บทที่ 3 สัญญา (1)
บทที่ 3
สัญญา (1)
สองวันหลังจากนั้นราเมศวร์ก็นำสัญญามาให้ลูกศรเซ็น มันระบุชัดเจนถึงระยะเวลาและข้อตกลงระหว่างแต่งงานกัน ข้อความในสัญญาระบุไว้ว่าเธอจะต้องแต่งงานเป็นภรรยาของเขาระยะเวลาสามปี ข้อตกลงคือห้ามเปิดเผยเรื่องนี้และอีกยิบย่อยซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของการใช้ชีวิตด้วยกันทั้งหมด สิ่งพวกนั้นหญิงสาวไม่ได้คิดถามอะไรเพราะเข้าใจทุกอย่าง
เว้นเสียแต่จำนวนเงินที่ได้รับนั้นมีมากถึงสามสิบล้านทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าเธอเสนอไปเพียงหนึ่งล้านเท่านั้น
“ทำไมในนี้ถึงเขียนว่าฉันจะได้เงินสามสิบล้านล่ะคะ” ดวงตาหวานเต็มไปด้วยคำถาม เธอช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงปรากฏถึงความเรียบนิ่งอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ
“ก็ค่าจ้างของคุณไง สามสิบล้าน” ราเมศวร์พูดเหมือนว่าเงินสามสิบล้านเป็นแค่เศษเงินไม่มีค่า ทั้งที่ความจริงสำหรับลูกศรแล้วนั้นมากยิ่งกว่าชีวิตของเธอเสียอีก
“แต่ฉันขอแค่...”
“ตามนี้แหละ แล้วมีปัญหาอย่างอื่นหรือเปล่า พวกข้อตกลงน่ะคุณอยากปรับเปลี่ยนอะไรไหม”
“ไม่ค่ะ ฉันโอเคทุกอย่าง มีแค่เรื่องเงินนี่แหละ มันไม่มากไปเหรอคะ” ยังวนกลับมาเรื่องเดิมเพราะเห็นว่ามันมากไป เธอแต่งงานกับเขาสามปีแล้วได้เงินมากถึงสามสิบล้านเลยหรือ นี่มันยิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก
“ไม่มากหรอกน่า แต่ถ้าคุณยังไม่สบายใจงั้นก็คิดซะว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน ผมให้”
“ของขวัญอะไรแพงขนาดนี้กัน” หญิงสาวบ่นอุบอิบ หากแต่น้ำเสียงไม่ได้เบาบางเพราะราเมศวร์ได้ยินมันชัดเจน
“ผมจะโอนให้คุณก่อนสิบล้านแล้วกัน ถือเป็นการยืนยันว่าคุณจะไม่แต่งงานฟรี” พูดจบเสียงแจ้งเตือนจากมือถือของลูกศรก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นเป็นการแจ้งเตือนจากแอปธนาคารที่แจ้งว่ามีเงินโอนเข้าสิบล้านบาท
“คะ...คุณเมศวร์ ทำไมถึง...”
“เอาเงินนี่ไปจัดการปัญหาที่บ้านของคุณแล้วกัน อาทิตย์นี้ผมจะพาคุณเข้าไปพบแม่ผม ท่านอยากเจอลูกสะใภ้น่ะ”
ตกใจกับเรื่องเงินในบัญชียังไม่หาย ยังต้องมาตกใจกับคำพูดของเขาต่ออีก
“คุณบอกคุณท่านแล้วเหรอคะ”
“อืม บอกว่าคุณเป็นแฟนผม แล้วก็จะพาไปเจอหน้าเร็ว ๆ นี้ ถึงวันนั้นคุณก็ต้องเล่นละครหน่อยนะ แม่ผมคงจับผิดหนักมากเลยล่ะ เล่นให้เนียนอย่าหลุด”
ระยะเวลาแค่สองวันเขาสามารถนำสัญญาว่าจ้างและบอกเรื่องราวกับแม่ของเขาได้อย่างรวดเร็วประหนึ่งว่าผ่านไปนานเป็นสัปดาห์
“แน่นอนว่าแม่ผมไม่เชื่อ แล้วก็ไม่ค่อยชอบคุณด้วยเพราะคุณเป็นแค่พนักงานธรรมดา” ราเมศวร์บอกไปตามตรง ปัญหาสุดคลาสสิกของเรื่องนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องความเหมาะสมในการแต่งงาน
ราเมศวร์เป็นถึงลูกชายของนักธุรกิจชื่อดัง ประสบพบเจอกับปัญหาแม่บังคับให้แต่งงานกับลูกเพื่อนเลยต้องยกอ้างเลขามาเป็นแฟนบังหน้าเพื่อรอดพ้นชะตา ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้นด้วยการที่ว่าที่แม่ผัวขอเจอตัวลูกสะใภ้เพื่อจับผิด และเมื่อรู้ว่าคนคนนั้นเป็นเลขาผู้ใกล้ชิดที่อยู่ในตำแหน่งพนักงานจน ๆ ก็ต้องมีเรื่องจับผิดและขัดขวางเป็นธรรมดา
นี่มันเป็นบทละครเรื่องหนึ่งที่เห็นกันเกลื่อนจอโทรทัศน์ เขาเองก็แค่นำมันมารีเมคแต่งเติมให้เป็นอีกหนึ่งบทบาทตามแบบฉบับชีวิตจริงก็เท่านั้น
ในเมื่อคนที่เขาไว้ใจก็คือเลขาสาวคนนี้นี่ไง ถึงมันจะดูน้ำเน่าไปหน่อยแต่ก็คิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุด
“อ่า...ฉันเข้าใจค่ะ” ลูกศรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดเท่าไหร่เพราะระดับชนชั้นของเธอกับเขานั้นแตกต่างกันมาก
“เอาเป็นว่าคุณเอาเงินนี้ไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังเลิกงานแล้วผมจะพาไปซื้อชุด อย่างน้อยก็แต่งตัวให้มันเหมาะสมหน่อย”
“ค่าใช้จ่ายส่วนนี้นี่รวมกับสามเงินสิบล้านไหมคะ” หญิงสาวถามพลางยิ้มแหย
ราเมศวร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับชะงักไปก่อนจะส่งเสียงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ พูดพร่ำกับตัวเองในใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา
“ไม่รวม เดี๋ยวจัดการให้หมดเลย ไม่ต้องกังวลคุณได้เงินสามสิบล้านเต็มจำนวนไม่มีหักภาษีแน่นอน” พูดแล้วก็นึกเข่นเขี้ยวเธอไปด้วย
จากที่สังเกตแล้วเธอคนนี้น่าจะแสบพอตัว แต่ที่ต้องปั้นท่าเรียบร้อยก็คงเป็นเพราะตำแหน่งงานเท่านั้น
ก็ดี...น่าค้นหามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ นี่ก็ค่ำแล้วด้วย”
ราเมศวร์เอ่ยอนุญาตจึงทำให้หญิงสาวค้อมศีรษะและลุกเดินออกไป สองมือกอดกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้ยังสับสนมึนงงเพราะยังไม่มั่นใจเลยว่าข้อตกลงระหว่างเราสองคนนั้นเริ่มขึ้นจริงหรือเปล่า
เป็นเลขาหน้าห้องอยู่ดี ๆ ก็ดันได้เจ้านายมาเป็นสามี แถมยังมีเงินในบัญชีให้ใช้หลักสิบล้านอีก
ลูกศรได้แต่งงกับงง แต่ก็มุ่งตรงกลับบ้านเพื่ออยากสะสางปัญหาของที่บ้านให้แล้วเสร็จ
ตั้งใจจะนำเงินไปจัดการกับปัญหาของแม่ แล้วก็บอกเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังเพราะเธอคงไม่สามารถบอกเพียงว่าต้องแต่งงานกับเจ้านายเฉย ๆ ได้
ผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอคงไม่มีทางได้สามีเป็นคนรวยล้นฟ้าแบบราเมศวร์ และถ้าหากไม่ยอมบอกความจริงแม่ของเธอก็คงไปเค้นถามจากเจ้านายด้วยตัวเองแน่นอน
