ปิดปาก
หลังเลิกเรียน
“เลิกเรียนแล้วไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน” ดาหวันเดินมาชวน ในขณะที่ฉันกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าหลังเลิกเรียน
“ก็ดีเหมือนกันนะ กว่าพี่รามจะมารับ พวกเราน่าจะกินเสร็จพอดี” ฉันตอบพลางทำสีหน้าครุ่นคิด ไปหาอะไรทำก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้สึกเบื่อในระหว่างที่รอพี่ชายมารับ
“งั้นรีบไปกัน ขืนไปช้าเดี๋ยวคนเยอะ”
“ไปสิ” ฉันรีบวิ่งตามดาหวันที่เดินนำหน้าไป
เราสองคนเดินออกมาหาอะไรกินอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเวลานี้คนค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะเป็นเวลาเลิกเรียนพอดี
จนในที่สุด พวกเราสองคนก็ตกลงปลงใจที่จะเดินเข้ามาในร้านคาเฟ่เปิดใหม่ที่อยู่หน้ามอ
“กินอะไรดีพาย ขนมเต็มไปหมดเลย” ดาหวันหันมาถาม ก่อนจะชี้ไปยังตู้กระจกที่มีเค้กรูปร่างสวยงามวางเรียงอยู่ในนั้น
“นั่นสิ มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย” ฉันมองของกินที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ มันดูเยอะแยะละลานตาไปหมด อยากกินไปซะทุกอย่าง
“ฉันเอาเค้กวนิลาแล้วกัน ส่วนแกจะเอาอะไร?”
“ขอเป็นเค้กชาเขียวกับนมสดปั่น” ฉันตอบ
“งั้นนั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปสั่งให้เอง”
“โอเค” ฉันหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ได้ไม่ทันไร สายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินผ่านร้านไป พร้อมกับนักศึกษาสาวสวยอีกคนที่เดินตามหลังกันไปติดๆ
เขาคนนั้นคือพี่แผ่นดิน ไม่ใช่แค่ฉันที่มองตามนักศึกษาคนอื่นที่อยู่บริเวณแถวนั้นก็พากันมองตามเขาไปเหมือนกัน
“ดูหน้ายัยฟ้าสิ เห็นแล้วหมั่นไส้ชะมัด!”
“นั่นดิ เพราะเปิดตัวว่าเป็นเด็กของพี่ดิน นางก็ดูมั่นดูกล้าขึ้นเยอะ!”
“คนอย่างแผ่นดินไม่ควงผู้หญิงคนไหนนานเกินสองเดือนหรอก”
“ฉันเห็นด้วยกับแก ผู้ชายที่ใช้ผู้หญิงเปลืองกว่าทิชชูแบบแผ่นดิน ไม่มีทางที่จะลดตัวมาคบกับยัยฟ้าได้หรอก อย่างมากก็แค่หลอกฟัน!”
ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดเรื่องนี้ออกไป เมื่อได้บทสนทนาของนักศึกษาสาวอีกกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋าออกมาเล่นโซเชี่ยลเพื่อคั่นเวลา
“ฉันลืมกระเป๋าเงินไว้ในห้องน้ำหลังตึก แย่จริง!” ฉันโพล่งขึ้น เมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ก่อนจะเอามือทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดให้กับความขี้หลงขี้ลืมของตัวเอง
“รีบไปรีบมา เดี๋ยวฉันจะรออยู่ตรงนี้” ดาหวันตอบ พร้อมกับก้มหน้าก้มตากินขนมต่อ
“งั้นรอฉันอยู่ตรงนี้แป๊บนึง เดี๋ยวรีบมา”
“เออๆ เดี๋ยวฉันรอตรงนี้”
ฉันรีบเดินเข้ามาในห้องน้ำด้วยความรีบร้อน โชคดีที่ร้านขนมกับห้องน้ำหลังตึกอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาเดินประมาณห้านาทีก็ถึงแล้ว
ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบเพื่อหากระเป๋าสตางค์ที่ลืมไว้ แต่แล้วก็ต้องเอียงหูฟัง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติอะไรบางอย่างที่ดังอยู่ห้องข้างๆ
“พะ…พี่ไดมอนด์ อ๊ะ! อูยยย”
“พี่ดิน เบาหน่อยค่ะ อื้อออ ฟ้าเสียว มะ…ไม่ไหวแล้ว”
“อ๊ะๆๆ อื้อออ อร้ายยย”
“ปิดปากมันดิ เดี๋ยวคนอื่นก็มาได้ยินหรอก”
แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของคนทั้งสามที่กำลังมีอะไรกันอยู่ในห้องน้ำหลังตึก นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงตั้งสติแล้วหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวว่าพวกเขาจะได้ยิน แต่ดูเหมือนว่าสมองกับร่างกายมันจะไม่สัมพันธ์กัน เมื่อขาเจ้ากรรมดันถอยหลังไปชนถังขยะที่วางอยู่หน้าห้อง
เคร้งงงงง
“อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเกิดเสียงดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว
“ใคร!?” เสียงของไดมอนด์ดังขึ้น
“…..” เมื่อหันซ้ายหันขวาแล้วไม่เจอใคร ฉันจึงตัดสินใจรีบวิ่งหนีออกมาแบบไม่คิดชีวิต
“ใครอยู่ข้างนอก!?”
“ตามมันไปดิ!”
ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างรีบร้อน พร้อมนักศึกษาคนอื่นที่หันมามองฉันด้วยความสงสัย ว่าฉันกำลังวิ่งหนีอะไร
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”
“เฮือก!” ฉันถึงกลับสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงของไดมอนด์ที่วิ่งตะโกนตามหลังมาติดๆ
“เมื่อกี้เธอคงได้ยินหมดแล้วใช่ไหม?”
“ปะ…เปล่านะ ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับทำท่าทางให้เป็นปกติมากที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม
“โกหก ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน” ไดมอนด์ไม่พูดเปล่าแต่ยังเดินเข้ามาหาแล้วต้อนฉันให้เข้าไปในมุมตึก โดยที่มีแผ่นดินยืนมองอยู่ด้านหลัง
“…..” ริมฝีบางเม้มหากันแน่น เมื่อเห็นสายตาของไดมอนด์ที่มองมา
“ปิดปากของเธอให้สนิท ถ้าไม่อยากโดนแบบผู้หญิงคนนั้น!” แผ่นดินที่ยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้น ถึงพวกเขาไม่บอก ฉันก็ไม่คิดที่จะบอกใครอยู่แล้ว
“…..” ตัวของฉันมันเริ่มสั่นเทา เมื่อแผ่นดินเดินเข้ามาหา แล้วโน้มริมฝีปากลงมาใกล้ จนเราเกือบจะจูบกันอยู่ร่อมร่อ
“หรือถ้าเกิดเรื่องนี้หลุดไปถึงหูคนอื่น พวกฉันเอาเธอตายแน่!” สิ้นประโยคนั้น มือหนาของไดมอนด์ก็เลื่อนมาบีบที่ท้ายทอยของฉันอย่างแรง เพื่อให้หันหน้าไปหาเขา ในระหว่างที่ฉันกำลังจ้องหน้าแผ่นดินอยู่
“…..”
