ตอนที่1 : ความไม่เท่าเทียม
ห้างสรรพสินค้า
ช่วงบ่ายของวันอรุณรักถูกเรียกตัวมาให้มีหน้าที่ถือของให้คุณหนูของบ้านอย่างแพรพรรณ
"นี่นังอ้ายเดินเร็วๆได้มั้ย" หญิงสาวที่ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนมหันไปตะคอกใส่คนข้างหลังที่เสื้อเสื้อผ้าที่มีขายตามตลาดนัดซึ่งผิดกันอย่างสิ้นเชิง
"ค่ะคุณหนู" อรุณรักรีบถือถุงเสื้อผ้าที่แพรพรรณซื้อแล้วก้าวขาตามให้ทัน สายตาของคนที่มองมาที่เธอไม่ต่างจากเธอเป็นตัวตลก สมัยที่เรียนตอนประถมเธอก็ต้องคอยทำตามที่แพรพรรณสั่งแถมเพื่อนในห้องก็มักจะหัวเราะเยาะเธออยู่ตลอดจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอไปแล้ว
"แกรอข้างนอกแล้วกัน เข้าไปก็เกะกะ"
"ค่ะ" อรุณรักตอบรับอย่างง่ายดายก่อนจะหาที่นั่งหน้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใส่
"ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อได้นะ" นั่งบ่นพึมพ่ำอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า เธออยากลองใส่เสื้อผ้าสวยๆแบบนั้นบ้างแต่ชนชั้นอย่างเธอตัวละ199ยังว่าแพงเลย
"ทำไมอยากได้หรือไง?"
"เปล่าค่ะคุณหนู อย่างอ้ายไม่มีปัญญาซื้อหรอกค่ะ" อรุณรักรีบปฏิเสธเมื่อถูกจับได้
"หึ! รู้ตัวก็ดีล่ะนังเด็กบ้านนอก อย่าลืมกำพืดตัวเองล่ะว่ามาจากไหน" คำพูดแสนเจ็บปวดเข้าแทงลึกในใจของเธอเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ อรุณรักทำได้แค่ยิ้มบางๆแทนคำตอบและเป็นการสมเพชตัวเอง
"รีบตามมาสิฉันหิวข้าวแล้ว"
"ค่ะ" อรุณรักยิ้มร่าเพราะคิดว่าจะได้ไปกินข้าวเสียทีหลังจากที่ต้องเดินมาหลายชั่วโมง
"รอข้างนอก" เมื่อถึงร้านอาหารราคาแพงคำสั่งเด็ดขาดก็ถูกเอ่ยขึ้น
"คะ?"
"ฉันบอกให้แกรอข้างนอก ฉันจะไปกินข้าว"
"แต่ว่า..อ้ายก็ยังไม่ได้กินข้าวนะคะ"
"แล้วไง? ฉันจำเป็นต้องให้แกมานั่งร่วมโต๊ะกับฉันหรือไง ถ้าหิวก็ไปหากินที่อื่นสิ" ว่าจบก็เดินก้าวขาเข้าร้านอาหารไปโดยไม่สนใจคนที่กำลังยื่นทำหน้างงๆอยู่หน้าร้าน
"ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ ดีนะมีแซนวิชยู่ในกระเป๋า" ร่างบางหยิบแซนวิชที่ถูกทับจนลีบแบนออกมาจากกระเป๋าผ้าสีขาวที่เริ่มกลายเป็นสีเหลืองตามกาลเวลาออกมาเปิดกินอย่างไม่รู้สึกอาย
ประเทศจีน
บริษัท เฉิง คาร์
บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่มียอดขายอันดับ1ติดต่อกันมานานหลายปี เป็นบริษัทที่มีช่ืีอเสียงมีรายได้ต่อปีหลายพันล้านหยวนและยังมีบริษัทย่อยอีกหลายประเทศในเครื่อของเฉิง คาร์
"คุณเฉิงคะ บ่ายวันนี้มิสเตอร์สตีฟจะเข้ามาคุยเรื่องสัญญานะคะ"
"อืม" คำตอบสั้นๆของผู้บริหารเป็นอันว่าเข้าใจที่เลขาบอก เขาคือเฉิงฟาหยางหรือฟาหยาง นันทกุลวิโรจน์ ลูกครึ่งไทยจีนและเป็นลูกเสี้ยวอังกฤษโดยมีแม่เป็นคนไทยแท้และมีพ่อเป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษ เขาสามารถพูดได้มากกว่า5ภาษา ทั้ง อังกฤษ ไทย จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น เขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง25 แม้ปัจจุบันเขาจะอายุ30แล้วก็ตาม
"คุณเฉิงคะ เรื่องประชุมบริษัทที่ไทยคุณเฉิงจะไปเองหรือว่าจะส่งคนไปคะ" เลขาวัยกลางถามผู้เป็นนายด้วยความอยากรู้
"มีประชุมวันไหนนะ?"
"สัปดาห์หน้าค่ะ" ชายหนุ่มเหลือบมองปฏิทินบนโต๊ะทำงานก่อนจะชั่งใจคิดสักครู่หนึ่ง
"อืม...ผมไปเองดีกว่าอยากไปดูผู้บริหารที่นั้นด้วย"
"ได้ค่ะ ดิฉันจะจัดการเรื่องตารางงานให้นะคะ" ผู้บริหารหนุ่มพยักหน้ารับรู้ก่อนจะนั่งทำงานต่อให่เสร็จ เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่ชอบใช้เงินแก้ปัญหา อยากได้อะไรก็แค่เสนอราคาให้อีกฝ่ายพอใจก็เป็นอันจบ เพราะเขาคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความสุข
