหรือเราอยากเริ่มวันนี้” ไพรินส่ายหัวในใจทันทีเมื่อฟังจบ
แน่นอนเธอคงไม่เริ่มวันนี้แน่
“ขอเป็นอาทิตย์หน้านะคะ”
“พี่ให้เวลาแค่ห้าวัน”
“งั้นหกวันได้ไหม”
“อีกสามวันเริ่มเลยแล้วกัน” อะไร!? แกล้งกันหรือเปล่า
ทำไมยิ่งขอยิ่งลดเวลาลงแบบนี้เล่า
คิดจะไม่ให้เธอได้เลือกเลยใช่ไหม...!
“ห้าวันก็ได้ค่ะ!” ไพรินตอบกลับไปเสียงฟังดูกระแทกใส่ชายหนุ่มไม่น้อยด้วยความลืมตัว
เธอเผลอทำนิสัยดื้อของตัวเองออกมา จนอยู่ๆก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเย็นๆรอบตัวของชายหนุ่มแผ่ออกมา
ใบหน้าสวยหันไปมองคุณพระเอกของเรื่องที่ทำหน้านิ่งขรึมมองเธอ
อะไรกันเล่า...
หญิงสาวหงอยขึ้นทันที
เธอไม่นึกจะจำไม่ได้ว่าเขามีโหมดแบบนี้ด้วย
“รินอย่ากระแทกเสียงแบบนั้น มันไม่น่ารักเข้าใจไหม” เสียงเหมือนดุเด็กที่เกเรเอ่ยบอกเธอ
มองสายตาที่เหมือนตำหนิตัวเองแล้วได้แต่ลอบถอนหายใจ
“รินขอโทษค่ะ” ไพรินบอกเขานำ้เสียงหงอยใส่ใบหน้าสวยพริ้มก้มหน้าตำ่ลงเหมือนเด็กสำนึกผิด
วายุไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับมาแต่มือหนาของเจ้าตัวยื่นมาลูบเบาๆที่หัวของหญิงสาวเขาจับหัวเธอโยกไปมาเบาๆราวกับเธอเป็นเด็กๆ ไพรินเงยหน้ามองเขาเห็นอีกคนส่งยิ้มอบอุ่นส่งมาให้พร้อมสายตาที่อ่อนโยนที่มองแบบนั้นทำเอาเธอเผลอยิ้มตามขึ้นมาอย่างคนลืมตัว
