บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ไม่เปลี่ยนแปลง (2)

บทที่ 4

ไม่เปลี่ยนแปลง (2)

“ผมรู้เรื่องจากกู้ภัยน่ะ ตอนนั้นผมโทรเข้าเครื่องคุณพอดี ก็เลยรีบมานี่แหละ”

“เลยรบกวนคุณ...” ลูกศรหลุบสายตาลง รู้สึกผิดที่ต้องรบกวนให้มานั่งเฝ้าเลขาธรรมดาอย่างเธอ

“ไม่รบกวนหรอก แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม ผมคุยกับหมอแล้วนะ แขนข้างขวาคุณหัก ส่วนพวกสมองและส่วนอื่นก็ปกติดี ไม่ได้มีเลือดคั่งอะไร ตรวจเรียบร้อยแล้วล่ะ”

จะพูดว่าโชคดีก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่จากการถูกรถชนอย่างรุนแรงและมีอาการเท่านี้ก็นับว่าฟ้าปรานีมาก

“แล้วแม่ฉันล่ะคะ แม่ของฉัน แม่ของฉันน่ะค่ะคุณเมศวร์ แม่ของฉันเขาก็โดนชนเหมือนกัน” สิ่งที่นึกได้ต่อจากนั้นก็คือแม่ตัวเอง

เธอจำได้ว่าตอนนั้นทั้งเธอและแม่ต่างก็ถูกรถชนพร้อมกัน สิ่งสุดท้ายที่จำได้ก็คือแสงไฟจากหน้ารถที่ส่องกระทบในระยะใกล้ ตามมาด้วยความเจ็บปวดจากการถูกชนอย่างรุนแรง แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดับสนิทไร้การรับรู้อีกเลย

“แม่ฉันล่ะคะคุณเมศวร์ แม่ฉันอยู่ไหน อยู่ห้องข้าง ๆ กันนี่เหรอคะ” ได้รับความเงียบจากราเมศวร์ที่ส่งกลับมาก็ยิ่งทำให้กระวนกระวายใจ มือเล็กยื่นไปจับที่ต้นแขนแกร่งของคนตรงหน้า หวังร้องเรียกหาให้เขาช่วยยืนยันถึงความสงสัย

“ลูกศร...” ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ เขายื่นมือไปกอบกุมที่แก้มใส ทอดสายตาสั่นไหวที่แสดงถึงความเจ็บปวดพานทำให้ลูกศรเริ่มใจไม่ดี

“ทำไมคะคุณเมศวร์ แม่ของฉันล่ะ แม่ฉันอยู่ไหน แม่อาการหนักมากเหรอคะ ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่เหรอ หรือว่าอยู่ที่ห้องไหน คุณพาฉันไปได้ไหมคะคุณเมศวร์ ฉันขอร้อง ฮึก...แม่ฉันอยู่ที่ไหน” แรงเขย่าที่ข้อแขนแรงขึ้นเมื่อไม่มีคำตอบใดเอ่ยออกมา

ราเมศวร์ตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับเธอทุกอย่าง ถึงอย่างไรแล้วเธอก็ต้องรับรู้ว่าแม่ของเธอไม่อยู่แล้ว

“แม่ของคุณเสียแล้วลูกศร หมอพยายามที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของท่านเอาไว้ได้” น้ำเสียงของราเมศวร์สั่นเครือเมื่อต้องพูดความเจ็บให้เธอฟัง เขาดึงรั้งเธอเข้ามากอด ใช้วงแขนและร่างกายอุ่น ๆ เป็นที่พักพิงหวังช่วยเยียวยารักษา

ลูกศรที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบใจสลาย ปล่อยระบายทุกความเสียใจออกมาผ่านหยาดน้ำตา แขนสองข้างกระชับกอดร่างกำยำอย่างแนบแน่นราวกับว่าเขาเป็นคนเดียวที่เธอไว้ใจมากที่สุด

“ฮึก...ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหมคุณเมศวร์ ฮึก...ไม่จริงใช่ไหมคะ” ใบหน้าหวานส่ายสั่นไม่ยอมรับความจริง พยายามคิดและกล่อมตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือเรื่องหลอกประโลม

“ไม่เป็นไรนะลูกศร ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้” พูดแล้วก็กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นกว่าเก่า เขาไม่อยากปล่อยเธอให้ห่างไปไหนเลย แค่ได้เห็นน้ำตา ได้ยินเสียงร้องไห้เขาก็แทบขาดใจเพราะรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่อยู่ข้างในของเธอ

หากความเจ็บปวดสามารถแบ่งบรรเทาได้เขาก็จะขอน้อมรับมันไว้เอง และหากแบ่งปันความสุขได้เขาก็จะขอส่งมันให้เธอจนกว่าจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายจนครบ

ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ปวดหัวใจได้ขนาดนี้ แต่รู้เพียงว่าตอนนี้ วินาทีนี้ เขานี่แหละที่จะเป็นที่พึ่งและอยู่เคียงข้างเธอเอง

หลังออกจากโรงพยาบาลลูกศรก็กลับมาจัดการเรื่องงานศพของแม่

ตั้งสวดอภิธรรมสามวันที่วัดแถวบ้าน เนื่องจากไม่มีญาติมิตรหรือคนรู้จักที่ไหนนอกจากเพื่อนบ้านละแวกใกล้

ราเมศวร์ช่วยเป็นธุระให้เกือบทั้งหมดเพราะเห็นว่าลูกศรเหน็ดเหนื่อยกับงานและรวมถึงร่างกายที่ยังไม่หายดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน คนช่วยงาน หรือแม้กระทั่งอาหารเสิร์ฟแขกเขาก็จัดหาคนมาช่วยทั้งหมด

“คุณเมศวร์ไม่เห็นต้องดีกับฉันขนาดนี้เลย คุณไปนั่งพักเถอะค่ะ ยืนมาทั้งวัน” ลูกศรหลังจากที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก็เดินเข้ามาหาคนตัวโตที่กำลังยืนรับแขกตั้งแต่เช้า

นอกจากการจัดงานเขาก็ยังมาต้อนรับแขกกับเธอ จนคนที่มาต่างก็พูดนินทาว่าเขาเป็นคนรักทั้งที่จริงแล้วเป็นเจ้านายที่ให้เงินเดือนต่างหาก

“คุณนั่นแหละไปนั่งพักเถอะ หน้าซีด ๆ นะ ผมว่าไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” ราเมศวร์บอกด้วยน้ำเสียงตำหนิ หากลูกศรกลับรู้สึกถึงความห่วงใยที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel