05 | เลิกกันนะ
เมวีญาตัดสินใจจะนอนห้องของชายหนุ่มจึงคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นแม่บอกเหตุผลของการพักที่นี่ เพราะฝนตกหนักจนเกินกว่าจะกลับบ้านที่อยู่ห่างจากตัวเมืองหลายกิโลเมตรได้
“พรุ่งนี้ก็วันเสาร์พอดีหนูจะกลับแต่เช้าเลย”เสียงหวานเปรยให้ปลายสายฟัง
‘แน่ใจนะว่าจะไม่มีอะไรเกินเลย’
“ค่ะพี่ตี้ไม่ทำอะไรหนูหรอกแต่หนูนี่ก็ไม่แน่”เมวีญาหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจเมื่อได้ยินโวยวายของมารดาที่แผดมาเป็นกลองชุดตะลุงตุงแช่ก่อนจะกดวางสาย
“ไปอาบน้ำได้แล้วเอานี่เสื้อผ้าใส่ได้ไหม”เมื่อเลื่อนประตูกระจกเข้ามาในห้อง พิชยุทธ์ก็ลุกพรวดขึ้นจากที่นอนสาวเท้ายาวเข้าประชิดคนตัวเล็ก สองสายตาประสานกันเล็กน้อย เด็กสาวถอยหลังหนีจนหลังชิดกับประตูห้องน้ำฝ่ามือหนาวางลงบนไหล่บางลูบไล้ไปตามต้นแขนเรียว
กึก!
กรี๊ด!!!!
เมวีญาคว้าต้นคอแกร่งไว้แน่นเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออกด้วยน้ำมือของเขาที่ผลักเข้าไปจนเธอแทบหงายหลังแต่ยังดีที่แฟนหนุ่มเป็นหลักยึดเหนี่ยวของเธอได้เป็นอย่างดี เมวีญาถึงกับอ้าปากหวอด้วยความตกใจ
“หึ!”เขาเพียงยกยิ้มมุมปากที่ได้เอาคืนหญิงสาวได้ที่เมื่อกี้เจ้าหล่อนยังแกล้งทำเอาหัวใจดวงแกร่งเต้นระส่ำเขายอมรับเลยว่าเมื่อครู่ที่ร่างเล็กทาบทับอยู่บนลำตัวหนาแทบอยากกระชากเสื้อผ้าที่ติดตัวเธอออกให้หมดแล้วทำอย่างใจนึก
มันน่าไหมล่ะ! ที่มีผู้หญิงอยู่ในห้องแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ถ้าพวกไอ้นนท์ไอ้ธีรู้คงหัวเราะเยาะยันเขาตายแน่
“รีบอาบน้ำจะได้นอน”น้ำเสียงเข้มบอกก่อนจะปิดประตูให้เจ้าหล่อนดัง ปัง! เมวีญาสะดุ้งเล็กน้อยใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อถูกเขาสัมผัสเมื่อครู่ความรู้สึกแปลกใหม่ถาโถมเข้ามารู้สึกมวลที่ท้องน้อยแปลกๆ
ไม่รอช้าที่หญิงสาวจะปล่อยให้อารมณ์แปลกๆ ชักนำความรู้สึกค่อยๆ ปลดเครื่องแบบนักเรียนออกจากกายช้าๆ จนร่างเปล่าเปลือยและใช้น้ำจากฝักบัวชโลมร่างกายตั้งแต่ศีรษะให้สายน้ำไหลผ่านกายอวบอิ่ม
แอ๊ด!
พิชยุทธ์แง้มประตูเปิดออกเล็กน้อยใช้สายตาสอดส่องมองคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังอาบน้ำ สะโพกงามงอนผุดผ่องขาวเนียนขาเรียวยาวของเจ้าหล่อนช่างสวยงามกลมกลึงทำให้คนมองอยากจะลูบไล้สัมผัส ปกติแล้วเธอจะชอบใส่กางเกงขาสั้นแต่เขามักจะไล่ไปเปลี่ยนมีอย่างที่ไหนนั่งมอเตอร์ไซค์ใส่ขาสั้น
“อุ้ย!”เมวีญาที่กำลังถูสบู่ไปตามร่างกายด้วยความนุ่มลื่นของมันทำให้เธอไว้ไม่อยู่ หญิงสาวเลยก้มไปเก็บจนคนที่แอบดูเห็นไปถึงไส้ในของเด็กน้อย แถมเลือดในกายหนุ่มสูบฉีดพุ่งพล่านกว่าอากาศข้างนอกที่เย็นเกือบหนาว แต่ใบหน้าหล่อเหลากำลังอาบไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดออกมา
คนถ้ำมองปิดประตูอย่างเบามืออย่างไม่ต้องการให้เธอได้รู้ตัว เขาพยายามควบคุมตัวเองอย่างสุดกำลังหวนนึกถึงสรีระที่สะพรั่งในวัยสาวแรกแย้มของเธอเหมือนตอนนี้ชายหนุ่มกลายเป็นพวกโรคจิตที่คิดถึงร่างกายของผู้หญิงทั้งที่หนุ่มฮอตอย่างเขาควรจะหาสาวสวยสักคนมานอนกกกอดเสียมากกว่าคิดถึงเด็กคนนี้
15 นาทีต่อมา
ร่างสูงนอนอยู่บนเตียงกว้างกระดิกเท้าไปมาในมือถือรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีวนไปวนมาก่อนจะปิดมันลงด้วยความเบื่อหน่าย มีแต่ข่าวการเมืองที่ชายหนุ่มไม่ค่อยจะชอบดูสักเท่าไหร่ปลายเท้าหนักแตะลงที่พื้นก้าวเดินไปหยิบกีตาร์ที่ตั้งอยู่ข้างทีวีจอแบน
เขาจับคอร์ดกีตาร์ที่ไม่ได้เล่นนานมากแล้วก่อนจะสะบัดปลายนิ้วเรียวยาวขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะก่อนจะใช้มือถือของตนเข้าอินเตอร์เน็ตหาเนื้อเพลงและดูคอร์ดทำนองเพลง แล้วเปล่งเสียงพรำเพลงเบาๆจนถึงท่อน ฮุกของเพลง
‘ขอบคุณที่เธอผ่านเข้ามา ให้ฉันได้รู้ว่าความรักที่ทุ่มเทอาจจะทำร้ายให้เราเสียใจแต่เราจะเดินผ่านพ้นมันไปในสักวัน’
Cr. Sukhumvit66
แอด!
เมวีญาเปิดประตูห้องน้ำออกมาอย่างช้าๆ เช็ดเท้าที่เปียกกับพรหมเนื้อนุ่ม สายตาหวานมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งเปลือยอกเล่นกีตาร์อยู่บนเตียงตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะเล่นเครื่องดนตรีพวกนี้เป็นแถมร้องเพลงได้ไพเราะขนาดนี้เธอมั่นใจได้เต็มอกว่ารักเขามากจริงๆตลอดเวลาที่คบกันมาถึงแม้จะไม่นานเท่าไหร่
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาดูแลเธอดีทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องใดๆ จะเสียตรงที่ชายหนุ่มยังไม่เลิกเจ้าชู้ซึ่งตรงนี้เธอไม่เกี่ยงหรือแง่งอนถึงเขาจะมีใครแต่ตัวเขายังอยู่ที่เธออาจจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ถ้าเขาพลาดพลั้งกับคนอื่นในระหว่างที่คบกันหัวใจเธอคงสลายเป็นเสี่ยงๆ ที่ให้เขาเหยียบเล่นเป็นแน่
“อ้าว! ออกมาตอนไหน ถึงไม่ให้สุ้มให้เสียง”สายตากว้างไกลหนึ่งร้อยแปดสิบองศาเงยมองคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและวางกีตาร์พิงข้างเตียงเอาไว้เช่นเดิม
“หนูมันพวกชอบสุ้มนี่คะ”เด็กสาวพูดอย่างไม่คิดอะไรฉีกยิ้มหวานละลายใจให้เขา
“…”พิชยุทธ์อึกอักกับคำที่เจ้าหล่อนพูดก่อนจะเสสายตาไปทางอื่นหญิงสาวรู้ว่าเขาแอบมองเธออาบน้ำหรือเปล่านะ เขาจะดูเป็นพวกโรคจิตในความคิดเธอหรือเปล่าความกังวลตีวนอยู่ในหัวสมองของปาร์ตี้จนอยากจะหายไปจากตรงนี้นัก
“พี่ตี้”เมวีญาเรียกชื่อชายหนุ่มก่อนจะวิ่งเข้าหากอดคอเขาแน่น พลางนั่งลงบนตักหนาในตอนที่เขานั่งบนเตียงเช่นเดิมแล้ว
“เฮ้ย! เล่นอะไรเนี่ยเด็กบ้า”เขาใช้ลำแขนแกร่งยันเตียงเอาไว้แล้วส่งเสียงดุใส่เธอ เมวีญาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความรู้สึกหลากหลาย แล้วส่งรอยยิ้มให้เสียจนหวานฉ่ำริมฝีปากเล็กจูบบนแก้มสากหนึ่งฟอดใหญ่จนหนุ่มนักรักอึ้งเล็กน้อย
“หนูรักพี่ปาร์ตี้นะ”คำบอกรักถึงแม้ว่าเธอจะพร่ำบอกเขาเป็นประจำทุกวันจนเขาเคยชินแต่สำหรับหญิงสาวเธอกำลังรอคอยคำว่ารักจากปากเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“จ้ะ บอกทุกวันพี่จำได้แล้ว!”ชายหนุ่มลากเสียงยาวไม่สะทกสะท้านอะไรเขาอาจจะดูเป็นคนเฉยชาในความรู้สึกของคนอื่นที่มองแต่เขากับชอบและรู้สึกดีทุกครั้งที่เด็กสาวบอกรัก
“พี่ตี้...หนูอยากจะขออะไรได้ไหมคะ”
“อยากได้อะไรล่ะลิปกระเป๋าหรือโมเดลการ์ตูน”เขาถามอย่างใจปล้ำเพราะปกติเธอจะขอให้ซื้อให้อยู่แล้ว ฝ่ามือหนากอดกระชับที่เอวบางรั้งให้แนบชิดกันมากขึ้น
“เปล่าค่ะ!”เมวีญาตอบแล้วทำแก้มป่องส่ายหน้า
“อืม....ฟอด! แล้วอยากได้อะไรคะ”ชายหนุ่มหอมแก้มนุ่มนิ่มที่นานๆ ครั้งที่เขาจะได้แนบชิดกับเธอขนาดนี้กลัวเหลือเกินว่าสักวันเจ้าหล่อนจะพลาดท่าเสียทีให้กับชายมากรักอย่างเขา ทั้งที่พยายามหักห้ามใจเท่าไหร่ก็ยังแพ้ไร้เดียงสาของเธอทุกที
“หนูอยากให้เราสองคนเป็นของกันและกัน!”เมวีญาตัดสินใจพูดออกไปด้วยความไร้ยางอายดวงตาทะเล้นของแฟนหนุ่มเปลี่ยนเป็นจ้องมองเธออย่างคนไร้เยื่อใยก่อนที่เขาจะดึงแขนเรียวที่คล้องลำคอแกร่งออกแล้วอุ้มร่างแน่งน้อยลงบนเตียง
“ทำไมพูดเหมือนคนไม่มีการศึกษา พี่ไม่อยากจะทำเรื่องอย่างว่ากับน้องทำไมอยู่ๆ ถึงพูดขึ้นมา!”เสียงกร้าวตวาดลั่นใส่หน้าเธอ แล้วมองดวงหน้างามที่กำลังเบ้ปากทำท่าจะร้องไห้ออกมา เขาโกรธที่เธอพูดจาโผงผางไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี แม้เขาอยากจะทำแค่ไหนก็ยังไม่ใช่ตอนนี้เจ้าหล่อนยังเด็กเกินไปเขามีจิตสำนึกมากพอ
“รังเกียจกันมากเหรอ อึก....ก็หนูทนให้พี่ไปนอนกับคนอื่นไม่ได้ไง”
“น้องรู้!”คำที่เธอพูดออกมาทำให้เขาตะลึงเล็กน้อยทั้งที่ตลอดเวลาที่คบหาดูใจกันชายหนุ่มพยายามบ่ายเบี่ยงหลบซ่อนไม่ให้เธอรู้ แต่เมื่อได้ยินในสิ่งเจ้าหล่อนพูดมาก็ประจักแจ้งแก่ใจแล้วว่าความลับไม่มีในโลก
“อึก…อื้อ”เธอเพียงล้มตัวลงกับหมอนซุกหน้างามกับหมอนใบใหญ่สะอื้นจนตัวโยนหวนนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่เธอไปหาเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ด้วยกัน เมื่อถึงลานจอดรถภายในหอสายตาหวานไปสะดุดกับเจ้าตั๊กแตนเขียวตัวใหญ่ 1000 ซีซีของปาร์ตี้แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะแฟนหนุ่มคงมาหาเพื่อน
แต่...เธอเดินขึ้นไปในหอพร้อมเพื่อนสาว ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกอดคอกันแน่นนำหน้าเธอเข้าไปในห้องหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องที่เพื่อนอยู่ เห็นเพียงข้างหลังก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเขาน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างมากมายกักกลั้นไม่อยู่ และจากนั้นเสียงครวญครางของชายหญิงที่เข้าไปเมื่อครู่ก็ดังออกมานอกห้องด้วย
เพื่อนของเธอต่างพากันมองหน้าและปลอบเธอยิ่งได้ยินยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในใจ จนเธอทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อรักเขามากถึงทำตัวเป็นปกติแต่ชายหนุ่มก็ยังมิวายเฉยชาไม่แสดงอาการใดๆ ให้จับสังเกตได้...จนมาถึงวันนี้วันที่อยากจะให้เขาทำแบบนั้นกับเธอเหมือนที่เขาทำกับผู้หญิงคนอื่นแต่กลับไม่แตะต้องเธอสักนิด
“โธ่เว้ย!”
เพล้ง!!!!
เขาไม่รู้หรอกว่าเธอไปรู้หรือเห็นมาจากไหนแล้วเขาก็ไม่สนด้วยว่าเธอจะรู้ความจริงหรืออะไร เพียงแต่ว่าเขาอยากให้เจ้าหล่อนหยุดร้อง และคนอย่างเขาปลอบใครไม่เป็นจึงใช้มือปัดโคมไฟบนหัวเตียงจนมันตกแตกเกลื่อนพื้น
ใจร้ายคนใจร้าย!
หญิงสาวรำพึงรำพันในใจยันกายลุกขึ้นด้วยใบหน้าหวานแดงก่ำขอบตาบวมเปล่งปลายจมูกเล็กข้นสีแดงระเรื่อก้าวขาลงจากเตียงแต่ไม่ทันไรร่างของเธอก็ล้มไปบนเตียงอีกครั้ง
“เฮ้ย! หนูเมย์”พิชยุทธ์กระโดดข้ามเศษโคมไฟเมื่อเหลือบเห็นเธอกำลังลงจากเตียงทำให้เขากอดเธอแน่นจากทางด้านหลังแต่สาวน้อยกับดิ้นรนพยายามหลุดออกจากอ้อมกอดของเขาให้ได้
“ปล่อย! หนูจะกลับบ้านหนูจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับพี่อีกแล้ว!”
“หนูเมย์พูดว่าอะไรนะ”ชายหนุ่มผงกศีรษะกดร่างเธอติดกับฟูกปาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนอย่างไม่อ่อนโยน ตอนที่เด็กสาวบอกจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเขาอีกนั่นแปลว่าอะไรกัน
