บทที่ 2 - ของขวัญของขวัญ
แต่ตอนนี้เขาได้ลิ้มรสชาติความรู้สึกนั้นแล้ว เขารู้แล้วว่าไม่ใช่ตัวละครหรอกที่ปัญญาอ่อน แต่เป็นเขาเองที่คิดแบบคนด้อยปัญญาและหยาบกระด้างทางจิตใจ
เพราะหัวใจไม่ใช่ท่อนเอ็นในกางเกงที่จะเลือกทิ่มไปทั่ว แต่หัวใจเป็นก้อนเนื้อที่เต้นระรัวยามรู้สึกรัก และยามได้รับรักตอบแทน
ทว่าเมื่อหัวใจเจ็บปวดเพราะรัก และเลือกจะติดตามความรักที่จากไป มันคือความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
เจ็บเหมือนใครเอามีดมากรีดใจ มีอยู่จริง และเขากำลังรู้สึกทุกช่วงจังหวะลมหายใจเข้าออก
ยิ่งมาอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ วันเดิมๆ ความทรงจำเดิมๆ ที่รักเคยเบ่งบาน เขาก็ยิ่งเจ็บปวด
“อุ๊ย! ดาวตก อธิษฐานเร็ว”
เสียงนักท่องเที่ยวที่ร้องบอกกันทำให้เขาตื่นจากภวังค์
แทนไทเห็นดวงดาวตกจากฟากฟ้า เขาหลับตา ฝ่ามือกุมกล่องของขวัญแน่น หากจะมีพรสักข้อที่เป็นของเขาจริง เขาก็อยากจะขอ...
“ขวัญ... พี่ไม่อยากได้หรอกของขวัญปีใหม่ พี่อยากได้ของขวัญปีเก่า ขอพี่ได้ไหม ขอของขวัญของพี่กลับคืนมา”
แทนไทนึกไปถึงค่ำคืนนี้เมื่อ 1 ปีก่อน รีสอร์ตแห่งนี้ ระเบียงบ้านหลังนี้ คือความทรงจำเดิมๆ ที่มีคุณค่าต่อหัวใจเขา เขาอยากได้ทุกช่วงความทรงจำนั้นกลับคืนมา
ค่ำคืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เขากับครองขวัญออกมาเที่ยวต่างจังหวัดกันสองต่อสอง
เขารู้ว่าเธอไว้ใจถึงได้กล้ามาหรือหากจะเกิดอะไรขึ้นครองขวัญก็คงพร้อมใจมาแล้ว ทว่าเขาก็คิดเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีเหมือนกัน
เขามั่นใจว่าจะให้เกียรติครองขวัญและรักษาเกียรติของตัวเองไว้ได้อย่างแน่นอน เพราะครองขวัญเป็นผู้หญิงที่เขาอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเธอ หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องด้วยความพร้อมกายและพร้อมใจของครองขวัญเอง
เขาจะไม่ฉวยโอกาสอย่างเด็ดขาด
ในยามดึกที่ความหนาวมาเยี่ยมเยือนทุกอณูผิว เขากับครองขวัญนั่งแอบอิงชิดกันตรงจุดนี้ นอกจากเสื้อกันหนาวแล้วนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างมีผ้าห่มที่ทางรีสอร์ตจัดเตรียมไว้ให้คลุมกายอีกคนละผืน แต่เขาว่าก็ยังหนาวอยู่ดี เพราะระยะที่ใกล้กันขนาดนี้ เขาเห็นผิวแก้มของหล่อนเห่อขึ้นจากขนลุก
‘ถ้าขวัญหนาว ขวัญเข้าไปนอนในบ้านก่อนนะ เดี๋ยวใกล้ๆ เที่ยงคืนแล้วพี่จะไปเรียก’
เขาบอกหล่อนเบาๆ เพราะตกลงกันว่าจะข้ามปีเก่าไปหาปีใหม่ด้วยกัน
‘ไม่เอาหรอกค่ะ ขวัญจะนั่งเป็นเพื่อนพี่ไท นั่งคุยกันจนเคาท์ดาวน์เลยนะคะ’
‘แต่ขวัญหนาวแล้วนะ หน้าเห่อ ปากสั่นไปหมดแล้ว’
เขาจับแก้มเย็นๆ นั้นด้วยความเป็นห่วง และครองขวัญก็ยิ่งสั่นสะท้านไปทั้งตัว
‘ก็มันหนาวจริงๆ นี่คะ กรุงเทพฯ ไม่ได้หนาวแบบนี้นี่นา’
ปากน้อยๆ ที่พยายามขยับพูดก็สั่นจนเขาทั้งขำทั้งเอ็นดู ก็เพราะครองขวัญมีความเป็นธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่งอย่างนี้แหละ เขาถึงรักหล่อนอย่างไม่มีข้อแม้ และไม่อยากหักหาญเอาแต่ได้ ทั้งที่ก็อยากทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด
และค่ำคืนที่บรรยากาศเป็นใจ อากาศส่งเสริมแบบนี้ ก็ฉุดกระชากจิตใจฝ่ายต่ำของเขาออกมาอย่างแรง จนเขาอยากจะเอ่ยปากขอของขวัญปีใหม่เป็น ‘ครองขวัญ’ ซะดื้อๆ
แต่เพราะรักมาก เขาจะพยายามหักห้ามใจ ไม่ให้อะไรอะไรเกินเลย
แต่... แค่แนบชิดได้ใช่ไหม
‘งั้นเราห่มผ้าด้วยกันไหม’
ครองขวัญตาโตทำหน้าอึ้งๆ แต่แป๊บเดียวก็พยักหน้าอายๆ และเขาก็ไม่รอช้าขยับเข้าไปแนบชิดพร้อมนั่งซ้อนหลังของหล่อน นำผ้าห่มของเขาห่มทั้งตัวเขาและห่มตัวหล่อนในลักษณะที่เขานั่งกอดหล่อนเอาไว้
ครองขวัญอมยิ้มน้อยๆ เขารู้ว่าหล่อนอาย เขาเองก็อายไม่ต่างกันหรอก เวลาอยู่กับคนที่เรารัก สิ่งที่คิดว่ากล้าแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้กล้า แต่พอได้กล้าแค่น้อยนิด ความรู้สึกรุ่มร้อนก็กลับมาอีกจนได้
ยิ่งได้นั่งแนบชิดช่วงแผ่นหลังตลอดทั้งตัว โอบกอดร่างแบบบางหอมกรุ่นอยู่แบบนี้ ทุกลมหายใจเข้าได้กลิ่นแชมพูสระผมจางๆ และแน่ใจว่าถ้าขยับเข้าไปอีกนิด เขาจะได้กลิ่นสบู่ชื่นใจที่ผิวเนื้อ
เวลานั้นได้แต่กัดฟันกรอด เพราะสิ่งที่พยายามไม่คิดก็กลับมาจนได้ แต่เขาก็พยายามหักห้ามใจให้ถึงที่สุด
รู้ตัวดีว่าถ้าผ่านช่วงเวลาอยู่กับครองขวัญสองต่อสองในค่ำคืนนี้ไปได้ ก็เชื่อว่าตัวเองจะอดทนจนถึงวันแต่งงานได้อย่างแน่นอน
‘อุ่นขึ้นไหม’
‘อุ่นค่ะ อุ่นมากเลย’
‘พี่ก็อุ่น’
ครองขวัญหัวเราะน้อยๆ เขาเองก็เช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกันต่อ ได้แต่นั่งกอดกันอยู่แบบนั้นเพราะต่างฝ่ายก็ต่างเขินๆ นั่นแหละ
แค่อยากจะใช้เวลาซึมซับความรักและผ่านพ้นค่ำคืนของปีนี้ก้าวไปสู่ปีใหม่ด้วยกัน
‘ขวัญ... เอ่อ... มีของขวัญไว้ให้พี่ไทด้วยนะคะ’
‘อะไรเหรอ’
‘ไม่บอกหรอกค่ะ เซอร์ไพรส์’
‘พี่ก็มีของขวัญให้ขวัญเหมือนกัน’
‘อะไรเหรอคะ’
‘ไม่บอกเหมือนกันครับ เซอร์ไพรส์’
‘โหย... แล้วถ้าเจอของขวัญเซอร์ไพรส์กว่าล่ะ พี่ไทจะทำยังไง’
‘ทำยังไงล่ะครับ ทำไม่ทันแล้วล่ะตอนนี้ เอาเป็นว่ารอรับเซอร์ไพรส์จากขวัญดีกว่า’
‘ขวัญรับรองค่ะว่าพี่ไทต้องชอบแน่ๆ’
