บทที่ 5 ดอกบัวของจังหวัดไหน
ซิปโป้ในมือเคลื่อนไหวด้วยการบังคับของนิ้วมือเรียวยาวของกุมภา เสียงกระทบของมันส่งเสียงออกมาเป็นจังหวะการบังคับที่อยากให้มันเป็น มีหลายจังหวะที่สายตาของชัชวาลย์เหลือบมองเพื่อนตัวร้ายของตัวเองแต่ไม่เผยพูดอะไรออกมาทั้งนั้น
หลังจากที่เมื่อวานได้รับรู้อะไรออกมาหลายอย่างเพียงพอให้สามารถปะติดต่อกันออกมาเป็นเรื่องราว พอมาถึงวันนี้ตอนนี้ก็ได้มาอยู่ในอีกจังหวัดหนึ่งทางทิศตะวันออกตอนบนของประเทศ จังหวัดที่มีพื้นที่มากกว่าจังหวัดอื่นๆ เพียบพร้อมไปด้วยวัฒนธรรมและปะติมากรรม รวมไปถึงเรื่องความเชื่อ อีกทั้งอาณาเขตยังติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
ความจริงแล้วชัชวาลย์พึ่งมากับลูกน้องเมื่อวานนี้เอง วันนี้ก็ต้องมาอีกครั้งหนึ่ง มันต้องมีเหตุและผลมากอยู่พอสมควร ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่คนเอ่ยปากบอกจะไม่มาด้วย
สระแก้ว ตอนนี้ทั้งหมดรวมอยู่ที่นี่
“มึงมีอะไรไอ้กุม มาที่นี่เพื่อ?”
แล้วก็เป็นชัชวาลย์ที่อดทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากถามบุคคลที่ยังเงียบไร้การเปล่งเสียงเอ่ยพูดออกมา ชายหนุ่มวัยกลัดมัน รูปร่างสูงโปร่งเปล่งรัศมีออกมาเด่นกว่าคนอื่น แม้จะมีแว่นตาสีดำสวมปิดบังดวงตาเอาไว้แต่เพียงแค่เสี้ยวใบหน้าที่หันมามองก็ทำให้รู้สึกเสี่ยวสันหลังวาบ
ไอ้ห่าในวัดในวามันก็ไม่เว้น
ดุเหมือนหมาเลย
หมาที่กัดแล้วตายห่าแน่ๆ
ชุดผ้าฝ้ายมัดย้อมสีครีมแขนยาว มีการปักรูปช้างสีน้ำเงินบนหน้าอกข้างซ้ายเข้ากันดีกับกางเกงยีนสีดำสนิท ยิ่งเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายก็เหมือนเป็นที่จับตาของคนทั้งวัด กุฏิหลังเดิม สถานที่เดิมแต่เมื่อมีบุคคลใหม่ซึ่งเป็นพระรูปเดิมที่เห็นเมื่อวานเดินออกมาให้ได้เห็น ความสงสัยหลายอย่างผุดขึ้นมาในหัวชัชวาลย์อย่างสงสัย อย่างแรกกุมภารู้จักพระรูปนี้ได้ยังไง
“รออยู่ที่นี่”
แล้วความสงสัยก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นแต่ก็ถูกกุมภาขัดไม่ให้เข้าไปในกุฏิด้วย ทั้งชัชวาลย์และลูกน้องก็ต้องยอมรับอย่างจำใจแล้วนั่งรอบริเวณหน้ากุฏิด้านล่าง
“ไม่น่าเชื่อนะนาย ว่าโลกจะกลมขนาดนี้”
เสียงขาลเอ่ยขึ้น
“กูว่าไม่น่าเชื่อละ ไอ้กุมมันต้องรู้แน่ว่าพวกเรามาถามพระเมื่อวาน”
ไอ้นี่มันฉลาดเป็นกรด รู้ทุกอย่างอยู่ที่ว่าจะยอมเอ่ยพูดหรือไม่ก็แค่นั้น
“หรือจะเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เหมือนผม”
“มึงว่าตัวร้ายเรียกพ่อแบบมัน จะเป็นลูกศิษย์ใครได้”
“ไม่แน่เหมือนกันนะนาย”
ชัชวาลย์คิดตามคำพูดของคนเป็นลูกน้องแต่ก็ยังค้นหาคำตอบที่อยากได้ไม่ได้เลย เหมือนไม่มีจุดคลี่คลายของเรื่องทุกอย่างและก็ยิ่งมีการเพิ่มปมหนักเข้าไปทุกที เกือบครึ่งชั่วโมงกุมภาก็ออกมาจากกุฏิด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม สายตาราบเรียบเผยให้ชัชวาลย์ได้เห็นชัดเพราะคราวนี้ไร้แว่นตาสีดำขัดขวาง เมื่อเดินมาที่รถแล้วก็หยุดลง มีเพียงกระดาษใบเล็กที่ยื่นส่งให้ชัชวาลย์
“ชื่อจังหวัด มันเกี่ยวกับอะไรกันวะ”
“ให้มึงไปหามา ว่าสถานที่แม่มึงไปของน้องมึงมันอยู่ที่ไหน”
“บัวบูชา”
“อะไร”
“ชื่อน้องกูไง บัวบูชาหรือจะเรียกว่าบัวก็ได้”
“นี่มึงกวนตีนกูเหรอไอ้ชัช”
“เมียในอนาคต มึงจะได้จำไง” สิ้นเสียงของชัชวาลย์ สิ่งที่ลูกน้องต่างตกใจก็คงเป็นเสียงร้องเจ็บปวดของเจ้านายตัวเองที่โดน กุมภาเตะเข้าไปที่หน้าแข้งหนึ่งครั้งหนึ่ง เป็นครั้งหนึ่งที่ไม่ยั้งแรงและก็ไม่มีการออมมือใดๆ ทั้งนั้น “ไอ้สัส! เจ็บ แล้วว่าแต่ 6 จังหวัดนี้มันเล็กมากมั้ง”
ตั้งหกจังหวัด
“หึ”
“ยิ้มเยาะ สมน้ำหน้ากูอยู่สินะ”
“ใช่” การต่อล้อต่อเถียงที่เป็นเหมือนสงครามระหว่างกุมภาแล้วก็ชัชวาลย์ได้เกิดขึ้น แล้วก็ไร้การห้ามปรามใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งนี้ทำให้ชัชวาลย์นึกว่าภาพเก่าในอดีตมันค่อยๆ กลับมาฉายวนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง “อีกหนึ่งอาทิตย์ต้องรู้นะ ถ้าไม่น้องมึงก็จะอาการแย่ลง”
“อืม”
“ไสหัวกลับไปได้แล้ว”
“แล้วมึงละไอ้กุม”
“จะไปก็ต่อเมื่อได้รู้”
