บท
ตั้งค่า

02 | มาที่นี่ทำไม?

ผ่านมาสามวันแล้วที่เมวีญาเอาแต่นอนละเมอ และนั่งจ้องแต่เครื่องมือสื่อสารเพื่อเฝ้ารอสายของใครบางคน อย่างว่าแหละผ่านมาหลายวันแล้วก็ไม่มีแม้แต่เบอร์แปลกโทรมามีเพียงเพื่อนของเธอไม่กี่คนเท่านั้นที่ติดต่อมา

“เฮ้อ! เขาคงเห็นว่าเราเด็กเกินไป”ใช่เธอคิดแบบนั้นก่อนจะผละออกจากสมาร์ทโฟนของตนเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นกดแป้นพิมพ์ร่ายยาวเพ้อฝันสำหรับพล็อตนิยายที่ตนวางไว้ หญิงสาวนิ่งคิดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครสักครู่

‘ความรักแสนหวานที่บางครั้งน้ำตาลอาจเทียบไม่ได้แต่เมื่อได้รักหรือชอบใครสักคนเราจะจมปรักกับมันจนลมหายใจสุดท้าย’นั่นคือคำที่เมวีญาเพิ่งพิมพ์เสร็จก่อนจะกรอกตาไปมาเพื่อคิดอารมณ์กับความรู้สึกตามตัวละครในนิยาย

ทว่าเสียงสมาร์ทโฟนที่วางอยู่ข้างโน้ตบุ๊กดังขึ้นทำให้ภวังค์ของการมโนอันต้องล่มจนสาวน้อยหัวเสีย ไหนจะเบอร์แปลกที่ไม่ได้บันทึกไว้อีกจึงเลื่อนรับด้วยแล้วพูดเสียงห้วน

“ฮัลโหล!”

“โว้! เสียงดุจังวะ”เสียงปลายสายตอกมายิ่งทำให้เธอปี๊ดแตกกว่าเดิม แม้น้ำเสียงจะคุ้นๆ ก็ตาม แต่กวนประสาทแบบนี้ หรือจะเป็นผู้ชายสุดหล่อมาดแมนที่เจอเมื่อสามวันก่อนนะคิดได้เช่นนั้นเสียงของเธอจึงเปลี่ยนเป็นระดับสอง

“สวัสดีค่ะเบอร์ใครคะ”เสียงหวานใสเจื้อยแจ้วจนคนที่ฟังยกเครื่องมือสื่อสารออกจากหูอย่างแปลกใจ

เมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้นิหว่า~

“จำพี่ไม่ได้เหรอเด็กน้อย!”

“อ๋อ! พี่คนนั้นนี่เองโทรมาจริงๆ ด้วย”ด้วยความดีใจเธอจึงเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติที่ไม่กดลงต่ำแต่กับหวานล้ำธรรมดาจนคนฟังถึงกับกลืนน้ำลายตัวเอง

เสียงคุยยังขนาดนี้ถ้าร้องครวญครางใต้ร่างเขาจะหวานขนาดไหน พิชยุทธ์คิดทั้งที่ภายในใจพยายามต่อต้านความคิดด้านมืดของตนเมื่อหญิงสาวยังเด็กจิตสำนึกของความเป็นคนจึงมี

“อืม...ลองโทรดูว่าติดหรือเปล่า”ร้อยเหตุผลถูกยกเอามาอ้าง แต่เมวีญากับยิ้มบิดตัวไปมาใครเชื่อก็โง่ก่อนที่ชายหนุ่มจะถามต่อ

“ชื่ออะไรเรา...ส่วนพี่ชื่อปาร์ตี้นะ”

“หนูชื่อเมย์ค่ะชื่อน่ารักจังนะคะ”ชื่อปาร์ตี้ดูน่าสนุกดีนะ! ความรู้สึกไร้เดียงสาของเธอทำให้คิดไปต่างๆ นานา ก็อย่างว่าเจ้าหล่อนแต่งนิยายรักเลิฟซีนร้อนแรงทั้งหลายมันก็มีความคิดอย่างนี้บ้าง

เมวีญาชอบแนวนางเอกโดนกระทำซะส่วนใหญ่ นิยายที่เธอแต่งพระเอกมักจะเจ้าชู้เหี้ยมโหดและโฉดซึ่งเธอดูว่าพวกนี้ดูมีเสน่ห์จะให้มีนางเอกคนเดียวก็กะไรอยู่เพราะบทสรุปคือนางเอกต้องเป็นที่หนึ่งเสมอและทำให้ได้ฉายา

นักเขียนสายดาร์ก!

“เมย์เหรอ”เสียงเข้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ค่ะ! งั้นหนูเรียกพี่ตี้แล้วกันนะคะ”

“อืม! อยากเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ”ชายหนุ่มบอกปัดทำเป็นไม่สนใจทว่าหัวใจดวงนี้กับชุ่มฉ่ำเบิกบานอย่างน่าแปลกประหลาด เสือนักรักที่ไม่เคยสนใจอะไรเล็กๆ น้อยๆกับผู้หญิงแต่สำหรับเธอคนนี้เพียงแค่กดรับสายใจเขาก็เต้นรัวตลอดเวลา กว่าสามวันที่เขารวบรวมความกล้าอยู่นานถึงตัดสินใจโทรหาและอยากจะน้ำเสียงหวานๆ ของเธอ

“ขอเรียกที่รักได้ไหมคะ”สาวน้อยหัวเราะคิกคักเขินอายที่กวนชายหนุ่มที่ตนกำลังสนทนาผ่านเครื่องมือสื่อสารในยุคดิจิตอลนี้

“หึ! แก่แดดนะเรา”ที่รักเหรอก็ไม่เลวนะ พิชยุทธ์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้เอ่ยออกไป เลยต่อว่าเด็กสาวแก่แดดแก่ลมเพื่อกลบเกลื่อนความพอใจเอาไว้

“ว่าหนูเหรอหนูไม่โกรธหรอกนะ”

“เด็กน้อยเอ๊ย! ไปนอนได้แล้วดึกมากล่ะ”ชายหนุ่มเค้นเสียงใส่ปลายสาย เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของเด็กสาว ไม่รู้ว่าจะขำอะไรหนักหนา แต่เธอก็ทำให้เขาอดลอบยิ้มไม่ได้

“จะนอนแล้วเหรอคะ”น้ำเสียงที่ฟังดูสลดลงของเจ้าหล่อนทำให้เขารู้สึกตงิดในใจขึ้นมาอย่างน่าใจหาย

“หนูยังอยากคุยอยู่เลย”

“พรุ่งนี้ไม่ไปเรียนหรือไง ห๊ะ!”

“โอเคค่ะ งั้นหนูนอนล่ะขอบคุณนะคะที่โทรมาเพราะหนูกำลังรอพี่อยู่ฝันดีค่ะ”นี่เธอพูดอะไรแบบนั้นไปยังไงเมวีญา รัวจบทีเดียวแล้ววางสายเท้าเล็กกระทืบลงพื้นอย่างแรงด้วยความเขินอายก็เธอชอบเขาจริงๆ นี่น่าชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยล่ะ เด็กสาวทิ้งตัวลงนอนโดยไม่ได้ปิดโน้ตบุ๊กด้วยซ้ำ

ผู้ชายอะไรหล่อขรึมดูภูมิฐานไหนจะหุ่นที่เธอเคยวาดฝันไว้เหมือนนิยายรักที่ตนเขียนว่าจะต้องพบเข้าสักวันแต่กับดีเกินคาดเสียเหลือเกิน ผ้าห่มสีน้ำเงินถูกคลุมร่างเล็กเอาไว้เมวีญายิ้มน้อยยิ้มใหญ่บิดไปบิดมาบนเตียงนานจนผล็อยหลับไป

“เด็กบ้าเอ้ยรู้จักผู้ชายดีหรือยัง”ปาร์ตี้ได้แต่นั่งคิดคำพูดใสซื่อของเธอเมื่อสักครู่ก่อนจะพาร่างหนาเดินออกมาระเบียงคอนโดมองออกไปไกลอย่างใช้ความคิดเมื่อวานก่อนเพื่อนรักอย่างธีรดลมาหาถึงคอนโดและยังขอเบอร์เด็กสาวที่มันบอกว่าเขาชอบนั่น

‘กูไม่จำเป็นต้องให้เบอร์น้องเขากับมึงเพราะน้องเขาให้กูมา’นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ธีรดลโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไล่เตะข้าวของในห้องเขาซะเละ ในเมื่อยัดเหยียดมาให้เขาเอง มีหรือที่เสือนักรักอย่างปาร์ตี้จะไม่เอา แต่เพราะเธอยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องอย่างว่าทำให้เขาหนักใจอยู่อย่างนี้ไงล่ะ

16:45 น.

เมวีญาที่ตอนนี้กำลังสารวนอยู่กับกองเอกสารมากมายที่หัวหน้าฝึกงานเอามากองให้เธอคัดแยกประเภทที่มองแล้วถึงกับตาลาย นี่กะจะไม่ให้กลับบ้านเลยใช่ไหม! เด็กสาวได้บ่นอุบอยู่ในใจแต่ยังก้มหน้าก้มตาทำต่อไป

ครืด!!! ครืด!! ครืด!

จู่ๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้นหญิงสาวละสายตาจากเอกสารขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความหงุดหงิดเมื่อถูกขัดจังหวะทำงาน ใครกันโทรมาตอนนี้วะ ฝ่ามือบางควานหาสิ่งนั้นก่อนจะสไลด์รับสาย

“ฮัลโหล!”น้ำเสียงที่แข็งโดยไม่สนว่าใครจะโทรมาตอนนี้เธอสนแต่เพียงว่าเอกสารตรงหน้าจะแยกยังไงให้เสร็จก่อนเวลาเลิกงาน

“รับสายผู้ใหญ่อ่ะพูดดีๆ หน่อย”ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวที่เธอจำได้ดีก่อนจะยกโทรศัพท์เอี้ยวหน้าดูเบอร์ที่โทรเข้ามาโป๊ะเชะสุดหล่อมาดแมน!

“อ้าว! พี่ตี้นี่เองแฮะๆ”เสียงสองถูกปรับอัตโนมัติเมื่อรู้ว่าเป็นใคร เมวีญาแทบอยากจะเอาหัวฟาดลงโต๊ะทำงานแรงๆ สักทีนึง เมื่อกี้เธอมัวแต่หงุดหงิดจนไม่ได้มองว่าใครโทรมาปกติจะเป็นเพื่อนสาวที่โทรมาเย้าแหย่เธอเล่นเพราะต่างคนต่างฝึกงานคนละที่

“หึ! ปรับเสียงสองเพื่อ…”

“อ้าว! ผู้ชายชอบผู้หญิงพูดเพราะนิ”

“ใครบอกมา”นั่นสิใครเป็นคนบอกเจ้าหล่อนมาจริงอยู่ที่ผู้ชายชอบผู้หญิงพูดเพราะเอาใจเก่ง แต่สิ่งเหล่านั้นต้องเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพยายามสูงเหมือนที่เธอกำลังทำ

“ก็…”จริงๆ แล้วเธอเป็นคนพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่แบบมีหางเสียงนั่นแหละเพียงแค่คาดไม่ถึงว่าเขาจะโทรมา

“ช่างมันเถอะ! แล้วอยู่ไหน”

“อยู่วิท’ลัยค่ะ พี่ตี้มีอะไรเหรอคะ”เธอถามด้วยความสงสัยทำไมเขาถึงถามว่าเธออยู่ที่ไหนด้วย

“อืม! เมื่อไหร่จะเลิกเรียน”เสียงราบเรียบถามต่อปลายเท้ากระดิกอยู่บนรถคันใหญ่ รอยยิ้มบางๆ ประดับใบหน้าหล่อเหลาเมื่อมีสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้เขา

“พี่ในที่ฝึกงานเขาให้แยกเอกสารอยู่ค่ะ”ในห้องฝึกงานเหลือเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นในตอนนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่พากันกลับบ้านหมดเหลือให้หญิงสาวที่เป็นเพียงเด็กฝึกงานรับแทน

“โอ๊ย!...น้องนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว กลับบ้านได้ล่ะมั้ง”สายตาคมมองนาฬิกาข้อมือตน เขาว่าถ้าฝึกในสถานศึกษาไม่น่าปล่อยเวลานี้นะคิดบ้างไหมว่าเด็กฝึกงานจะกลับบ้านดึกแค่ไหน แล้วทางที่เธอเดินไปรอรถยังเปลี่ยวอีก

แค่คิดปาร์ตี้ถึงกับคิ้วขมวดเขาไม่รู้ว่าจะไปเป็นห่วงเด็กสาวคนนี้ ทำไมถึงขั้นต้องมานั่งรอเธออยู่หน้าวิทยาลัยที่เจ้าหล่อนเรียน

“แล้วพี่จะมาเดือดร้อนแทนหนูทำไมล่ะคะ”ยิ่งคุยยิ่งหงุดหงิด ไม่รู้เขาจะขึ้นเสียงทำไมคนยิ่งเครียดอยู่ถ้าให้ทำจริงๆ ฟ้าก็คงจะมืดพอดีอีกอย่างป้ายรถเมล์ก็ไม่มีไฟส่อง

หนูเมย์อยากร้องไห้!

“เดือดร้อนดิวะรอเกือบครึ่งชั่วโมงล่ะ!”

“ห๊ะ! ระ...รอ”น้ำเสียงติดขัดของเมวีญาเอ่ยถามด้วยความสงสัยเขาเนี่ยนะรอเธอไม่จริงใช่ไหม

“จริงดิ! ยามเป่าไล่ตั้งหลายทีแหละ”ชายหนุ่มมองซ้ายแลขวาเพราะหน้าสถานศึกษาของเด็กสาวมีเส้นสีเหลืองกากบาทอยู่คือที่ห้ามจอดแต่คนอย่างปาร์ตี้ไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่งเสียด้วย ครั้นจะไปรอเธออีกฝั่งก็กลัวว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเดินไกล

“ออกมาเร็วๆ ล่ะ แค่นี้แหละ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel